ภาคเอกชนไทย พร้อมเป็นเจ้าภาพ APEC CEO Summit 2022

กรุงเทพฯ 11 ก.ค.- ภาคเอกชนไทยเดินหน้าเต็มกำลังในการเป็นเจ้าภาพการจัดประชุม ‘APEC CEO Summit 2022’ ระหว่าง 16-18 พฤศจิกายน 2565 ภายใต้แนวคิด ‘Embrace Engage Enable’ เพื่อส่งเสริมความมั่งคั่งและการเติบโตของประชาชนและสังคมในเอเชียแปซิฟิก สู่การปรับปรุงสภาพแวดล้อมทางด้านการค้า การลงทุน ตลอดจนการแบ่งปันแง่มุมทางนวัตกรรม เพื่อเสริมสร้างการเติบโตร่วมกัน


ดร.พจน์ อร่ามวัฒนานนท์ ผู้แทนหลักสภาที่ปรึกษาทางธุรกิจเอเปกประเทศไทย และประธาน APEC CEO Summit 2022  กล่าว่า ในฐานะประธานการจัดงาน เรามีความภูมิใจเป็นอย่างยิ่ง ที่ประเทศไทยได้รับหน้าที่เป็นเจ้าภาพการจัดประชุมของผู้นำทางธุรกิจและรัฐบาลที่ทรงอิทธิพลที่สุดในเอเชียแปซิฟิกอีกครั้งหลังจากปี 2003 นอกจากนี้ ยังเป็นการประชุมแบบพบปะกันเป็นครั้งแรกในรอบ 3 ปีหลังที่โลกเผชิญกับการแพร่ระบาดของโควิด-19 จึงนับเป็นบรรยากาศอันดี ที่ซีอีโอและผู้บริหารระดับสูงในแต่ละภาคธุรกิจ จะเดินทางเข้ามายังประเทศไทยเพื่อหารือเกี่ยวกับความท้าทายระดับภูมิภาค และมีส่วนร่วมในการเจรจากับผู้นำเอเปก ซึ่งจะเป็นโอกาสทางการค้าและการลงทุนให้เกิดขึ้นทั้งต่อประเทศไทยและในระดับภูมิภาค

สำหรับหัวข้อการประชุม APEC CEO Summit 2022 นี้ ประกอบด้วย Innovation, The Global Economy and the Future of APEC, Trade and Investment, Circular Economy in Practice, Digital Economy, Future of Work, Inclusive Growth, Healthcare after the Pandemic, และอื่น ๆ อีกทั้งจะมีการแลกเปลี่ยนมุมมองและวิสัยทัศน์ทางธุรกิจร่วมกัน โดยนอกเหนือจากประเด็นที่น่าจับตาในการผลักดันทางเศรษฐกิจ ความพิเศษของการประชุมในปีนี้ คือมีกิจกรรมที่บุคคลผู้มีชื่อเสียงจากภาครัฐ เอกชน รวมทั้งผู้นำเอเปกหลายคนขึ้นกล่าวสุนทรพจน์ในหัวข้อต่าง ๆ ที่กำลังเป็นประเด็นที่น่าสนใจและการประชุมครั้งนี้เป็นการประชุมแบบพบปะกัน ทำให้แสดงถึงสัญลักษณ์แห่งความมั่นใจของภาคเอกชนในการขับเคลื่อนโลกไปข้างหน้าอย่างมุ่งมั่นหลังการแพร่ระบาดของโควิดอีกด้วย


APEC CEO Summit หรือการประชุมสุดยอดผู้นำภาคเอกชนของเอเปก นับเป็นการประชุมชั้นนำของผู้นำเศรษฐกิจเอเปกและผู้นำชุมชนธุรกิจระดับภูมิภาคและระดับโลกจาก 21 เขตเศรษฐกิจ ในการพบปะ อภิปราย แลกเปลี่ยนข้อคิดเห็น และมีส่วนร่วมกับผู้นำโลก เพื่อร่วมกันพิจารณาทั้งประเด็นที่เกี่ยวข้องและประเด็นที่เร่งด่วนในการส่งเสริมกิจกรรมทางเศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อม โดยเป้าหมายของการประชุม คือการแสวงหาแนวทางการแก้ไขในประเด็นสำคัญระดับโลก ตลอดจนการจัดการกับความท้าทายที่ธุรกิจต่าง ๆ ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกและทั้งโลกกำลังเผชิญทั้งในยุคปัจจุบันและอนาคต.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

จำคุกสมรักษ์คำสิงห์

ศาลสั่งคุก 2 ปี 13 เดือน 10 วัน “สมรักษ์” พยายามข่มขืนสาววัย 17

ศาลจังหวัดขอนแก่น พิพากษาจำคุก “สมรักษ์ คำสิงห์” อดีตนักมวยฮีโร่เหรียญทองโอลิมปิก เป็นเวลา 2 ปี 13 เดือน 10 วัน พร้อมชดใช้ค่าสินไหมทดแทนรวม 170,000 บาท คดีพยายามข่มขืนเด็กสาววัย 17 ปี

Chinese foreign ministry in January 2025

ถอดบทเรียนจากจีน แก้ปัญหาฝุ่นพิษ PM 2.5 จริงจัง

ปักกิ่ง 23 ม.ค. – สถานการณ์ฝุ่นพิษ PM 2.5 ที่กำลังเป็นปัญหาใหญ่และเร่งด่วนในไทยอยู่ในขณะนี้ หลายฝ่ายกำลังหาทางแก้ไขด้วยการมุ่งไปที่ต้นตอที่ทำให้เกิดฝุ่น จากข้อมูลขององค์การอนามัยโลกระบุว่า ในปี พ.ศ. 2542 ประชากรโลกมากถึง 92% ได้รับฝุ่น PM2.5 ในระดับความเข้มข้นสูงกว่าที่องค์การอนามัยโลกกำหนด และถ้ารัฐบาลทุกประเทศไม่เร่งแก้ปัญหาอย่างเอาจริงเอาจัง ภายในอีก 7 ปีข้างหน้า หรือ พ.ศ. 2573 คุณภาพชีวิตคนทั่วโลกจะยิ่งเลวร้ายสุดขีด เพราะปริมาณ PM2.5 จะเพิ่มขึ้นจากเดิม 50% และประเทศที่สามารถพิสูจน์ให้เห็นเป็นตัวอย่างว่า หากรัฐบาลตั้งใจจริงจัง ทุ่มสรรพกำลังความพยายาม จะสามารถกำจัดปัญหาฝุ่นควันพิษได้อย่างแน่นอนนั่นก็คือ จีน   จีนเคยมีคนเสียชีวิตเพราะมลพิษในอากาศปีละหลายล้านคน แต่ทุกวันนี้แม้แต่ธนาคารโลกยังยกย่องจีนว่า เป็นแบบอย่างของความพยายาม สามารถพลิกฟ้าหม่นเพราะฝุ่น PM2.5 ให้กลับเป็นฟ้าใสได้สำเร็จ ความพยายามของเหมา เจ๋อตุง ผู้นำจีนที่มุ่งเปลี่ยนสังคมเกษตรกรรมเป็นสังคมอุตสาหกรรม ทำให้จำนวนโรงงานในจีนเพิ่มขึ้นทวีคูณภายใน พ.ศ. 2502 แน่นอนว่า นโยบายเศรษฐกิจของผู้นำจีนช่วยให้คนจีนหลายล้านหลุดพ้นจากขีดความยากจน แต่ก็ต้องแลกกับชีวิตและสุขภาพ เพราะควันพิษจากโรงงานทำให้ฝุ่น PM2.5 พุ่งในระดับเกินกว่าจะรับไหว กว่ารัฐบาลจะรู้ตัวว่าปัญหามาถึงขั้นวิกฤต […]

คึกคัก คู่รักจูงมือกันไปจดทะเบียนวันแรกกฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผล

วันนี้กฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ หลายคู่รักควงแขนไปจดทะเบียนสมรสกันชื่นมื่น ที่สยามพารากอน มีคู่รักที่ลงทะเบียนมาจดทะเบียนสมรสที่นี่กว่า 300 คู่

ผู้ป่วยเสียชีวิต

รพ.สิรินธร ยืนยันไม่มีผู้ป่วยช็อก-เสียชีวิต จากเหตุชายผิวสีคลุ้มคลั่ง

ผอ.รพ.สิรินธร ยืนยันไม่มีผู้ป่วยช็อก หรือเสียชีวิต จากเหตุต่างชาติผิวสีคลุ้มคลั่ง มีเพียงเจ้าหน้าที่ รพ.บาดเจ็บจากการถูกต่อยเล็กน้อย

ข่าวแนะนำ

ดีเอสไอจ่อล่องเรือใช้เลเซอร์สแกนจำลอง 3 มิติ สืบคดี “แตงโม”

ดีเอสไอ นำผู้เชี่ยวชาญหลายด้านเปิดประชุมนัดแรก ลุยสืบสวน “คดีแตงโม” จ่อล่องเรือใช้เลเซอร์สแกนจำลอง 3 มิติ หาพยานหลักฐานใหม่ และบินเก็บข้อมูลระบบ Cloud ในมือถือทุกคนบนเรือ-นอกเรือ

แก้ปัญหาฝุ่น

นายกฯ สั่งการด่วนคมนาคมออกมาตรการหยุด PM 2.5

นายกฯ สั่งการคมนาคมออกมาตรการเร่งด่วน หยุด PM 2.5 ให้ประชาชนนั่งรถไฟฟ้าทุกสาย-ขสมก.ฟรี 7 วัน 25-31 ม.ค.นี้ เตรียมใช้งบกลางกว่า 140 ล้านบาท ชดเชยผู้ประกอบการ เข้มตั้งจุดตรวจควันดำ 8 จุด รอบ กทม.-ปริมณฑล

เปิดรับการลงทุน

นายกฯ ย้ำบทบาทของไทยในเวทีโลก ที่ดาวอส พร้อมเปิดรับการลงทุน

นายกฯ ย้ำบทบาทของไทยในเวทีโลก ที่ดาวอส พร้อมเปิดรับการลงทุนสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจ ด้วยจุดแข็งด้านเกษตรกรรม Soft Power และอุตสาหกรรมที่มีความยั่งยืน มุ่งมั่นพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลและการค้าเสรี เร่งสร้างสภาพแวดล้อมทางการค้าที่เสรี เปิดกว้าง และยั่งยืน

ช้างหลุดเดินถนน

ระทึก! ช้างหลุดจากปางช้างเดินบนถนน รถเสียหาย 1 คัน

ระทึก! ควาญช้างและตำรวจเร่งติดตามช้างหลุดจากปาง เดินบนถนน ชนกระจกมองข้างรถยนต์เสียหาย 1 คัน สุดท้ายไปเจอเล่นน้ำอยู่ในลำธารอย่างสบายใจ