กรุงเทพฯ 6 ก.ค.-ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด คาดเงินเฟ้อปีนี้น่าจะอยู่ที่ 6% จีดีพีโต 3.3% และหากมีนักท่องเที่ยวเข้ามาเดือนละ 1 ล้านถึง 1 ล้าน 5 แสนคน จะทำให้ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นในช่วงปลายปีนี้
นายทิม ลีฬหะพันธุ์ นักเศรษฐศาสตร์ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทขณะนี้อยู่ที่ประมาณ 36 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ถือว่าค่าเงินบาทยังอ่อนอยู่แต่น่าจะอ่อนตัวในช่วงสั้นๆ และธนาคารกลางสหรัฐยังมีแนวทางที่จะขึ้นดอกเบี้ยอยู่ ทำให้ดอลลาร์สหรัฐยังคงแข็งค่าอยู่ ส่วนเรื่องการส่งออกของไทยถือว่าดีมาก โดยโตกว่า 10% ถือว่าดีมาก ขณะเดียวกันการนำเข้าก็เยอะมากโดยเฉพาะน้ำมัน ในส่วนของการท่องเที่ยว เดือนมิถุนายน 2565 ที่ผ่านมามีนักท่องเที่ยวเข้ามาเกือบ 7 แสนคนซึ่งถ้าหากมีท่องเที่ยวเข้ามาเดือนละ 1 ล้าน ถึง 1 ล้าน 5 แสนคนจะทำให้ค่าเงินบาทแข็งขึ้น โดยคาดว่า ค่าเงินบาทจะกลับมาแข็งตัวในช่วงปลายปีนี้ ถ้าเงินบาทแข็งค่าขึ้นจะอยู่ที่ 34 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ
เงินเฟ้อ เมื่อวานนี้อัตราเงินเฟ้ออยู่ที่ร้อยละ 7.7-7.8 ซึ่งสูงกว่าที่คิดไว้และในไตรมาสที่ 3 น่าจะเห็นเงินเฟ้อเพิ่มขึ้นอีกทำให้การคาดการณ์เงินเฟ้อในปีนี้น่าจะอยู่ที่ร้อยละ 6 ส่วนเรื่องดอกเบี้ย มองว่า ทางธนาคารแห่งประเทศไทยน่าจะขึ้นดอกเบี้ยในไตรมาส 3 โดยน่าจะขึ้นเป็น 1.25% จากที่ขณะนี้ดอกเบี้ยอยู่ที่ 0.5% และคาดว่าปลายปี 2567 ดอกเบี้ยน่าจะอยู่ที่ 2%
สำหรับจีดีพีปีนี้ ทางสแตนดาร์ดฯ มองว่า จะอยู่ที่ 3.3% ซึ่งเป็นตัวเลขกลางๆแต่คาดว่า เศรษฐกิจไทยจะดีขึ้น ฟื้นตัวขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง จากการบริโภคภาคเอกชน การส่งออกและการท่องเที่ยว โดยคาดว่า จีดีพีปี 2566 น่าจะเติบโตถึง 4.5%.-สำนักข่าวไทย