กรุงเทพฯ 6 ก.ค.-ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ GIT ระบุแม้ช่วงผลกระทบสงครามรัสเซียและยูเครนจะยืดเยื้อแต่นักช้อปสหรัฐ-ยุโรปสั่งซื้อสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับไทยแถมไทยคลายล็อคเปิดบินท่องเที่ยวได้ ดันยอดเติบโตต่อเนื่อง 5 เดือนยอดพุ่ง เตรียมดึงเว็บดังระดับโลกทั้ง“Amazon.com และเว็บอีเบย์” ช่วยโปรโมตสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับไทยสร้างความเชื่อมั่นสินค้าไทยทั่วโลกย้ำปี 65 ยอดส่งออกสินค้ากลุ่มนี้สร้างรายได้ล้านล้านบาทได้แน่
นายสุเมธ ประสงค์พงษ์ชัย ผู้อำนวยการ สถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ GIT กล่าวว่าจากตัวเลขที่กระทรวงพาณิชย์แถลงออกมาโดยยอดการส่งออกสินค้าไทยไปตลาดต่างประเทศทั่วโลกภายใต้แรงกดดันสงครามรัสเซียและยูเครนที่ดูยืดเยื้อ แต่ยอดส่งออกไทยในเดือนเดือนพฤษภาคม 2565 มีมูลค่า 25,509 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัว 10.5% ซึ่งหากรวม 5 เดือน 122,631.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่ม 12.9% ซึ่งในยอดดังกล่าวแยกเป็นสินค้ากลุ่มอัญมณีและเครื่องประดับ ไม่รวมทองคำ ในเดือนพฤษภาคม 65 มีมูลค่า 757.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือเติบโต 69.3 % ส่งผลทำให้ยอด 5 เดือนมีมูลค่า3,321.9 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัวสูงถึง 48.3 %
อย่างไรก็ตาม สถาบัน GIT และกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ได้ร่วมกันวิเคราะห์สถานการณ์ความต้องการสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับไทยในช่วงที่ผ่านมาแม้ว่าในช่วงก่อนเกิดปัญหาการแพร่ระบาดโควิด-19 ไปทั่วโลก ไทยส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับอยู่ที่กว่า 1 ล้านล้านบาท แต่ในช่วง 64 จนถึงปัจจุบัน การสั่งซื้อสินค้ากลุ่มนี้จากไทยเริ่มกลับมาดีขึ้น แม้จะมองว่าสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับจะเป็นกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือยประกอบกับหลังจากเกิดเหตุการณ์สงครามรัสเซียและยูเครนเกิดขึ้นช่วงต้นปี 65 ที่ผ่านมาไม่ได้ทำให้ยอดมูลค่าส่งออกกลุ่มสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับไทยลดลงแต่อย่างใด โดยตลาดประเทศสหรัฐอเมริกาและยุโรปสั่งซื้อสินค้ากลุ่มนี้เข้ามาต่อเนื่อง
คาดว่ายอดส่งออกสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับไทยตลอดปี 65 จะกลับมามีมูลค่าใกล้เคียงก่อนเกิดปัญหาโควิดระบาดได้ เนื่องจากผู้บริโภคกลุ่มประเทศดังกล่าวมีความสนใจสินค้าไทยเพราะเห็นว่ามีมาตรฐานคุณภาพสูง ประกอบกับหากซื้อไปมีความปลอดภัยไม่ใช่สินค้าลอกเลียนแบบ ซึ่งสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับไทยเป็นที่ยอมรับในเรื่องคุณภาพและดีไซน์สวยงามและที่สำคัญผู้ผลิตอัญมณีและเครื่องประดับไทยมีการปรับรูปแบบให้เล็กลงเพื่อเข้าถึงกลุ่มวัยรุ่น ทำให้ผู้บริโภคต่างชาติได้เข้าถึงจนสั่งซื้อสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับไทยเข้ามามากและต่อเนื่อง และการที่ไทยคลายล็อกให้มีการบินท่องเที่ยวจากการที่โควิดน้อยลงจะทำให้การท่องเที่ยวกลับมาศึกคักมากขึ้น
นอกจากนี้ สถาบัน GIT อยู่ระหว่างการพูดคุยกับทางแพลตฟอร์ม Amazon.com และเว็บอีเบย์ ซึ่งเป็นเว็บขายของออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก เพื่อให้ผู้ประกอบการอัญมณีและเครื่องประดับไทยที่เป็นสมาชิกเครือข่ายสถาบัน GIT สามารถเข้าไปอยู่ในเว็บดังกล่าวได้ ซึ่งเป็นการโปรโมทสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับไทยอีกช่องทางหนึ่ง ซึ่งทั้ง 2 เว็บไซต์ดังกล่าวเป็นที่รู้จักของคนทั่วโลกและตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ที่สามารถสั่งซื้อสินค้าทางออนไลน์ได้อีกทั้งก่อนซื้อสินค้าเหล่านี้ยังจะได้รับหนังสือรับรองจากสถาบัน GIT ตามโครงการซื้อด้วยความมั่นใจ Buy with Confidence อีกด้วย.-สำนักข่าวไทย