กรุงเทพฯ 5 ก.ค.-อีอีซีรับคณะหอการค้ามณฑลริยาด ซาอุฯ เชื่อมความสัมพันธ์ไทย-ซาอุฯ เร่งเครื่องสร้างโอกาสลงทุนอุตสาหกรรมเป้าหมาย ดิจิทัล การแพทย์ชั้นสูง ท่องเที่ยวสุขภาพ แปรรูปอาหาร ยานยนต์ EV พร้อมเชื่อมต่อนักลงทุนไทยจับคู่ธุรกิจที่มีประสิทธิภาพ ผลักดันให้เกิดการลงทุนร่วมกันอย่างยั่งยืน
สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) หรือ อีอีซี ให้การต้อนรับคณะหอการค้ามณฑลริยาด ราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย กว่า 100 คน นำโดย นายคารีม อัลอันซี (Mr. Krayem Alenezi) ที่เข้าร่วมงาน “EEC Business Forum”
นายคณิศ แสงสุพรรณ เลขาธิการอีอีซี กล่าวว่า นับเป็นโอกาสครั้งสำคัญที่อีอีซี ได้ให้การต้อนรับคณะหอการค้ามณฑลริยาด จากซาอุฯ ซึ่งเป็นการสร้างภาพลักษณ์ที่ดี เพื่อดึงดูดนักลงทุนให้เกิดการลงทุนในพื้นที่อีอีซี โดยเฉพาะในกลุ่มอุตสาหกรรมที่ทางซาอุฯ สนใจ เช่น อุตสาหกรรมดิจิทัลนวัตกรรมขั้นสูง อุตสาหกรรมท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ อุตสาหกรรมอาหารและแปรรูป อุตสาหกรรมพลังงานสะอาด และอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า EV ที่จะขับเคลื่อนเศรษฐกิจสีเขียว หรือ BCG รวมทั้งจะเป็นอีกกลไกสำคัญเพื่อจูงใจนักลงทุนจากประเทศอื่น ๆ ในภูมิภาคตะวันออกกลาง ให้เข้าสู่พื้นที่อีอีซีเพิ่มขึ้น ซึ่งจะช่วยสร้างความมั่นใจแก่นักลงทุนทั่วโลกต่อเนื่อง เพื่อช่วยขับเคลื่อนแผนการลงทุนในพื้นที่อีอีซี ระยะ 2 ในอีก 5 ปีข้างหน้า (2565–2569) ที่อีอีซี ได้ตั้งเป้าหมายการลงทุนรวม 2.2 ล้านล้านบาท ทำให้มูลค่าการลงทุนในอีอีซี เพิ่มขึ้นประมาณ 400,000 ล้านบาท/ปี (จากเดิม 300,000 ล้านบาท/ปี) เป็นกลไกหลักผลักดันให้เศรษฐกิจเติบโตเต็มศักยภาพ 4.5-5% ต่อปี พร้อมส่งผลให้ไทยพ้นจากกับดักรายได้ปานกลางก้าวสู่ประเทศพัฒนา และคนไทยมีรายได้สูงขึ้นได้ในปี 2572 โดยคณะหอการค้ามณฑลริยาด จากซาอุฯ ยังได้เข้าเยี่ยมชมและศึกษาดูงานภายในโรงงาน บมจ.เอส เอ็น ซี ฟอร์เมอร์ จ.ระยอง หรือ SNC ซึ่งเป็นต้นแบบโรงงานอุตสาหกรรม 4.0 ภายในพื้นที่อีอีซี
คณะหอการค้ามณฑลริยาด จากซาอุฯ ได้มาเยือนประเทศไทยเป็นครั้งแรกในรอบ 32 ปี หลังจากความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-ซาอุฯ กลับสู่ระดับปกติ นับตั้งแต่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เดินทางเยือนซาอุฯ อย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 25 ม.ค.65 และการไปเยือนเพื่อต่อยอดของภาครัฐและภาคเอกชนไทย นำโดย นายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ระหว่างวันที่ 15-19 พ.ค.65 ที่ผ่านมา ซึ่งได้สร้างโอกาสทั้งด้านเศรษฐกิจ การลงทุนและการพัฒนานวัตกรรมเทคโนโลยี กระชับความสัมพันธ์ของประชาชนทั้งสองประเทศ กระตุ้นด้านการท่องเที่ยว เพื่อฟื้นเศรษฐกิจภายหลังสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย.-สำนักข่าวไทย
