กรมเจ้าท่าแก้ปัญหา ชายหาดนาจอมเทียน จ.ชลบุรี

กรุงเทพฯ 1 ก.ค. – กรมเจ้าท่า เผยผลสำเร็จแก้ไขการใช้ประโยชน์พื้นที่สาธารณะ ชายหาดนาจอมเทียน หลังถมทราย พร้อมประกาศเตรียมลุยเฟส 2 เริ่มสร้าง ม.ค.66-มิ.ย.68


นายภูริพัฒน์ ธีระกุลพิศุทธิ์ รองอธิบดีกรมเจ้าท่า เปิดเผยว่า  กรมเจ้าท่าเร่งแก้ไขปัญหาการใช้ประโยชน์พื้นที่สาธารณะบริเวณชายหาดนาจอมเทียน และแนวปฏิบัติสำหรับเรือ นายเรือ ผู้ควบคุมเรือ คนประจำเรือ และผู้ที่อยู่ในเรือที่จะเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร (ทางน้ำ) ว่า โครงการเสริมทรายป้องกันการกัดเซาะชายหาดจอมเทียน อ.บางละมุง จ.ชลบุรี เป็นโครงการต่อเนื่องของกรมเจ้าท่า ในการบูรณะชายฝั่งในพื้นที่ภาคตะวันออกและเป็นแหล่งธุรกิจภาคการท่องเที่ยว

โดยในปี 63 กรมเจ้าท่า ได้ว่าจ้าง บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) เป็นผู้ดำเนินโครงการเสริมทรายป้องกันการกัดเซาะชายหาดจอมเทียนระยะที่ 1 ระยะทาง 3,575 เมตร ตั้งแต่เดือน พ.ค.63-พ.ย.65 จำนวน 900 วัน เริ่มเสริมทรายตั้งแต่บริเวณนาจอมเทียน 4 จนถึงบริเวณจอมเทียน 11 เมื่อแล้วเสร็จระยะที่ 1 ทำให้จากเดิมที่มีชายหาดกว้างประมาณ 5 เมตร เปลี่ยนเป็นชายหาดกว้างขึ้นเฉลี่ย 51 เมตร และมีความยาว 800 เมตร เมื่อโครงการดำเนินการมาได้ระยะทาง 800 เมตรกรมเจ้าท่าจึงส่งมอบพื้นที่ให้ทางเทศบาลนาจอมเทียนบริหารจัดการดูแลสาธารณประโยชน์ เมื่อวันที่ 29 ธ.ค.64 เพื่อให้เทศบาลบริหารจัดการชายหาด การจัดระเบียบใช้ประโยชน์ชายหาด การดูแลรักษาความสะอาดและความปลอดภัย อีกทั้งเป็นหูเป็นตาคอยแจ้งเหตุปัญหาการกัดเซาะชายหาด เพื่อแจ้งกรมเจ้าท่าเข้ามาดำเนินการปรับปรุงแก้ไขตามความเหมาะสม


ปัจจุบันพื้นที่บริเวณดังกล่าว ปรากฏเป็นข่าวในโลกออนไลน์ มีผู้ร้องเรียนว่า มีขยะและสิ่งปฏิกูลปริมาณมากถูกทิ้งเกลื่อนชายหาด ส่งผลให้ภาพลักษณ์ชายหาดจอมเทียนไม่สวยงามดังเดิม กรมเจ้าท่า โดยสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาพัทยา ได้บูรณาการร่วมกับเทศบาลตำบลนาจอมเทียนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เมื่อวันที่ 20 มิ.ย.65 ดำเนินการจัดประชุมเพื่อหาแนวทางในการแก้ปัญหาการจัดระเบียบการใช้ประโยชน์พื้นที่บริเวณชายหาดจอมเทียน โดยที่ประชุมมีมติให้ผู้ประกอบการฯ หยุดจำหน่ายสินค้า อาหารหรือเครื่องดื่ม รวมถึงห้ามนำสิ่งของหรืออุปกรณ์ต่างๆ มาติดตั้งหรือวางบนพื้นที่ชายหาด ซึ่งเทศบาลตำบลนาจอมเทียน ได้มีประกาศ เรื่องห้ามมิให้มีการจำหน่ายสินค้า อาหารหรือเครื่องดื่มบนพื้นที่ชายหาดนาจอมเทียน ทางเท้า และถนนเลียบชายหาดนาจอมเทียน และห้ามมิให้นำสิ่งของและอุปกรณ์ต่างๆ มาติดตั้งบนพื้นที่ชายหาด ทางเท้า และผิวจราจร ลงวันที่ 21 มิ.ย.65

นายภูริพัฒน์ กล่าวอีกว่า ต่อมาวันที่ 27 มิ.ย.65 นายเอกราช คันธโร ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาพัทยา พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาพัทยา จำนวน 10 นาย ลงพื้นที่สนธิกำลังร่วมกับเจ้าหน้าที่อำเภอสัตหีบ เทศบาลตำบลนาจอมเทียน สถานีตำรวจภูธรนาจอมเทียน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง บริเวณชายหาดนาจอมเทียน อ.สัตหีบ เพื่อตรวจตราความเรียบร้อยการปฏิบัติตามประกาศเทศบาลตำบลนาจอมเทียนฯ โดยมีการตั้งศูนย์อำนวยการปฏิบัติงานและปล่อยแถวเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานออกเป็น 5 จุด ตลอดแนวชายหาด 1,050 เมตร ซึ่งอยู่ในเขตพื้นที่รับผิดชอบของเทศบาลตำบลนาจอมเทียน นับตั้งแต่บริเวณร้านลุงไสวเป็นต้นไป ซึ่งจากการลงตรวจสอบยังไม่พบผู้ฝ่าฝืนกฎหมายแต่อย่างใด

ทั้งนี้ การตั้งศูนย์อำนวยการเพื่อปฏิบัติงานสนธิกำลังร่วมของเจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อแก้ไขปัญหาการใช้ประโยชน์พื้นที่สาธารณะ บริเวณชายหาดนาจอมเทียน สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาพัทยา พร้อมให้ความร่วมมือจัดส่งเจ้าหน้าที่เพื่อเข้าร่วมการปฏิบัติงานให้เสร็จสิ้นภารกิจตามแผนฯ ซึ่งมีการกำหนดแผนปฏิบัติงานอย่างต่อเนื่องเป็นระยะเวลา 7 วัน ตั้งแต่วันที่ 27 มิ.ย.65-วันที่ 3 ก.ค.65


นายภูริพัฒน์ กล่าวด้วยว่า กรมเจ้าท่า กระทรวงคมนาคม  ขอขอบคุณเทศบาลตำบลนาจอมเทียน หน่วยงานทุกภาคส่วน ที่เข้ามาดำเนินการบริหารจัดการคืนพื้นที่สาธารณะและจัดระเบียบพื้นที่ให้กับประชาชนได้ใช้ประโยชน์ร่วมกัน พร้อมขอความร่วมมือประชาชนผู้มาใช้ชายหาดจอมเทียนทุกท่าน โปรดช่วยกันรักษาความสะอาด ปฏิบัติตามคำแนะนำของเทศบาลตำบลนาจอมเทียนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ช่วยป้องกัน ดูแล รักษาชายหาดและระบบนิเวศชายฝั่งให้ยังคงสภาพเดิม ลดการเกิดความเสื่อมโทรมในพื้นที่ และส่งเสริมภาคการท่องเที่ยวอุตสาหกรรมอย่างยั่งยืน

ส่วนโครงการเสริมทรายชายหาดจอมเทียน อ.บางละมุง ระยะที่ 2 มีระยะทาง 3 กม. งบประมาณ 400 ล้านบาท ระยะเวลาก่อสร้าง เดือน ม.ค.66-มิ.ย.68 ในอนาคตมีแผนงานเสริมทรายชายหาดท่องเที่ยวในอนาคต เช่น ชายหาดบางแสน ชายหาดชะอำ ชายหาดสมิหลา ชายหาดเขาหลัก ชายหาดบางเสร่ ชายหาดอ่าวดงตาล ชายหาด แสงจันทร์ ซึ่งการเสริมทรายชายหาดนอกจากจะเป็นการแก้ไขปัญหาการกัดเซาะและฟื้นฟูชายหาดอย่างยั่งยืนแล้ว ยังช่วยส่งเสริม สนับสนุนภาคการท่องเที่ยว และสร้างรายได้เป็นจำนวนมากให้กับประเทศอีกด้วย.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

วันแม่แห่งชาติ ขึ้นทางด่วนฟรี 𝟯 สายทาง

กทม. 9 ส.ค.-วันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคม 2568 กทพ. แจ้งยกเว้นค่าผ่านทางพิเศษของทางพิเศษรวม 𝟯 สายทาง ดังนี้ ทางพิเศษเฉลิมมหานคร จำนวน 𝟮𝟭 ด่าน ทางพิเศษศรีรัช จำนวน 𝟯𝟮 ด่าน และทางพิเศษอุดรรัถยา จำนวน 𝟭𝟬 ด่าน นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลประกาศให้วันจันทร์ ที่ 11 สิงหาคม 2568 เป็นวันหยุดพิเศษ ทำให้มีวันหยุดต่อเนื่องกันรวม 4 วัน (9-12 สิงหาคม 2568) เพื่อให้ประชาชนเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ และช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศในภาพรวม โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) คาดการณ์สถานการณ์ “คนไทย” เดินทาง “ท่องเที่ยวภายในประเทศ” วันหยุดยาวช่วงวันแม่แห่งชาติ ระหว่างวันที่ 9-12 สิงหาคม 2568 จะสร้างรายได้สะพัดทั่วประเทศ 13,750 ล้านบาท […]

“มาริษ” แจงโทรเคลียร์ รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ปมถูกบิดเบือนคำพูด

สุรินทร์ 9 ส.ค. – “มาริษ” แจงโทรเคลียร์ “วิเวียน” รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ถูกบิดเบือนคำพูด ย้ำไม่ได้วิจารณ์เชิงลบ แต่ห่วงภาวะผู้นำทำงานได้ไม่เต็มที่เพราะมีอุปสรรคขัดขวาง นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีบางสื่อบิดเบือนคำพูดของนายวิเวียน บาลากริชนิน (Vivian Balakrishnan) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศสิงคโปร์ ซึ่งตนไม่สบายใจตั้งแต่ต้น และได้สะท้อนไปว่าการแสดงความคิดเห็นในเรื่องที่ละเอียดอ่อนเหล่านี้มักจะทำให้เกิดความเข้าใจผิด และจะมีคนเอาคำพูดท่านไปใช้ประโยชน์ในการโจมตีทางการเมือง นายมาริษ เปิดเผยว่า ได้คุยโทรศัพท์กับนายวิเวียน เพื่อแสดงความห่วงกังวล เขายอมรับแล้วอนุญาตให้ช่วยชี้แจง อธิบายกับสื่อมวลชนที่เป็นสื่อหลัก เพราะข้อความที่แปลผิดได้แพร่สะพัดอยู่ในโซเชียลมีเดีย “นายวิเวียนไม่ได้มีความประสงค์ที่จะไปตั้งคำถามในเรื่องภาวะผู้นำของใครทั้งสิ้น เขาเพียงแต่พูดว่าอยากเห็นการทูตทำงานอย่างเต็มที่ เพราะการทูตจะแก้ไขปัญหาได้หากอยู่ในจุดที่สมดุล และเมื่อไรที่ภาวะผู้นำถูกขัดขวาง ไม่ว่าจะด้วยปัจจัยอะไรก็ตาม มันจะมีผลกระทบให้การแก้ไขปัญหาซับซ้อนมากยิ่งขึ้น” นายมาริษ กล่าว นายมาริษ กล่าวย้ำว่า สิ่งที่นายวิเวียนพูด จะพยายามสื่อสารเพื่อให้ทุกคนได้ตระหนักว่าอยากเห็นผู้นำได้ทำงานอย่างเต็มที่ ไม่มีอุปสรรคขัดขวาง ซึ่งจะเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้การแก้ไขปัญหาลุล่วงไปได้อย่างสมบูรณ์.-319-สำนักข่าวไทย

ทบ.ชี้เหตุกำลังพล ร้อย.ร.111 เหยียบกับระเบิด สะท้อนกัมพูชาเริ่มใช้อาวุธก่อน

กรุงเทพฯ 9 ส.ค. – โฆษก ทบ. ชี้เหตุกำลังพล ร้อย.ร.111 เหยียบกับระเบิดขณะลาดตระเวนเส้นทาง พื้นที่รอยต่อบ้านโดนเอาว์-บ้านกฤษณา จ.ศรีสะเกษ บาดเจ็บ 3 นาย สะท้อนกัมพูชาเริ่มใช้อาวุธก่อน พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า วันที่ 9 สิงหาคม 2568 เวลา 10.00 น. กองทัพบกได้รับรายงานจากกองกำลังสุรนารี กองทัพภาคที่ 2 กรณีกำลังพลของหน่วยกองร้อยทหารราบที่ 111 เหยียบกับระเบิด ขณะทำการลาดตระเวนเส้นทาง เพื่อเสริมความมั่นคงในพื้นที่รอยต่อบ้านโดนเอาว์-บ้านกฤษณา จังหวัดศรีสะเกษ ส่งผลให้กำลังพลได้รับบาดเจ็บ 3 นาย ได้แก่ 1. จ่าสิบเอก ธานี พาหา ตำแหน่งผู้บังคับหมู่ป้องกัน บาดเจ็บรุนแรง ข้อเท้าซ้ายท่อนล่างขาด2. พลทหาร ภาคภูมิ ไชยสุระ ตำแหน่งพลปืนเล็ก บาดเจ็บบริเวณแขนและด้านหลัง3. พลทหาร ธนันชัย ไกรวงค์ […]

จับผับรังสิต

สั่งเด้งผู้การปทุมธานี ขาดจากตำแหน่งเดิม เซ่นจับผับดังรังสิต

8 ส.ค. – โดนด้วย! สั่งเด้งผู้การปทุมธานี โดยให้ขาดจากตำแหน่งเดิม พร้อมพวกอีก 5 นาย เซ่นจับผับดังรังสิต พบฉี่ม่วงเพียบเฉียด 200 คน พล.ต.ต.ศิลปคมณ์ เอี่ยมวงศ์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ลงนามในคำสั่งตำรวจภูธรภาค 1 ที่ 209/2568 เรื่อง ข้าราชการตำรวจช่วยราชการ ใจความว่า ด้วย ตำรวจภูธรภาค 1 มีคำสั่งที่ 208/2568 ลงวันที่ 8 สิงหาคม 2568 แต่งตั้ง คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ในกรณีเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2568 เวลา 01.00 น. ชุดปฏิบัติการ พิเศษกรมการปกครอง ได้มีการจัดระเบียบสังคม โดยเปิดปฏิบัติการ (Zero Drug) โดยนำกำลังเข้าทำการ ตรวจสอบและจับกุมสถานบริการ ชื่อ ร้าน “Skin […]

ข่าวแนะนำ

มทภ.2 กำชับกำลังพลเพิ่มความระมัดระวัง หลังทหาร 3 นาย เหยียบกับระเบิด

10 ส.ค. – แม่ทัพภาคที่ 2 กำชับกำลังพลเพิ่มความระมัดระวัง หลังทหาร 3 นาย เหยียบกับระเบิด ขณะลาดตระเวนแนวชายแดน จ.ศรีสะเกษ จากการตรวจสอบพบเป็นทุ่นใหม่ ถูกวางไว้ช่วงทหารกัมพูชาเข้ามาตั้งฐานป้องกันการเข้าโจมตีของไทย ไม่ใช่การลอบนำมาวางใหม่หลังถอนกำลัง พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เปิดเผยภายหลังการรับมอบสิ่งของช่วยเหลือทหารและเจ้าหน้าที่ตามแนวชายแดน จากภาครัฐและเอกชน ถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา หลังเจ้าหน้าที่ทหาร 3 นาย เหยียบกับระเบิด ขณะลาดตระเวนแนวชายแดน จ.ศรีสะเกษ เมื่อวานว่า จากการตรวจสอบพบว่าเป็นทุ่นใหม่ที่ถูกวางไว้ช่วงทหารกัมพูชาเข้ามาตั้งฐานเพื่อป้องกันการเข้าโจมตีของไทย ก่อนที่จะถอนกำลังออกไป ไม่ใช่การลอบนำมาวางใหม่หลังถอนกำลัง จึงสั่งการให้ทุกหน่วยเพิ่มความระมัดระวัง พร้อมใช้เทคโนโลยีและเครื่องจักร เช่น รถไถ รถตักในการเคลียร์เส้นทางและค้นหาทุ่นระเบิดบุคคล เพื่อป้องกันไม่ให้กำลังพลได้รับอันตรายซ้ำ สำหรับพื้นที่แนวปะทะที่มีการวางกำลังของทหารกัมพูชายังถือว่าไม่ปลอดภัยสำหรับทหาร เนื่องจากมีการวางระเบิดไว้มาก ส่วนพื้นที่ชาวบ้านซึ่งอยู่นอกแนวชายแดนลึกเข้ามา ไม่น่าเป็นห่วงจากทุ่นระเบิดบุคคล แต่ยังมีความเสี่ยงจากจรวดที่ยิงเข้ามาแล้วไม่ระเบิด หากประชาชนพบเห็นให้แจ้งเจ้าหน้าที่ทันที ห้ามเข้าไปจับ ดึง หรือเก็บเอง อย่างไรก็ตาม พื้นที่ส่วนใหญ่ เช่น ภูมะเขือ อานม้า ซำแปร และตาเมือนธม ไทยสามารถครอบครองได้ […]

นิด้าโพล เผยประชาชนไว้วางใจกองทัพ ปกป้องชาติมากถึง 75%

กทม. 10 ส.ค.-นิด้าโพล เผยประชาชนไว้วางใจกองทัพ ปกป้องผลประโยชน์ชาติ จากสถานการณ์ไทย-กัมพูชา มากถึง 75% แนะเปิดเจรจาทางการทูตสองฝ่ายจริงจัง รวมทั้งเห็นว่าไม่ควรรับผู้ป่วยชาวกัมพูชาทุกคน ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลการสำรวจ เรื่อง “สถานการณ์ไทย-กัมพูชา ไปต่อแบบไหนดี” ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 4-5 สิงหาคม 2568 จากประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป เกี่ยวกับความไว้วางใจและความพอใจต่อบทบาทของภาคส่วนต่างๆ ในการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างไทย-กัมพูชา พบว่า -กองทัพ ตัวอย่าง ร้อยละ 75.73 ระบุว่า ไว้วางใจมาก รองลงมา ร้อยละ 19.31 ระบุว่า ค่อนข้างไว้วางใจ ร้อยละ 3.66 ระบุว่า ไม่ค่อยไว้วางใจ ร้อยละ 1.07 ระบุว่า ไม่ไว้วางใจเลย และร้อยละ 0.23 ระบุว่า ไม่ตอบ/ไม่สนใจ -กระทรวงการต่างประเทศ ตัวอย่าง ร้อยละ 41.76 […]

พบหลุมระเบิดที่กัมพูชายิงใส่ไทย 824 หลุม ใน 4 จังหวัดชายแดน

กทม. 10 ส.ค.-เพจกองทัพบก ทันกระแส โพสต์เจ้าหน้าที่ EOD เข้าเก็บกู้ระเบิด พบหลุมระเบิดที่เกิดจากฝีมือกัมพูชามากถึง 824 หลุม ใน 4 จังหวัดชายแดนไทย ส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่พลเรือนและโรงพยาบาล เพจเฟซบุ๊ก “กองทัพบก ทันกระแส” โพสต์ว่า เจ้าหน้าที่ EOD เข้าพื้นที่เก็บกู้ระเบิด พบหลุมระเบิดที่เกิดจากฝีมือกัมพูชามากถึง 824 หลุม ส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่พลเรือนและโรงพยาบาล ซึ่งสร้างความเสียหายและความหวาดกลัวให้ประชาชน ที่กำลังทยอยกลับเข้าพื้นที่เพื่อสำรวจความเสียหายของบ้านพักอาศัย ข้อมูลที่เพจโพสต์แสดงให้เห็นถึงความเสียหายที่เกิดขึ้นใน 4 จังหวัดชายแดน ได้แก่ สุรินทร์ บุรีรัมย์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี ซึ่งเป็นผลจากการยิงอาวุธของกัมพูชาใส่เป้าหมายพลเรือน ทำให้ประชาชนในพื้นที่ต้องอพยพหนีภัยสงคราม และหากสถานการณ์เริ่มคลี่คลายลง ประชาชนเริ่มกลับเข้าสู่พื้นที่ตนเอง แต่ต้องเผชิญกับอันตรายจากระเบิดที่ยังคงหลงเหลืออยู่ ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ EOD ทำงานอย่างหนัก เพื่อเร่งเก็บกู้ระเบิดให้แล้วเสร็จ เพื่อให้ประชาชนได้กลับมาใช้ชีวิตอย่างปลอดภัยในบ้านของตนเองอีกครั้ง.-สำนักข่าวไทย

ชวนชมดวงไฟประดับรอบกรุงเทพฯ วันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคม

ทำเนียบ 10 ส.ค.-รัฐบาลเชิญชวนชมความงดงามของดวงไฟประดับรอบกรุงเทพฯ ในโอกาสเฉลิมพระเกียรติ วันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคม นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง วันที่ 12 สิงหาคมของทุกปี (วันแม่แห่งชาติ) กรมทางหลวงชนบท (ทช.) และ MEA หรือการไฟฟ้านครหลวง ร่วมใจกัน ติดตั้งไฟประดับทั้ง 2 ข้างทาง เพื่อเฉลิมพระเกียรติและน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ขอเชิญชวนประชาชนได้ร่วมสัมผัสความงดงามของดวงไฟประดับ เนื่องในโอกาสมหามงคลนี้ โดยการไฟฟ้านครหลวง ได้ดำเนินการติดตั้งไฟประดับจำนวนกว่า 2 ล้านดวง เพื่อประดับในสถานที่ต่าง ๆ ได้แก่ พระที่นั่งอัมพรสถาน วังศุโขทัย พระบรมมหาราชวัง บริเวณท้องสนามหลวง รอบพระตำหนักจิตรลดารโหฐาน วังสระปทุม พระที่นั่งอนันตสมาคม ลานพระบรมรูปทรงม้า สนามเสือป่า ทำเนียบองคมนตรี กระทรวงมหาดไทย ถนนราชดำเนินใน ถนนราชดำเนินกลาง ถนนราชดำเนินนอก ถนนศรีอยุธยา ตั้งแต่วันนี้ – […]