กรุงเทพฯ 30 มิ.ย. – รมว.คมนาคม ลงพื้นที่ตรวจความคืบหน้าโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลืองและสายสีชมพู ยืนยันงานก้าวหน้า น่าพอใจ ยืนยันพร้อมเปิดให้บริการต้นปี 2566 โดยจะเปิดให้ประชาชนทดลองใช้ 3 เดือน ตั้งแต่ ม.ค. 66
นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม พร้อม นายชยธรรม์ พรหมศร ปลัดกระทรวงคมนาคม นายสรพงศ์ ไพฑูรย์พงษ์ รองปลัดกระทรวงคมนาคม นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก นายพิเชฐ คุณาธรรมรักษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางราง และนายภคพงศ์ ศิริกันทรมาศ ผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ลงพื้นที่ก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว-สำโรง และโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรี เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2565 เพื่อติดตามความก้าวหน้าการก่อสร้าง แผนการพัฒนาโครงการฯ ในอนาคต การเชื่อมต่อกับโครงการขนส่งมวลชนอื่น ๆ และความพร้อมของขบวนรถต่าง ๆ รวมถึงแผนการเตรียมเปิดให้บริการเดินรถ
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมได้เริ่มต้น สำรวจโครงการ จากที่สถานีกลันตัน (YL12) รถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว-สำโรง พร้อมรับฟังการบรรยายสรุปการดำเนินการก่อสร้างโครงการฯ จากนั้น ได้เดินทางต่อไปยังโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรี ที่สถานีมีนบุรี (PK30) เพื่อรับฟังการบรรยายสรุปการดำเนินการก่อสร้างและความคืบหน้าโครงการ ก่อนร่วมทดสอบการเดินรถไฟฟ้าโมโนเรลสายสีชมพูจากสถานีมีนบุรี (PK30) ไปยังสถานีเศรษฐบุตรบำเพ็ญ (PK28) และเดินทางกลับเข้าสู่อาคารศูนย์ซ่อมบำรุง
นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ กล่าวว่า โครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว-สำโรง และโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรี เป็นโครงการตามแผนแม่บทระบบขนส่งมวลชนทางรางในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล (M-MAP) โดยกำหนดให้เป็นระบบขนส่งมวลชนสายรองประเภทรถไฟฟ้ารางเดี่ยวแบบคร่อมราง (Straddle Monorail) ที่ก่อสร้างเป็นทางยกระดับตลอดเส้นทาง 2 สายแรกของประเทศไทย เมื่อการก่อสร้างรถไฟฟ้าทั้ง 2 สายทางแล้วเสร็จ จะช่วยเติมเต็มโครงข่ายการคมนาคมขนส่งในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล ช่วยให้ประชาชนเดินทางจากชานเมืองสู่ใจกลางเมืองได้แบบไร้รอยต่อ เพิ่มความสะดวกสบายให้แก่ประชาชน ยกระดับคุณภาพชีวิตให้แก่ชาวกรุงเทพฯ และปริมณฑล
สำหรับปัญหาและอุปสรรคที่พบในการก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว-สำโรง และโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรี พบว่าบางพื้นที่มีสาธารณูปโภคตามแนวเส้นทางก่อสร้างอยู่ด้วย ส่งผลให้การก่อสร้างมีความล่าช้า ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมได้มอบนโยบายให้เร่งประสานขอความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้การก่อสร้างเดินหน้าได้อย่างราบรื่นแล้วเสร็จตามกำหนด และดำเนินการคืนพื้นที่โดยเร็วเพื่อบรรเทาปัญหาจราจร ลดผลกระทบต่อการเดินทางของประชาชนให้มากที่สุด พร้อมทั้งให้ความสำคัญกับการออกแบบเพื่อคนทั้งมวล (Universal Design) และการกำหนดอัตราค่าโดยสารที่มีความหมาะสม เป็นธรรม
ทั้งนี้ โครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว-สำโรง มีแนวเส้นทางเริ่มต้นที่แยกรัชดา-ลาดพร้าว บริเวณหน้าอาคารจอดแล้วจร สถานีลาดพร้าว ของรถไฟฟ้ามหานคร สายเฉลิมรัชมงคล (MRT สายสีน้ำเงิน) ไปตามแนวถนนลาดพร้าว ถึงทางแยกบางกะปิ เข้าสู่ถนนศรีนครินทร์ ข้ามทางแยกต่างระดับพระราม 9 ผ่านแยกพัฒนาการ แยกศรีนุช แยกศรีอุดม แยกศรีเอี่ยม แยกศรีเทพา เข้าสู่ถนนเทพารักษ์ และสิ้นสุดที่บริเวณแยกเทพารักษ์ รวมระยะทางทั้งสิ้นประมาณ 30.4 กิโลเมตร
ประกอบด้วย สถานีทั้งหมด 23 สถานี ศูนย์ซ่อมบำรุง 1 แห่ง และอาคารจอดแล้วจร 1 แห่ง มีการเชื่อมต่อระบบรถไฟฟ้าอีก 4 สาย ประกอบด้วย 1) สถานีลาดพร้าว (YL01) เชื่อมต่อกับรถไฟฟ้ามหานครสายเฉลิมรัชมงคล (MRT สายสีน้ำเงิน) 2) สถานีแยกลำสาลี (YL09) เชื่อมต่อกับโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย-มีนบุรี (สุวินทวงศ์) 3) สถานีหัวหมาก (YL11) เชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตเรลลิงก์และรถไฟทางไกลสายตะวันออก 4) สถานีสำโรง (YL23) เชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ
ส่วนโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรี มีจุดเริ่มต้นบนถนนรัตนาธิเบศร์ บริเวณถัดจากศูนย์ราชการจังหวัดนนทบุรี ผ่านแยกแครายเข้าสู่ถนนติวานนท์ ตัดเข้าสู่ถนนแจ้งวัฒนะที่บริเวณใกล้กับห้าแยกปากเกร็ด ผ่านแยกหลักสี่ เข้าสู่ถนนรามอินทราจนถึงแยกมีนบุรี เลี้ยวขวาสู่ถนนรามคำแหง ซึ่งมีสถานีสุดท้ายที่บริเวณใกล้ซอยรามคำแหง 192 ระยะทางประมาณ 34.5 กิโลเมตร ประกอบด้วยสถานีทั้งหมด 30 สถานี ศูนย์ซ่อมบำรุง 1 แห่งและอาคารจอดแล้วจร 1 แห่ง มีการเชื่อมต่อระบบรถไฟฟ้าอีก 4 สาย ประกอบด้วย
- 1) สถานีศูนย์ราชการนนทบุรี (PK01) เชื่อมต่อกับรถไฟฟ้ามหานครสายฉลองรัชธรรม (MRT สายสีม่วง)
- 2) สถานีหลักสี่ (PK14) เชื่อมต่อกับโครงการระบบรถไฟชานเมืองสายสีแดง ช่วงบางซื่อ-รังสิต
- 3) สถานีวัดพระศรีมหาธาตุ (PK16) เชื่อมต่อกับโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต
- 4) สถานีมีนบุรี (PK30) เชื่อมต่อกับโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย-มีนบุรี (สุวินทวงศ์)
โดยความคืบหน้า ณ ปัจจุบันของการก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าทั้ง 2 สาย ได้แก่ รถไฟฟ้าสายสีเหลือง มีความคืบหน้าในภาพรวมคิดเป็นร้อยละ 92.93 แบ่งเป็นงานโยธา ร้อยละ 93.42 และงานระบบรถไฟฟ้าร้อยละ 92.29 รถไฟฟ้าสายสีชมพูมีความคืบหน้าในภาพรวมคิดเป็นร้อยละ 88.51 แบ่งเป็นงานโยธา ร้อยละ 90.06 และงานระบบรถไฟฟ้าร้อยละ 87.02
ขณะนี้รถไฟฟ้าสายสีเหลืองได้รับมอบขบวนรถแล้ว 28 ขบวน จากทั้งหมด 30 ขบวน และรถไฟฟ้าสายสีชมพูได้รับมอบขบวนรถแล้ว 26 ขบวนจากทั้งหมด 42 ขบวน และในส่วนขบวนรถไฟฟ้าที่เหลือจะจัดส่งถึงประเทศไทยได้ภายในเดือนกรกฎาคม 2565 สำหรับรถไฟฟ้าสายสีเหลือง และในเดือนตุลาคม 2565 สำหรับรถไฟฟ้าสายสีชมพู โดยโครงการรถไฟฟ้าทั้ง 2 สายทาง อยู่ระหว่างทดสอบการเดินรถ และมีแผนกำหนดการทดสอบเดินรถเสมือนจริง (Trial Run) เริ่มภายในเดือนตุลาคม 2565 ก่อนจะเปิดให้บริการบางช่วงอย่างเป็นทางการในไตรมาสแรกของปี 2566
“ขณะนี้ความคืบหน้าในงานก่อสร้างของรถไฟฟ้าทั้ง 2 เส้นทาง เป็นไปอย่างน่าพอใจโดยมั่นใจว่าในต้นปี 2566 จะสามารถเปิดให้บริการ โดยในเดือนมกราคมปีหน้า จะมีการเปิดให้ประชาชนทดลองใช้บริการเป็นระยะเวลา 3 เดือนก่อนเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการต่อไป เมื่อการก่อสร้างรถไฟฟ้าทั้ง 2 สายทางแล้วเสร็จ จะช่วยเติมเต็มโครงข่ายการคมนาคมขนส่งในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล ช่วยให้ประชาชนเดินทางจากชานเมืองสู่ใจกลางเมืองได้แบบไร้รอยต่อ ยกระดับคุณภาพชีวิตให้แก่ชาวกรุงเทพฯ และปริมณฑล” นายศักดิ์สยามกล่าว .-สำนักข่าวไทย