ทำเนียบฯ 28 มิ.ย.-ครม.เห็นชอบจัดตั้ง “กองทุนช่วยเหลือเพื่อการปรับตัวของภาคการผลิต-บริการที่ได้รับผลกระทบจาก FTA” เงินประเดิม 3 ปีแรก 5,000 ล้านบาท
นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบจัดตั้งกองทุนช่วยเหลือเพื่อการปรับตัวของภาคการผลิตและภาคบริการที่ได้รับผลกระทบจากการเปิดเสรีทางการค้า ของคณะกรรมการนโยบายการบริหารเงินทุนหมุนเวียน ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ การจัดตั้งกองทุนดังกล่าว มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นแหล่งเงินทุนสำหรับช่วยเหลือ เยียวยา และบรรเทาผู้ที่ได้รับหรือคาดว่าจะได้รับผลกระทบจากการเปิดเสรีทางการค้าในภาคการผลิตทั้งเกษตร อุตสาหกรรม และภาคบริการ โดยจะขับเคลื่อนผ่านกลไกคณะกรรมการบริการกองทุนฯ
เพื่อกำหนดนโยบาย กำกับการบริหารจัดการ และติดตามการดำเนินงาน พิจารณาอนุมัติแผนการดำเนินงานประจำปีกำหนดอัตราค่าธรรมเนียม หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการจัดเก็บค่าธรรมเนียมจากผู้ที่ได้ประโยชน์จากการเปิดเสรีทางการค้า เป็นต้น สำหรับงบประมาณและแหล่งรายได้ของกองทุน มาจากการรับทุนประเดิมจากรัฐบาลจัดสรรให้ภายใน 3 ปี ประมาณ 5,000 ล้านบาท โดยปีแรกรับจัดสรร 1,000 ล้านบาท ปีที่ 2-3 ปีละ 2,000 ล้านบาท ส่วนแหล่งที่มาของรายได้ อาทิ การจัดเก็บค่าธรรมเนียมจากผู้ส่งออกที่ได้รับประโยชน์จากการเปิดเสรีทางการค้าโดยจัดเก็บค่าธรรมเนียมจากผู้ขอหนังสือรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าเพื่อใช้สิทธิพิเศษทางภาษีสำหรับการส่งออกภายใต้การเปิดเสรีทางการค้า คาดว่า จะสามารถจัดเก็บได้ประมาณ 80 ล้านบาทต่อปี
นางสาวรัชดา กล่าวเพิ่มเติมว่า กองทุนช่วยเหลือเพื่อการปรับตัวของภาคการผลิตและภาคบริการฯ ไม่มีความซ้ำซ้อนในการให้ความช่วยเหลือเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการเปิดเสรีทางการค้ากับกองทุนอื่น ๆ อาทิ กองทุนเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศสำหรับอุตสาหกรรม กองทุนปรับโครงสร้างการผลิตภาคเกษตรเพื่อเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันของประเทศ เนื่องจากกองทุนเพิ่มขีดความสามารถฯ จะให้เงินสนับสนุนเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการลงทุน การวิจัยและพัฒนา ในอุตสาหกรรมเป้าหมายที่เน้นลงทุนในเทคโนโลยีขั้นสูง ซึ่งไม่ได้ครอบคลุมถึงการให้ความช่วยเหลืออันเกิดจากผลกระทบจากการเปิดเสรีทางการค้า ส่วนกองทุนปรับโครงสร้างการผลิตภาคเกษตรฯ เน้นช่วยเหลือกลุ่มผู้ผลิตสินค้าเกษตรขั้นต้นเท่านั้น ไม่ครอบคลุมภาคอุตสาหกรรม และภาคบริการที่ได้รับผลกระทบจากการเปิดเสรีทางการค้าเช่นกัน.-สำนักข่าวไทย