ตราด 26 มิ.ย. – กลุ่มบางจากฯ ร่วมขับเคลื่อนประเทศสู่สังคมคาร์บอนต่ำ มุ่งสู่ Net Zero ในปี 2050 ด้วยแผน “BCP NET” เร่งศึกษา Blue Carbon สนับสนุนเกาะหมาก Low Carbon เป็นส่วนหนึ่งของการดูแลสังคมและสิ่งแวดล้อมด้วยโมเดล Bangchak WOW
นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจากคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ BCP เปิดเผยว่ากลุ่มบางจากฯ ได้ประกาศเป้าหมายเป็นกลางทางคาร์บอนในปี 2673 และ Net Zero ในปี 2593 มีความมุ่งมั่นเดินหน้าร่วมขับเคลื่อนประเทศสู่สังคมคาร์บอนต่ำด้วยแผน BCP NET โดยล่าสุดได้ลงนามความร่วมมือพัฒนาพื้นที่และการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนสู่ Low Carbon Destination หมู่เกาะหมาก อ.เกาะกูด จ.ตราด ร่วมกับองค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน) คณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ องค์การบริหารส่วนตำบลเกาะหมาก วิสาหกิจชุมชนเกษตรผสมผสานบ้านอ่าวนิด โดยมีองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) ร่วมเป็นพยาน เป็นส่วนหนึ่งของการดูแลสังคมและสิ่งแวดล้อมทั่วประเทศอย่างต่อเนื่องด้วยโมเดล Bangchak WOW
สำหรับการลงนามข้อตกลงความร่วมมือเพื่อพัฒนาพื้นที่เกาะหมากสู่เป้าหมายการเป็น Low Carbon Destination ในครั้งนี้ กลุ่มบางจากฯ มีความยินดีที่จะร่วมสนับสนุนพื้นที่เกาะหมากซึ่งเป็นพื้นที่เป้าหมายแห่งแรกในโครงการแหล่งท่องเที่ยวคาร์บอนต่ำของประเทศไทยที่ อพท. เป็นผู้ริเริ่มการขับเคลื่อน ผนวกกับการใส่ใจดูแลธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอย่างจริงจังจากชุมชนท้องถิ่น ถือเป็นพื้นที่ต้นแบบของประเทศในการร่วมบรรเทาภาวะวิกฤติของโลกด้านสภาพภูมิอากาศ โดยการสนับสนุนคณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ในการศึกษา Blue Carbon จากการกักเก็บคาร์บอนไดออกไซด์ของแหล่งหญ้าทะเลในแนวปะการังภาคตะวันออกเป็นครั้งแรกของประเทศไทย ซึ่งการดูดซับคาร์บอนด้วยวิถีธรรมชาติจากหญ้าทะเลนี้ กำลังได้รับความสนใจเป็นอย่างมากทั่วโลก
โดยข้อมูลของ IUCN (International Union for Conservation of Nature) เมื่อปีที่แล้ว รายงานว่าหญ้าทะเลเป็นพืชกลุ่มเดียวที่อยู่ในทะเลเต็มตัวจึงมีความสามารถเฉพาะตัวในการดูดซับและกักเก็บคาร์บอนได้มากกว่าป่าบนบกถึง 7-10 เท่า
นอกจากนี้ ยัง นำมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า Winnonie ไปให้ผู้ประกอบธุรกิจท่องเที่ยวในพื้นที่ได้ทดลองใช้เพื่อศึกษาความเหมาะสม ผ่าน อบต. เกาะหมาก รวมถึงสนับสนุนวัสดุอุปกรณ์ต่างๆ เช่น ถุงมือและเสื้อที่ผลิตจากขวด PET รีไซเคิลมอบให้ทีมอาสาสมัคร Trash Heroes Koh Mak สำหรับเก็บขยะชายหาด และทีมงานวิสาหกิจชุมชนเกษตรผสมผสานบ้านอ่าวนิด ใช้สำหรับกิจกรรมอนุรักษ์และฟื้นฟูหญ้าทะเล รวมถึงมีการศึกษาความเป็นไปได้ของความร่วมมืออื่น ๆ เช่น โรงเรียน Net Zero จากการใช้ไฟฟ้าจากพลังงานสะอาด เป็นต้น
นายชัยวัฒน์ กล่าวด้วยว่า ปัจจุบันโรงกลั่นบางจาก มีกำลังการกลั่นอยู่ที่ 102% หรือประมาณ 1.22-1.23 แสนบาร์เรลต่อวัน เพิ่มขึ้นจากปีก่อน เพื่อรองรับความต้องการใช้น้ำมันที่เพิ่มขึ้นตามเศรษฐกิจที่ฟื้นตัว โดยยอดขายน้ำมันของบางจากในช่วงไตรมาส 2/2565 ยังคงเติบโตขึ้น
ทั้งนี้ปัจจุบันโรงกลั่นบางจาก มีกำลังการกลั่นน้ำมันดีเซล คิดเป็นสัดส่วน 50% เบนซิน 16% ก๊าซ LPG 3-4% น้ำมัน UCO 20% และน้ำมันเตา 10%
สำหรับธุรกิจ E&P นั้น หลังจากที่ OKEA ASA ซึ่งเป็นบริษัทย่อยบางจากซึ่งถือหุ้น 46% ได้ลงนามในสัญญาซื้อขายแหล่งปิโตรเลียมในทะเลเหนือ 3 แหล่ง ( 35.2% ในแหล่ง Brage, 6.4% ในแหล่ง Ivar Aasen, และ 6% ในแหล่ง Nova) ซึ่งจะเพิ่มปริมาณการผลิตปิโตรเลียมในปี 2565 ของ OKEA อีกประมาณ 5,000- 6,000 บาร์เรลต่อวัน จากปัจจุบันผลิตอยู่ที่ 2.5 หมื่นบาร์เรลต่อวัน นอกจากนี้ยังมีโอกาสที่ OKEA จะซื้อแหล่งปิโตรเลียมใหม่เพิ่มขึ้น.-สำนักข่าวไทย