24 มิ.ย.- นายเขมรัตน์ ศาสตร์ปรีชา รองผู้ว่าการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค รักษาการกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท พีอีเอ เอ็นคอม อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด นายวีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้าน Smart Energy เพื่อรองรับนิคมอุตสาหกรรมอัจฉริยะ (Smart Industrial Estate) ด้าน Smart Energy และ Smart Grid ในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรม จำนวน 15 แห่ง และท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด
นายเขมรัตน์ ศาสตร์ปรีชา รองผู้ว่าการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค รักษาการกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท พีอีเอ เอ็นคอม อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด เปิดเผยว่าความร่วมมือครั้งนี้มุ่งเน้นดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับการพัฒนานิคมอุตสาหกรรมและธุรกิจพลังงานสะอาด ซึ่ง PEA ENCOM ให้การสนับสนุนธุรกิจพลังงานสะอาดในรูปแบบของพลังงานหมุนเวียน โดยการสร้างต้นแบบธุรกิจใหม่ในกลุ่มนิคมอุตสาหกรรมต่าง ๆ ที่ต้องเข้าสู่ความเป็น Smart Energy มากขึ้น และยกระดับสู่การเป็นนิคมอุตสาหกรรมอัจฉริยะ (Smart Industrial Estate) ที่สมบูรณ์แบบทุกด้าน มีการผสมผสานระบบพลังงานและระบบบริหารจัดการพลังงาน หรือ Energy Management System : EMS ที่สามารถเชื่อมโยงทุกระบบเข้าไว้ด้วยกัน ทั้ง Smart Energy, Smart Grid, Smart Meter เพื่อรองรับการขยายตัวของนิคมอุตสาหกรรมได้อย่างมีประสิทธิภาพและคุ้มค่า
สำหรับการร่วมมือนี้มีเป้าหมายดำเนินการ 2 ปี แบ่งเป็น 2 ระยะ ระยะที่ 1 ศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการในด้าน Smart Energy โดยการบริหารจัดการพลังงานเลือกใช้เทคโนโลยีการผลิตพลังงานสะอาดและการลดต้นทุนค่าพลังงาน ออกแบบเบื้องต้นในการติดตั้งระบบ Smart Meter รวมถึงบูรณาการยานยนต์ไฟฟ้า (EV Integration) เพื่อติดตั้งสถานีอัดประจุไฟฟ้าให้กับยานยนต์ ทั้งทางด้านเทคนิค ด้านเศรษฐศาสตร์และการเงิน และศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการในด้าน Smart Grid เน้นศึกษาระบบโครงข่ายไฟฟ้าอัจฉริยะที่นำเทคโนโลยีมาทำงานร่วมกันในระบบไฟฟ้า เช่น การตอบสนองด้านโหลดและการบริหารจัดการพลังงาน ระบบกักเก็บพลังงาน (ESS) ทั้งนี้ เพื่อให้เกิดการใช้ทรัพยากรน้อยลงแต่มีประสิทธิภาพ ยั่งยืน ปลอดภัย และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และชุมชนรอบพื้นที่นิคมอุตสาหกรรม
ระยะที่ 2 หลังผลการศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการในพื้นที่นำร่องและได้ผลศึกษาจนเป็นที่น่าพอใจแล้ว การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคและการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย จะหารือร่วมกันเพื่อกำหนดการดำเนินงานในอนาคต ภายใต้กรอบความร่วมมือของบันทึกความเข้าใจฉบับนี้และกฎ ระเบียบ ข้อบังคับภายในทั้ง 2 หน่วยงานต่อไป