กสิกรไทยประเมินค่าเงินบาทมีโอกาสหลุด 36 บาทต่อดอลลาร์ 

กรุงเทพฯ 23 มิ.ย.-ธนาคารกสิกรไทย ประเมินเงินบาทมีโอกาสหลุด 36 บาทต่อดอลลาร์ หลังนโยบายการเงินเฟดรัวขึ้นดอกเบี้ยสิ้นปีแตะ 3.5% ชี้ ธปท.ขึ้นดอกเบี้ย 2 ครั้ง สกัดเงินเฟ้อ-พยุงเงินบาทอ่อน หลังติดอันดับ 4 เงินผันผวน


นายกอบสิทธิ์ ศิลปชัย ผู้บริหารงานวิจัยเศรษฐกิจและตลาดทุน ธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่า ธนาคารคาดว่าธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย (RP) จำนวน 2 ครั้ง จากเดิมมองว่าจะขึ้นเพียง 1 ครั้งภายในไตรมาสที่ 4/2565 แต่จากนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ที่เร่งขึ้นดอกเบี้ยอีก 1.9% เพื่อต้องการจัดการกับอัตราเงินเฟ้อที่เร่งตัวสูงขึ้น โดยคาดว่าภายในสิ้นปีดอกเบี้ยสหรัฐฯ จะอยู่ที่ 3.5%

ดังนั้น จากนโยบายการเงินของเฟด ทำให้ ธปท. มีความจำเป็นในการขึ้นดอกเบี้ย เนื่องจากหากปล่อยไว้จะยิ่งทำให้ค่าเงินบาทอ่อนค่า และยิ่งเร่งเงินเฟ้อสูงขึ้น ซึ่งที่ผ่านมาจะเห็นว่า ธปท. ได้เข้าไปแทรกแซงค่าเงิน (Intervene) เฉลี่ย3,000-5,000 ล้านดอลลาร์ต่อสัปดาห์ เพื่อช่วยพยุงไม่ให้เงินบาทอ่อนค่าหรือผันผวนเกินไป เพราะหากดูเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นส่วนหนึ่งมาจากผลอัตราแลกเปลี่ยนประมาณ 5% และเงินบาทที่อ่อนค่าประมาณ 80-90% จะมาจากสาเหตุนโยบายการเงินของเฟด ก่อนปี 2019 ที่มีโควิด นักท่องเที่ยวเรามี 40 ล้านคน เงินทุนสำรองเราแข็งแกร่ง แต่ตอนนี้เงินบาทอ่อนไป เงินทุนสำรองระหว่างประเทศที่เราตุนไว้มีพอสมควร เพราะเรามีฐานะเป็นเจ้าหนี้ ไม่ใช่ ลูกหนี้ เหมือนปี 2540 แต่การแทรกแซงก็ควรใช้ให้เหมาะสม และไม่ให้เงินบาทผันผวนเกินไป ซึ่งที่ผ่านมาเงินบาทผันผวนเป็นอันดับที่ 4 โดยประเทศที่มีความผันผวนสุด คือ วอน-เกาหลีใต้ รองลงมา รูเปียห์-อินโดนีเซีย เปโซ-ฟิลิปปินส์ ซึ่งเราต้องการไม่ให้ค่าเงินผันผวนมากหรือน้อยเกินไป


ทั้งนี้ ธนาคารกสิกรไทย มองว่าธปท.ปรับขึ้นดอกเบี้ยน่าจะเป็นผลบวกมากกว่าผลลบ แต่การปรับขึ้นคาดว่าธปท.จะขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนสิงหาคม 1 ครั้ง และรอดูผลลัพธ์จากการปรับขึ้นดอกเบี้ย เพื่อไม่ให้เงินบาทอ่อนค่าเกินไป และจะปรับดอกเบี้ยขึ้นอีก 1 ครั้งภายในเดือนพฤศจิกายน แม้ว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจะเพิ่มภาระต้นทุนที่เพิ่มขึ้น แต่คิดว่าเหมาะสม สะท้อนธปท.ช่วยอุดหนุนเรื่องอัตราแลกเปลี่ยน

โดยกรอบประมาณการค่าเงินบาท มองว่า ปัจจุบันค่าเงินบาทยังไม่ถึงจุดต่ำสุด โดยคาดว่าจุดอ่อนสุดมีโอกาสหลุด36 บาทต่อดอลลาร์ และจะทยอยกลับมาแข็งค่าในระดับ 33.50 บาทต่อดอลลาร์ จากสัญญาณการท่องเที่ยวที่ปรับดีขึ้น ซึ่งจะเป็นตัวแปรสำคัญต่อค่าเงินบาทในสิ้นปีนี้ ซึ่งจะเห็นว่าตัวเลขการท่องเที่ยว 4 เดือนแรกค่อนข้างดี มีจำนวนนักท่องเที่ยวเข้ามาแล้วกว่า 7-8 แสนคน

และคาดว่าจากสงครามรัสเซียและยูเครน ทำให้การส่งก๊าซไปยังกลุ่มประเทศยุโรปถูกตัดขาด จะทำให้ในช่วงฤดูหนาวนักท่องเที่ยวกลุ่มยุโรปจะเดินทางเข้ามาในไทยมากขึ้น ซึ่งเป็นช่วงไฮซีซั่นพอดี แม้ว่าอัตราการเข้าพักยังน้อยเมื่อเทียบก่อนโช่วงโควิด-19 แต่มีแนวโน้มดีขึ้น และคาดว่าท่องเที่ยวจะกลับเข้าสู่ปกติภายในปี 2566.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ไม่เอาไว้! ต่างด้าวสร้างปัญหาให้บุคลากรการแพทย์เมืองปาย

ผบช.สตม. ลั่น ไม่เอาไว้! ต่างด้าวสร้างปัญหาให้บุคลากรการแพทย์เมืองปาย เพิกถอนใบอนุญาต ผลักดันออกนอกประเทศทันที

ตรวจสอบ The Park เขาหลัก งบก่อสร้าง 140 ล้าน คุ้มค่าหรือไม่?

สำนักข่าวไทย ได้รับเรื่องร้องเรียนจากชาวบ้านให้ช่วยเข้าไปตรวจสอบการก่อสร้างโครงการศูนย์กลางการท่องเที่ยวและนันทนาการชายฝั่งแห่งเมืองพังงา หรือ The Park เขาหลัก ริมหาดบางเนียง หลังมีข้อมูลว่าเป็นโครงการที่ก่อสร้างด้วยงบกว่าร้อยล้านบาท แต่ปัจจุบันกลับไม่ได้ใช้ประโยชน์ และถูกปล่อยให้อยู่ในสภาพรกร้าง

ลูกสาวสารภาพจุดไฟเผาพ่อวัย 73 ดับคากระท่อม

ลูกสาวเปิดปากสารภาพจุดไฟเผาพ่อวัย 73 ปี เสียชีวิตในกระท่อม ข้างลานรับซื้อข้าวเปลือก ต.โนนศิลาเลิง อ.ฆ้องชัย จ.กาฬสินธุ์

พิรงรองคุก2ปี

คุก 2 ปี “พิรงรอง” กสทช. คดี “ทรู” ฟ้องกลั่นแกล้ง

ศาลสั่งจำคุก 2 ปี “พิรงรอง” กรรมการ กสทช. ไม่รอลงอาญา ผิดมาตรา 157 ชี้มีเจตนากลั่นแกล้ง “ทรูไอดี” ให้ได้รับความเสียหาย กรณีออกหนังสือเตือนโฆษณาแทรกในทีวีดิจิทัล

ข่าวแนะนำ

ตัดไฟเมียนมา

ตัดแขนขาเมียนมา ราคาน้ำมันพุ่ง-จำกัดการซื้อ

เข้าสู่วันที่ 3 สำหรับการตัดไฟฟ้า สัญญาณอินเทอร์เน็ต และระงับการส่งน้ำมัน จากฝั่งแม่สอดของไทยไปเมืองเมียวดีของเมียนมา ซึ่งส่งผลกระทบชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะการขาดแคลนน้ำมันในฝั่งเมียวดี

หมายจับ สส.ปูอัด

“สส.ปูอัด” เงียบหาย หลังถูกออกหมายจับข่มขืนสาวไต้หวัน

“สส.ปูอัด” เงียบหาย ไม่รับสายสื่อ หลังถูกออกหมายจับข่มขืนสาวไต้หวัน ด้าน “เลขาสภาฯ” เผยเรื่องยังไม่ถึงสภา หากมาแล้วต้องบรรจุวาระขอสมาชิกให้อนุญาตดำเนินคดี