แบงก์รัฐผนึกกำลังกระทรวงดิจิทัลฯ ดูแลข้อมูลลูกค้า 

กรุงเทพฯ 23 มิ.ย.-แบงก์รัฐจับมือกระทรวงดิจิทัลฯ มุ่งดูแลข้อมูลลูกค้าแบงก์ รองรับสังคมค้าขาย ชำระสินค้าออนไลน์ 


นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กล่าวปาฐกถาในหัวข้อ “PDPA กับเศรษฐกิจดิจิทัลและภาคการเงิน” ในงานสัมมนา “PDPA เศรษฐกิจดิจิทัลและสถาบันการเงิน” ว่า หลังจาก พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 (PDPA) มีผลบังคับใช้ 1 มิถุนายน 2565 รัฐบาลจึงให้ความสำคัญในการผลักดันกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล จึงต้องกำกับดูแลการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลขององค์กรต่างๆ ทั้งในภาครัฐและภาคเอกชน เมื่อสังคมยุคใหม่มีคนใช้โมบายแบงก์กิ้งสูงมากอันดับต้นๆ ของโลก เพื่อโอนเงินผ่านออนไลน์ ชำระค่าสินค้า สถาบันการเงินและภาครัฐจึงต้องดูแลปรับปรุงระบบ คนซื้อได้สินค้า คนขายได้รับชำระเงิน จึงต้องดูแลข้อมูลลูกค้าไม่ให้ถูกส่งต่อนำไปใช้ประโยชน์ สถาบันการเงินต้องรับผิดชอบ 

ภาครัฐจึงต้องออกกฎหมายควบคุมดูแล ไม่ให้นำข้อมูลไปใช้ในทางไม่ถูกต้อง รวมถึงข้อมูลอ่อนไหวส่วนบุคคลต้องให้การดูแล วันนี้ต้องสร้างการรับรู้ เมื่อข้อมูลลูกค้าอยู่กับแบงก์ต้องจัดเก็บให้ดี หากทิ้งต้องทำลายให้เรียบร้อย เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้า และหากมีปัญหาการชำระเงินออนไลน์ หรือถูกหลอกลวง ร้องเรียนผ่านสายด่วน 1212 หรือแจ้งความผ่านออนไลน์กับตำรวจสายด่วน 1414 อย่างไรก็ตาม รัฐบาลยังผ่อนปรนให้ผู้ประกอบการรายย่อย เอสเอ็มอี วิสาหกิจชุมชน โดยไม่คุมเข้มเรื่องข้อมูล PDPA มากเกินไป เพื่อให้รายย่อยปรับตัว แต่ต้องร่วมกันดูแลข้อมูลลูกค้า


นายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ในฐานะประธานกรรมการสมาคมสถาบันการเงินของรัฐ เปิดเผยว่า ธอส. และสถาบันการเงินของรัฐทั้ง 7 แห่ง ต่างให้ความสำคัญกับกฎหมายในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ทั้งด้านการเก็บรวบรวม การใช้ควบคุม หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึงสิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล จึงร่วมมือสร้างความเข้าใจกับลูกค้าในการนำข้อมูลมาใช้พัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการให้ตรงกับความต้องการของลูกค้า โดยไม่ขัดต่อเจตนารมณ์ของกฎหมาย แบงก์รัฐมีลูกค้า 40 ล้านราย นับเป็นกลุ่มรายย่อยที่ไม่เข้มแข็งมาก จึงต้องดูแลไม่ให้ข้อมูลลูกค้ารั่วไหล ที่ผ่านมา ธ.กรุงไทย ให้บริการผ่านแอปฯ เป๋าตัง ทำให้ลูกค้าใช้บริการออนไลน์คล่องมากขึ้น ดังนั้น หากธนาคารจะให้บริการผลิตภัณฑ์ทางการเงินเพิ่มเติม อาจต้องให้ลูกค้าทำการยืนยัน เพื่อยินยอมการใช้ข้อมูลในการให้บริการด้านต่างๆ เพิ่มเติม.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่ม 31 ซิ่งเก๋งชนไรเดอร์ดับคาที่ หลังมีปากเสียงเรื่องขับเฉี่ยวชน

หนุ่มไทยเชื้อสายอินเดีย ลูกเจ้าของร้านขายผ้าซิ่งเก๋งชนไรเดอร์ดับ ริมถนนสุขุมวิท หลังมีปากเสียงเรื่องขับรถเฉี่ยวไม่ลงมาเจรจา

พ่อพาญาติเยี่ยมลูกชายลูกครึ่งอินเดีย ขับรถชนไรเดอร์ดับ

พ่อพาญาติเยี่ยมลูกชายลูกครึ่งอินเดีย ที่หัวร้อนขับรถชนไรเดอร์ดับคาที่กลางสุขุมวิท เมื่อวานนี้ พร้อมไหว้ขอสื่อ อย่ามายุ่งกับครอบครัว

จำคุกทนายเดชา

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” ปมไลฟ์หมิ่น “อ.อ๊อด”

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” คดีหมิ่น “อ.อ๊อด” ปรับ 1 แสนบาท ปมไลฟ์ด่าเสียหาย ให้รอลงอาญา โจทก์เตรียมอุทธรณ์ต่อ ขอให้ติดคุกจริง

ศาลให้ประกันหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนไรเดอร์ดับ

ครอบครัวไรเดอร์ที่ถูกหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนเสียชีวิต กอดกันร้องไห้รับร่างและรดน้ำศพ ด้านศาลให้ประกันตัวผู้ต้องหา วงเงิน 600,000 บาท ติดกำไล EM-ห้ามออกนอกประเทศ

ข่าวแนะนำ

นาทีประวัติศาสตร์! นายกฯ ร่วมพิธีลงนาม FTA ไทย-เอฟตา

นายกฯ ร่วมพิธีลงนาม FTA ไทย-เอฟตา ฉบับแรกไทยกับยุโรป ความสำเร็จรัฐบาลแพทองธาร สร้างโอกาสยุคทองการค้า-ลงทุน ทำเงินเข้าประเทศ

สมรสเท่าเทียม

นายกฯ ส่งคลิปสารร่วมยินดีกฎหมายสมรสเท่าเทียมบังคับใช้

“แพทองธาร” นายกฯ ส่งคลิปสารร่วมแสดงความยินดีกฎหมายสมรสเท่าเทียมบังคับใช้ ขอบคุณทุกภาคส่วนผ่านการต่อสู้กับอคติกว่า 2 ทศวรรษ ทำให้ ทุกตารางนิ้วของประเทศไทยโอบรับความหลากหลาย และเท่าเทียม

จำคุกสมรักษ์คำสิงห์

ศาลสั่งคุก 2 ปี 13 เดือน 10 วัน “สมรักษ์” พยายามข่มขืนสาววัย 17

ศาลจังหวัดขอนแก่น พิพากษาจำคุก “สมรักษ์ คำสิงห์” อดีตนักมวยฮีโร่เหรียญทองโอลิมปิก เป็นเวลา 2 ปี 13 เดือน 10 วัน พร้อมชดใช้ค่าสินไหมทดแทนรวม 170,000 บาท คดีพยายามข่มขืนเด็กสาววัย 17 ปี

คึกคัก คู่รักจูงมือกันไปจดทะเบียนวันแรกกฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผล

วันนี้กฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ หลายคู่รักควงแขนไปจดทะเบียนสมรสกันชื่นมื่น ที่สยามพารากอน มีคู่รักที่ลงทะเบียนมาจดทะเบียนสมรสที่นี่กว่า 300 คู่