fbpx

จีนชื่นชมกรมวิชาการเกษตรคุมเข้มมาตรการ GMP Plus 

กรุงเทพฯ 22 มิ.ย. – อธิบดีกรมวิชาการเกษตรเผย ไทยรักษาแชมป์ส่งออกทุเรียนไปจีนโดย 4 เดือนกว่ายอดส่งออกทะลุเป้าเกิน 5 แสนตัน สร้างรายได้แล้วกว่า 5 หมื่นล้านบาท เอกอัครราชทูตจีนชื่นชมมาตรการ GMP Plus ป้องเชื้อโควิด-19 คุมเข้มทุเรียนภาคใต้ด้วย GMP Plus ต่อ พร้อมชงของบ 59 ล้านสร้างแลปศูนย์กลางตรวจสอบสร้างความเชื่อมั่นผลไม้ไทยปลอดภัย


นายระพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร เปิดเผยว่าจากนโยบายผลักดันการส่งออกผลไม้ไปจีนของนางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กำชับผู้ประกอบการส่งออกผลไม้ยึดแนวปฏิบัติตามมาตรการ GMP Plus ของกรมวิชาการเกษตร ทำให้ประเทศไทยสามารถรักษาแชมป์ตลาดส่งออกทุเรียนไปจีนไว้ได้ โดยตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์-17 มิถุนายน 2565 มีการส่งออกทุเรียนผลสดจากไทยไปจีนปริมาณ 509,138 .89 ตัน รวมมูลค่า 54,418.45 ล้านบาท 

นอกจากนี้ ในการเดินทางมาเยี่ยมชมสวนและล้งทุเรียนที่จังหวัดจันทบุรีของนายหาน จื้อเฉียง เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนได้สร้างความเชื่อมั่นทุเรียนไทยคุณภาพดีและมีมาตรฐานความปลอดภัยตั้งแต่กระบวนการปลูก การคัดคุณภาพ การฆ่าเชื้อปนเปื้อนและการขนส่งภายใต้มาตรการ GMP Plus ที่เข้มข้นในการส่งออกไปยังประเทศจีน โดยเฉพาะในช่วงสถานการณ์โควิด-19  ซึ่งส่งผลกระทบต่อการส่งสินค้าออกจากไทยไปจีนอย่างมากโดยเอกอัครราชทูตจีนได้กล่าวชื่นชมและขอบคุณผู้ส่งออกไทยที่ปฏิบัติตามกฎระเบียบที่เข้มงวดดังกล่าว


อธิบดีกรมวิชาการเกษตร กล่าวว่า การส่งออกผลไม้ไปจีนในปีนี้ภายใต้มาตการป้องกันการปนเปื้อนเชื้อโควิด-19 ซึ่งจีนให้ความสำคัญและเข้มงวดในการตรวจสอบสินค้าที่นำเข้าอย่างมากถือว่าประสบความสำเร็จ สามารถส่งออกทุเรียนได้เกินเป้าที่ตั้งไว้ เนื่องจากนางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์  ได้เตรียมการวางแผนล่วงหน้าโดยลงพื้นที่ จ.จันทบุรี เมื่อวันที่ 31 มี.ค. 2565 เพื่อหารือแนวทางการบริหารจัดการผลไม้ปี 65 และจัดทำมาตรการการส่งออกร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรีพร้อมด้วยผู้แทนภาคเอกชนและเกษตรกร พร้อมเน้นย้ำขอให้ช่วยกันพัฒนาทุเรียนคุณภาพปลอดโควิด-19 เพื่อรักษาตลาดส่งออก โดยต้องมีความซื่อสัตย์ไม่ตัดทุเรียนอ่อนมาจำหน่าย ขณะที่ภาคเอกชนต้องยกระดับโรงคัดบรรจุเข้าสู่ GMP Plus ซึ่งกรมวิชาการเกษตรได้จัดทำแนวปฏิบัติไว้เพื่อให้จังหวัดจันทบุรีเป็นพื้นที่นำร่องสร้างระบบทำให้ทุเรียนไทยปลอดโควิดเพื่อให้จีนเชื่อมั่นว่าทุเรียนไทยปลอดโควิด 100% 

ขณะนี้ กรมวิชาการเกษตรได้ขยายผลมาตรการ GMP Plus ไปสู่การส่งออกทุเรียนในภาคใต้ ซึ่งคาดการณ์ว่า ทุเรียนใต้ในปีนี้จะให้ผลผลิตเร็วกว่าทุกปีคือ ตั้งแต่เดือนมิถุนายน-สิงหาคม และจะมีรายได้จากการส่งออกเพิ่มขึ้นมากกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ โดยสำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตรเขตที่ 7 จ.สุราษฎร์ธานี กรมวิชาการเกษตรได้จัดอบรมหลักสูตรการพัฒนาทักษะผู้ควบคุมคุณภาพผลผลิตประจำโรงคัดบรรจุผลไม้ทั้งเปลือกแก่ผู้ประกอบการโรงคัดบรรจุผลไม้ภาคใต้ เพื่อให้มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับมาตรการการป้องกันเชื้อโควิด-19  รวมทั้งจัดทีมออกปฏิบัติการเชิงรุกเข้าตรวจโรงคัดบรรจุตามมาตรการควบคุมป้องกันการปนเปื้อนของเชื้อโควิด-19 ติดปนเปื้อนไปกับทุเรียนโดยมีโรงคัดบรรจุในเขตจังหวัดชุมพร นครศรีธรรมราช และสุราษฎร์ธานี ผ่านการตรวจรับรองตามมาตรการ GMP Plus แล้ว 79 โรงคัดบรรจุ

“มาตรการ GMP Plus เป็นที่ยอมรับของจีนช่วยสร้างความเชื่อมั่นในคุณภาพและความปลอดภัยของผลไม้ไทย ได้อนุมัติงบประมาณให้สำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตรเขตที่ 6 จ.จันทบุรี ในระยะเร่งด่วนวงเงินจำนวน 1.5 ล้านบาท 


สำหรับจัดทำห้องปฏิบัติการเคลื่อนที่ออกตรวจทุเรียนส่งออกไปจีน ส่วนในระยะยาวเพื่อเป็นการพัฒนาอย่างยั่งยืน ได้เตรียมเสนอของบกลางจากคณะรัฐมนตรีภายในวงเงิน 59 ล้านบาท ตามโครงการยกระดับมาตรฐานสินค้า เพื่อสร้างห้องปฏิบัติการตรวจรับรองปัจจัยการผลิตและสินค้าเกษตรเพื่อป้องกันเชื้อปนเปื้อนสู่คนและสิ่งแวดล้อม โดยเมื่อห้องแล็บนี้สร้างแล้วเสร็จ จะเป็นศูนย์กลางในการตรวจสอบและให้บริการแก่เกษตรกร ผู้ประกอบการในการผลิตและส่งออกผลไม้ปลอดภัย เพื่อสร้างความเชื่อมั่นต่อผู้บริโภคทั้งชาวไทยและต่างประเทศ ซึ่งมูลค่าส่งออกผลไม้โดยเฉพาะทุเรียนสร้างรายได้เข้าประเทศปีละหลายแสนล้านบาท” อธิบดีกรมวิชาการเกษตรกล่าว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รวบผู้ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพที่นนทบุรี นำตัวเข้าเซฟเฮาส์

รวบตัวชายไทย อายุประมาณ 35-40 ปี ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพ ภายในซอยจัดสรรสวิง 2 ถนนบ้านกล้วย-ไทรน้อย ต.พิมลราช อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ตำรวจนำตัวเข้าเซฟเฮาส์ อยู่ระหว่างสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐาน

ผู้ว่าการ ธปท.เตือน ครม. หวั่นดิจิทัลวอลเล็ตก่อหนี้จำนวนมาก

ทำเนียบฯ 24 เม.ย.- ผู้ว่าการ ธปท. ทำหนังสือถึง ครม. เตือนเดินหน้าดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท หวั่นก่อหนี้จำนวนมาก นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ทำหนังสือถึงสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ลงวันที่ 22 เมษายน 2567 เพื่อเสนอความเห็นประกอบการพิจารณาในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 23 เม.ย.2567 มองว่า โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เป็นโครงการขนาดใหญ่ของประเทศ  ต้องใช้เงินจำนวนมาก อาจก่อให้เกิดภาระหนี้ผูกพันต่อรัฐบาลในอนาคตดังนี้ 1.ความจำเป็น โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท และผลกระทบต่อเสถียรภาพทางการคลังของประเทศ ควรดูแลครอบคลุมเฉพาะกลุ่มเป้าหมาย  เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระค่าครองชีพ ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างมีประสิทธิผลคุ้มค่า และใช้งบประมาณลดลง  โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ เช่น กลุ่มผู้มีรายได้น้อย หรือผู้ถือบัตรสวัสดิการฯ 15 ล้านคน ซึ่งดำเนินการได้ทันที และใช้งบประมาณเพียง 150,000 ล้านบาท และควรทำแบบแบ่งเป็นระยะ (phasing) เพื่อลดผลกระทบต่อเสถียรภาพการคลัง  […]

“สารวัตรแจ๊ะ” ยื่นฟ้องหมิ่น “ทนายรัชพล” กล่าวหาจับแพะติดคุกฟรีปีกว่า

“สารวัตรแจ๊ะ” พร้อมทนายความ ยื่นฟ้องหมิ่นประมาททนายดัง และฟ้องแพ่งเรียกค่าเสียหาย 5 ล้านบาท ยันไม่ได้นําตัวไปเซฟเฮาส์ ด้านทนายเผยพบหลักฐานทนายคู่กรณีบีบผู้เสียหายกลับคําให้การ แบ่งเงินคนละครึ่ง

ข่าวแนะนำ

ญาติคาใจ ตำรวจทำเกินกว่าเหตุ

เหตุการณ์ตำรวจ สภ.จอหอ จังหวัดนครราชสีมา ขับรถกระบะไล่ล่า เฉี่ยวชนรถจักรยานยนต์คนร้ายคดีลักทรัพย์ จนมีผู้เสียชีวิต 2 ราย ญาติคาใจการทำหน้าที่ของตำรวจว่า น่าจะทำเกินกว่าเหตุ ไม่เป็นไปตามยุทธวิธี ล่าสุด ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา สั่งตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว

คลี่ปมฆ่าโหดหนุ่มไทใหญ่ ทิ้งศพเชียงใหม่

ขมวดปมเข้ามาเรื่อยๆ สำหรับคดีฆ่าโหดใช้ค้อนปอนด์ทุบหัวหนุ่มไทใหญ่ลากขึ้นรถนำศพไปทิ้งที่ อ.แม่ริม เชียงใหม่ ล่าสุดเจ้าหน้าที่แกะรอยกล้องวงจรปิด พบรถที่กลุ่มคนร้ายใช้ขนศพ จ่อออกหมายจับอย่างน้อย 3 คน คาดปมสังหารจากเรื่องทะเลาะวิวาท

ไฟไหม้โกดังพระราม 2 เหตุร้อนจัด สารเคมีติดไฟเอง

กระทรวงอุตสาหกรรม เผยสาเหตุไฟไหม้โกดังย่านพระราม 2 มาจากอากาศร้อนจัด ทำให้สารไทโอยูเรียไดออกไซด์ติดไฟเอง เตือนสถานประกอบการให้แยกสารเคมีที่ติดไฟเองได้หรือสามารถทำปฏิกิริยาออกจากกัน หวั่นเกิดเหตุซ้ำ เพราะอากาศยังคงร้อนจัดต่อเนื่อง

ขอบคุณสมาคมธนาคารไทย ปรับลดดอกเบี้ย MRR

นายกฯ ขอบคุณสมาคมธนาคารไทย หั่นดอกเบี้ยลูกค้ารายย่อยชั้นดี (MRR) ลง 0.25% เป็นเวลา 6 เดือน เพื่อลดภาระดอกเบี้ยให้กลุ่มเปราะบาง ทั้งลูกค้าบุคคล และ SME