“มนัญญา” เปิดศูนย์ข้อมูลกัญชา-แจกกล้าล้านต้น

กรุงเทพฯ 16 มิ.ย. – รมช.มนัญญา เปิด “ศูนย์บริหารจัดการพืชกัญชา กัญชง และกระท่อม แบบเบ็ดเสร็จ” ประสานงานวิจัยให้ข้อมูลแบบ One Stop Service พร้อมเปิดโครงการแจกกัญชา กัญชง ล้านต้นสู่ครัวเรือน ย้ำเป็นต้นกล้าพันธุ์ที่แจกจ่ายเพื่อใช้ประโยชน์ทางการแพทย์


นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เป็นประธานพิธีเปิดศูนย์บริหารจัดการพืชกัญชา กัญชง และกระท่อม แบบเบ็ดเสร็จ (One Stop Service ) ซึ่งตั้งอยู่ที่ตึกกสิกรรม กรมวิชาการเกษตรมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บางเขน พร้อมเปิดตัวโครงการ “แจกกัญชา กัญชง ล้านต้น สู่ครัวเรือน” โดยมีนายระพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร นายภัสชญภณ หมื่นแจ้ง พร้อมด้วย ผู้บริหารกรมวิชาการเกษตร และเจ้าหน้าที่เข้าร่วมในพิธี

นางสาวมนัญญากล่าวว่า กรมวิชาการเกษตรจัดตั้งศูนย์ One Stop Service กัญชา กัญชง และกระท่อมขึ้นเพื่อทำหน้าที่ประสานงานวิจัย รวมถึงให้ข้อมูลด้านต่างๆ แบบครบวงจรแก่หน่วยงานของรัฐ เอกชน และประชาชนเนื่องจากหลังการปลดล็อกพืชทั้ง 3 ชนิดออกจากรายชื่อยาเสพติด ประชาชนจำนวนมากให้ความสนใจ แต่ยังขาดความรู้ความเข้าใจในการเพาะปลูก กฎระเบียบในการควบคุมกำกับดูแลทั้งการนำเข้า ส่งออก การขึ้นทะเบียนพันธุ์ หรือการขายเมล็ดพันธุ์ กรมวิชาการเกษตรมีภารกิจด้านกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องกับพืชกัญชา กัญชง และกระท่อม ภายใต้ พ.ร.บ. กักพืช พ.ร.บ. พันธุ์พืช และพ.ร.บ.คุ้มครองพันธุ์พืชเพื่อควบคุมกำกับดูแลการนำเข้า ส่งออก รวมถึงการขึ้นทะเบียนพันธุ์กัญชา กัญชง และกระท่อมซึ่งมอบนโยบายให้กรมวิชาการเกษตรเตรียมความพร้อมเพื่อรองรับการปฏิบัติงานตามภารกิจ และกฎหมายที่อยู่ในความรับผิดชอบของกรมวิชาการเกษตร


วันนี้ (16 มิ.ย.) เป็นวันแรกที่กรมวิชาการเกษตรเปิดให้ประชาชนที่สนใจลงทะเบียนรับกล้าพันธุ์กัญชา กัญชงพันธุ์ดีตาม “โครงการแจกกัญชา กัญชงล้านต้นสู่ครัวเรือน” โดยมอบให้ครัวเรือนละ 2 ต้นซึ่งจะได้รับ 500,000 ครัวเรือน ที่ถุงต้นพันธุ์จะมีคิวอาร์โค้ดติดอยู่ สามารถใช้โทรศัพท์มือถือสแกนซึ่งจะทราบข้อมูลพันธุ์และคู่มือการดูแล มุ่งหวังกระจายความรู้ต่อๆ กันไป ขอย้ำว่า ต้นกัญชาที่แจกมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ใช้ทางการแพทย์ซึ่งประชาชนต้องศึกษาวิธีการใช้ที่ถูกต้องและเหมาะสม พร้อมระบุว่า ตนเองมีอาการปวดเข่าบ่อยๆ จึงใช้รากกัญชาผสมน้ำผึ้งมาประคบ 

นายระพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตรกล่าวว่า ศูนย์บริหารจัดการพืชกัญชา กัญชง และกระท่อม แบบเบ็ดเสร็จ จัดตั้งขึ้นตามนโยบายของรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยรวบรวมข้อมูลต่างๆ มาไว้ที่ศูนย์ One Stop Service ตั้งอยู่ภายในกรมวิชาการเกษตร รวมทั้งมีบริการสายด่วนสำหรับสอบถามข้อมูล 1174 

นอกจากนี้ จากการที่กรมวิชาการเกษตรได้ทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) พืชสกุลกัญชา ร่วมมือกับกระทรวงสาธารณสุขเพื่อใช้ประโยชน์ทางการแพทย์และศึกษาวิจัยเมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2565 จึงนำไปสู่ “โครงการส่งเสริมสนับสนุน การปลูกกัญชา กัญชง 1 ล้านต้น” ตามนโยบายรัฐบาล ซึ่งกรมวิชาการเกษตรแจกต้นกล้าพันธุ์เพื่อให้ประชาชนได้ใช้ต้นกล้าพันธุ์ดี มีคุณภาพและเหมาะสมกับสภาพแวดล้อม แล้วนำไปใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ในครัวเรือนและอุตสาหกรรม 


กรมวิชาการเกษตรเริ่มเปิดให้ประชาชนลงทะเบียนรับกล้าพันธุ์กัญชาพันธุ์ดีตั้งแต่ช่วงเช้าวันนี้ เป็นการลงทะเบียนในWebsite ของกรมวิชาการเกษตร มีผู้สนใจลงทะเบียนเข้ามาอย่างล้นหลาม โดยประชาชนยังสามารถลงทะเบียนในระบบต่อเนื่องได้เพราะเพื่อรับต้นกล้ากัญชาตั้งแต่เดือนมิถุนายนนี้เป็นต้นไปซึ่งจะแจกเดือนละ 100,000 – 200,000 ต้น ครัวเรือนละ 2 ต้น จนครบ 1 ล้านต้นตามเป้าหมาย ผู้ลงทะเบียนจะได้รับต้นกัญชาหลังลงทะเบียนประมาณ 30 วันเนื่องจากต้องใช้เวลาประมาณ 21-30 วันต่อรอบการผลิต พันธุ์ที่แจกหลักๆ คือ พันธุ์อิสระ 01 ซึ่งพัฒนาพันธุ์โดยกรมการแพทย์ กรมวิชาการเกษตร และมูลนิธิวนเกษตรอินทรีย์ 

สำหรับกรุงเทพฯ และปริมณฑลสามารถลงทะเบียนได้ที่ศูนย์บริการจัดการพืชกัญชา กัญชง และกระท่อมแบบเบ็ดเสร็จภายในกรมวิชาการเกษตร ส่วนต่างจังหวัด สามารถลงทะเบียนได้ที่สำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตรใกล้บ้าน หรือสำนักงานสหกรณ์จังหวัดครอบคลุมทั้ง 77 จังหวัf โดยสถานที่ดังกล่าวจะเป็นจุดรับต้นกล้ากัญชา กัญชง กรณีลงทะเบียนผ่านระบบออนไลน์ที่ Website กรมวิชาการเกษตร https://www.doa.go.th/th/ ซึ่งเป็นวิธีที่สะดวก หรือโทรสายด่วน One Stop  1174 ปรึกษาเรื่อง การขึ้นทะเบียนสายพันธุ์ การปลูก การจำหน่ายเมล็ดพันธุ์ กล้าพันธุ์ การวิจัยการนำเข้า และส่งออก กัญชา กัญชง และกระท่อม.- สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.พล.7 ของเขมร โดนกระสุนปืนใหญ่ยิงดับ บนช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ

26 ก.ค. – พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ จากการปะทะแย่งชิงพื้นที่ระหว่างทหารไทย-กัมพูชา ตลอดวันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การปะทะระหว่างทหารไทย กับทหารกัมพูชา บริเวณภูมะเขือ และช่องตาเฒ่า ตั้งแต่เช้ามืดวันนี้ ทหารไทยสามารถปกป้องพื้นที่ภูมะเขือ และกดดันทหารกัมพูชาออกจากพื้นที่ได้สำเร็จ ในขณะที่ทหารกัมพูชา พยายามกลับเข้ามาโจมตีกลับ เพื่อยึดภูมะเขือ ส่งผลให้มีทหารกัมพูชาเสียชีวิตหลายนาย หนึ่งในนั้นคือ พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ. – สำนักข่าวไทย

ทอ.ส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตีสกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา

26 ก.ค.- กองทัพอากาศส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตียุทธบริเวณ “ภูมะเขือ” สกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา อีกจุดปราสาทตาเมือนธม ผลปฏิบัติลุล่วงกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินกริพเพน จำนวน 2 ลำ ออกปฏิบัติการโจมตี พื้นที่ยุทธบริเวณเป้าหมายทหาร ของทางทหารกัมพูชาบริเวณภูมะเขือ หลังทหารกัมพูชาเตรียมใช้อาวุธวิธีโค้งยิงใส่ฝ่ายไทยหวังยึดภูมะเขือ ส่วนอีกจุดบริเวณปราสาทตาเหมือนธม โดยเป็นจุดที่ทางทหารกัมพูชาได้ตั้งปืนใหญ่และกำลังพลยิงข้ามมายังฝั่งประเทศไทยโดยไร้ทิศทาง ทั้งนี้ผลการปฏิบัติการ ทำลายเป้าหมายได้ทั้งสองจุด ลุล่วงไปด้วยดี และได้บินกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การขึ้นบินกริพเพนของกองทัพ ในภารกิจสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งนี้ ถือเป็น ‘ประวัติศาสตร์’ ของเครื่องบินขับไล่กริพเพนที่มีประจำการในหลายประเทศ ที่ใช้ในภารกิจสู้รบ-ใช้อาวุธจริงครั้งแรก ที่ผ่านมา กริพเพน ถูกใช้เพียงภารกิจบินรักษาอาณาเขต เช่น บริเวณทะเลบอลติกในทวีปยุโรป ในฐานะสมาชิก ‘นาโต้’ ผ่านเหตุการณ์สู้รบ ‘ยูเครน-รัสเซีย’ และภารกิจเฝ้าตรวจ-คุ้มกันน่านฟ้า ประเทศลิเบีย ที่กองทัพอากาศสวีเดนเข้าร่วมภารกิจ -สำนักข่าวไทย

กริพเพน

ทอ. ส่ง F16 – กริพเพน ปฏิบัติการรอบ 2 ทิ้งบอมบ์พื้นที่ทางทหารเขมร

26 ก.ค. – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และกริพเพน 2 ลำ ออกปฏิบัติการรอบสอง โจมตียุทธบริเวณทำลายพื้นที่ทหารกัมพูชา บริเวณปราสาทตาควาย อ.พนมดง จ.สุรินทร์ ภารกิจลุล่วง และกับฐานปฏิบัติโดยปลอดภัย สำหรับพื้นที่บริเวนนี้ ทหารไทยกับทหารกัมพูชา ปะทะกันดุเดือด โดยทหารไทยพยายามทำลายพื้นที่กัมพูชาวางกำลังไว้หลายระลอก ในขณะที่กัมพูชาโต้กลับและระดมกำลังทหารมาเพิ่มเติม ส่งผลให้พื้นที่บริเวนนี้มีการปะทะดุเดือดตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.ถึงวันนี้. – สำนักข่าวไทย

เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ”

26 ก.ค.- เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ” ทหารไทยยึดอาวุธปืน-โดรน 11 รายการ พร้อมมือถือ 7 เครื่อง ใช้ถ่ายคลิปยั่วยุทหารไทย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 ระบุว่า สำหรับปฏิบัติการ ของเจ้าที่ทหารกองทัพภาคที่ 2 บนภูมะเขือที่สามารถยึดกลับคืนมาได้ ทำให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 10 นาย พร้อมทั้งตรวจพบและสามารถยึดอาวุธ ยุทโธปกรณ์ จำนวน 11 รายการ ประกอบด้วย นอกจากนี้ยังพบโทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง ที่ทางทหารกัมพูชาชอบถ่ายในเวลาทำคลิปเมื่อเจอกับทหารไทยบริเวณแนวชายแดน -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ทบ. เผยเลื่อนคุย ‘ทหารไทย-กัมพูชา’ ไม่มีกำหนด

29 ก.ค.- โฆษกทบ. เผยเลื่อนคุย ‘ทหารไทย-กัมพูชา’ ไม่มีกำหนด ยังนัดหมายพบปะกันไม่ได้ แต่พยายามอยู่ พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า พื้นที่กองทัพภาคที่ 2 โดยฝ่ายไทย พล.ท.อมฤต บุญสุยา แม่ทัพภาค1 พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 และฝ่ายกัมพูชา พล.อ.โปว เฮง ผบ.ภูมิภาคทหารที่ 4 และ พล.อ.แอก ซอมโอน ผบ.ภูมิภาคทหารที่ 5 ทั้ง 2 ฝ่ายยังนัดหมายพบปะไม่ได้ เลื่อนไป ยังไม่มีระบุเวลา (เดิมเวลา 10.00 น.) แต่ยังพยายามอยู่ -สำนักข่าวไทย

“แพทองธาร​” ไม่แปลกใจ กัมพูชาไม่เป็นสุภาพบุรุษ

ทำเนียบ 29 ก.ค.- “แพทองธาร​” ไม่แปลกใจกับความไม่เป็นสุภาพบุรุษของ “กัมพูชา” หลังละเมิดข้อตกลงหยุดยิง ชี้ต้องฟ้อง ปท. ที่เข้ามาเป็นพยานด้วย บอก​ จะถาม “ภูมิธรรม” ให้ ต้องออกแถลงการณ์โต้หรือไม่​ นางสาวแพทองธาร​ ชินวัตร​ นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม​ กล่าวถึงกรณีกัมพูชาละเมิดข้อตกลง​หยุดยิง ว่า​ เมื่อสักครู่​ ได้อัปเดตกับทางทีมงาน​ มีการพูดคุยกันว่า​ ถ้าเป็นแบบนี้​ ก็ต้องมีการแจ้งให้ประเทศที่เข้ามาเป็นพยานได้ทราบด้วย​ ว่า​ เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น​ แต่ไม่แปลกใจกับความไม่เป็นสุภาพบุรุษอยู่แล้ว​ เมื่อถามว่ารัฐบาลจะต้องมีการออกแถลงการณ์อีกครั้งหรือไม่​ หลังจากกัมพูชาไม่หยุดยิง นางสาวแพทองธาร กล่าวว่า เดี๋ยวอันนั้นจะสอบถามนายภูมิธรรม​ เวช​ย​ชัย​ รอง​นายก​รัฐมนตรี​และ​รัฐมนตรี​ว่าการ​กระทรวง​มหาดไทย​ ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี​.-315 -สำนักข่าวไทย

กองทัพไทยย้ำ! ใช้สิทธิป้องกันตนเองตามกฎหมายสากล

29 ก.ค.- กองทัพไทยย้ำ! ใช้สิทธิป้องกันตนเองตามกฎหมายสากล เพื่อปกป้องอธิปไตยของชาติและประชาชน หลังกัมพูชาจงใจละเมิดข้อตกลงหยุดยิง ทำลายความเชื่อมั่นในฐานะประเทศเพื่อนบ้าน ตามที่รัฐบาลไทยและรัฐบาลกัมพูชาได้ตกลงร่วมกันในการยุติการสู้รบทางทหารบริเวณแนวชายแดน โดยมีผลตั้งแต่เวลา 24.00 น. ของวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 เพื่อเปิดทางสู่สันติภาพและความร่วมมือระหว่างประเทศเพื่อนบ้านนั้น วันที่ 29 กรกฎาคม 2568 พลตรี วิทัย ลายถมยา โฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย ระบุกองทัพไทย ได้รับการยืนยันว่า ฝ่ายไทยได้ปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด หยุดยิงทุกพื้นที่ทันทีที่ถึงกำหนดเวลา โดยยึดมั่นในคำมั่นสัญญาที่รัฐบาลทั้งสองฝ่ายได้ร่วมกันให้ไว้ อย่างไรก็ตาม ในช่วงเวลาหลังจากกำหนดหยุดยิง ฝ่ายกัมพูชายังคงใช้อาวุธยิงเข้ามาในเขตแดนของประเทศไทยอย่างต่อเนื่องในหลายจุด ถือเป็นการกระทำที่ จงใจละเมิดข้อตกลง และบ่อนทำลายความเชื่อมั่น ที่ควรมีต่อกันในฐานะประเทศเพื่อนบ้าน กองทัพไทย ขอประณามพฤติกรรมดังกล่าวของฝ่ายกัมพูชา และขอยืนยันว่า ประเทศไทยมีความจำเป็นต้องใช้มาตรการโต้กลับ ภายใต้สิทธิในการป้องกันตนเองตามหลักกฎหมายระหว่างประเทศ ทั้งนี้ ไทยมิได้ใช้กำลังเพื่อรุกราน แต่เพื่อปกป้องอธิปไตยของชาติ และความปลอดภัยของประชาชน “เมื่อเราหยุด แต่เขาไม่หยุด…โลกต้องได้รับรู้ว่า กัมพูชาคือผู้ละเมิดข้อตกลงอย่างต่อเนื่อง และเป็นฝ่ายที่ไม่เคารพกติกาสากล ไม่ยึดถือข้อตกลงระหว่างประเทศใด ๆ ที่ได้ประกาศไว้ในเวทีระดับโลก และเป็นภัยต่อความมั่นคงของภูมิภาคและของโลก” การยอมรับพฤติกรรมเช่นนี้ เท่ากับเปิดช่องให้ความอยุติธรรมกลายเป็นบรรทัดฐานในระบบระหว่างประเทศ […]

ทบ. ประณาม “กัมพูชา” ละเมิดข้อตกลงหยุดยิง

29 ก.ค.- ทบ. ประณาม “กัมพูชา”ละเมิดข้อตกลงหยุดยิง ขณะที่ไทยยึดมั่นพันธกรณีฯ อย่างเคร่งครัด แต่จำเป็นต้องปกป้องตัวเองตอบโต้อย่างเหมาะสม ขยับเวลาถกผู้นำหน่วยทหารในพื้นที่เป็น 10 โมงเช้า วันที่ 29 กค.68 เวลา 7.30 น. พลตรีวินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวถึงกรณีการละเมิดข้อตกลงหยุดยิงของฝ่ายกัมพูชาว่าตามที่รัฐบาลไทยและรัฐบาลกัมพูชาได้บรรลุข้อตกลงร่วมกันในการยุติการสู้รบทางทหารบริเวณแนวชายแดน โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่เวลา 24.00 น. ของวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 เพื่อเปิดโอกาสให้เกิดบรรยากาศแห่งความสงบ ลดความตึงเครียด และส่งเสริมความร่วมมือระหว่างประเทศเพื่อนบ้านนั้น กองทัพบกขอเรียนว่า ฝ่ายไทยได้ปฏิบัติตามข้อตกลงดังกล่าวอย่างเคร่งครัด โดยได้ทำการหยุดยิง บริเวณพื้นที่แนวชายแดน ไทย-กัมพูชา ทันทีที่ถึงกำหนดเวลา ด้วยความตั้งใจจริง และยึดมั่นต่อพันธกรณีที่ได้ตกลงร่วมกันของรัฐบาลทั้งสองประเทศ แต่เป็นที่น่าเสียดายอย่างยิ่งเมื่อถึง กำหนดเวลาดังกล่าว ฝ่ายไทยยังคงตรวจพบว่าฝ่ายกัมพูชาได้มีการใช้อาวุธโจมตีเข้ามาในเขตแดนของประเทศไทยอยู่หลายจุด ซึ่งถือเป็นการละเมิดข้อตกลงอย่างจงใจ เจตนาทำลายระบบความไว้เนื้อเชื่อใจระหว่างกัน กองทัพบกจึงขอประณามต่อการกระทำดังกล่าว ฝ่ายไทยจำเป็นจะต้องใช้มาตราการโต้กลับอย่างเหมาะสม ภายใต้สิทธิอันชอบธรรมในการป้องกันตนเอง ยืนยันฝ่ายไทยไม่ได้ใช้กำลังทหารเพื่อรุกราน แต่เพื่อป้องกันการรุกล้ำและรักษาอธิปไตยของชาติ ภายใต้กฎกติกาสากล พลตรีวินธัย ยังระบุว่า เบื้องต้น การพบปะผู้นำหน่วยทหารในพื้นที่ มีการขยับเวลา […]