กรุงเทพฯ 16 มิ.ย.-ตลาดหุ้นไทยภาคเช้าเปิดบวกกว่า 10 จุดทะลุ 1,600 จุด ฟิ้นตัวหลัง เช่นเดียวกับตลาดต่างประเทศหลังธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ดอกเบี้ย 0.75% ตามคาดโบรกเกอร์ติงเศรษฐกิจไทยยังไม่แข็งแรง ไม่ใช่เวลาเหมาะสมที่จะเก็บภาษีหุ้น
ตลาดหุ้นไทย เปิดตลาดเช้านี้(16 มิ.ย.) .ดัชนี SET มาอยู่ที่ 1,605.27 จุด เพิ่มขึ้น 11.73% (+0.74%) แต่ เมื่อเวลา10.49 น. ดัชนีย่อตัว มาอยู่ที่ 1,598.34 จุด เพิ่มขึ้น 4.80 จุด (+0.30%)
นายกรภัทร วรเชษฐ์ ผอ.ฝ่ายวิจัยและบริการการลงทุน บล.โนมูระ พัฒนสิน กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทย ฟื้นตัว ตามตลาดต่างประเทศหลังรับทราบผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สร้างความชัดเจนต่อทิศทางอัตราดอกเบี้ย ที่ปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.75% ตามคาด ทำให้ตลาดมั่นใจว่าแนวทางการดำเนินนโยบายการเงินของเฟดต้องการสกัดเงินเฟ้อ ทำให้เงินทุนไหลเข้าสินทรัพย์เสี่ยงหลังราคาหุ้นปรับฐานลงไปพอสมควร
ในขณะที่ เฟดส่งสัญญาณเศรษฐกิจยังขยายตัว ไม่ได้ถึงขั้นถดถอยแต่อย่างใด โดยส่วนตัวคาดว่า อัตราดอกเบี้ยเฟดจะขึ้นไปถึงระดับ ปี 3.375%สิ้นปีนี้และ ปีหน้าคาดขึ้นไปถึง 3.75% โดยภาพรวมแล้วเฟดไม่ได้เร่งขึ้นดอกเบี้ยจนกระทบหนัก แต่เป็นการ ยืดหยุ่นในการใช้นโยบายการเงินดูแลเงินเฟ้อให้ได้ จึงทำให้ตลาดพึงพอใจกับท่าทีนี้
ส่วนที่มีข่าวว่ากระทรวงการคลังจะเรียกเก็บภาษีการขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ฯ โดยจะจัดเก็บภาษีธุรกิจเฉพาะ0.1% ของมูลค่าขายตั้งแต่บาทแรก นายกรภัทร กล่าวว่าหากดูการวิเคราะห์ของไอเอ็มเอฟ ที่เคยประเมินว่า การขึ้นภาษีของสหรัฐรูปแบบเช่นนี้ก็จะกระทบต่อตลาดหุ้นสหรัฐเช่นกัน ซึ่งหากนำมาเปรียบเทียบในไทย แน่นอนว่าเป็นปัจจัยกดดันตลาด มูลค่าการซื้อหุ้นจะเบาบาง และส่งผลต่อต้นทุนธุรกรรมโดยรวม ซึ่งหากทางการไทยจะเก็บภาษีก็ควร น่าจะรอเศรษฐกิจไทย ฟื้นตัวที่แข็งแรงขึ้นก่อน และควรจะประกาศไทมไลน์ที่ชัดเจนล่วงหน้า เพื่อให้ตลาดทุน ผู้ประกอบการ รวมทั้งนักลงทุนมีการเตรียมตัวล่วงหน้า
ทั้งนี้ คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) แถลง 15 มิ.ย. มีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น 0.75% สู่ระดับ 1.50-1.75% ตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้ ซึ่งเป็นการปรับขึ้นดอกเบี้ยครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 28 ปี หรือนับตั้งแต่ปี 2537
นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด แถลงว่า เฟดอาจจะปรับขึ้นดอกเบี้ยอีก 0.50% หรือ0.75% ในการประชุมเดือนก.ค.ซึ่งมองว่าเป็นการปรับขึ้นในระดับที่เหมาะสม ในการประชุมครั้งนี้ เฟดเปิดเผยการคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยนโยบาย (Dot Plot) โดยระบุว่าเจ้าหน้าที่เฟดคาดการณ์ว่า อัตราดอกเบี้ยจะแตะระดับ 3.4% ในช่วงสิ้นปีนี้ ซึ่งบ่งชี้ว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 1.75% ภายในปีนี้และคาดว่าอัตราดอกเบี้ยจะปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 3.8% ในสิ้นปี 2566 และชะลอตัวสู่ระดับ 3.4% ในปี 2567 ขณะที่อัตราดอกเบี้ยระยะยาวอยู่ที่ 2.5%
แถลงการณ์ของเฟดยังระบุว่า เฟดจะลดขนาดงบดุล (Quantitative Tightening : QT) ในวงเงิน 4.75 หมื่นล้านดอลลาร์/เดือน หลังจากที่ได้เริ่มดำเนินการเมื่อวันที่ 1 มิ.ย. และนับตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย. เฟดจะเพิ่มวงเงินในการลดขนาดงบดุลเป็น 2 เท่า สู่ระดับ 9.5 หมื่นล้านดอลลาร์/เดือน และเฟดได้ปรับลดตัวเลขคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐในปีนี้ สู่ระดับ 1.7% จากเดิมคาดการณ์ 2.8% และคาดว่าจะขยายตัว 1.7% ในปี 2566 เฟดคาดว่าเงินเฟ้อจะพุ่งแตะระดับ 5.2% ในสิ้นปีนี้ จากเดิมคาดการณ์ที่ระดับ 4.3% และจะชะลอตัวสู่ระดับ 2.6% และ 2.2% ในปี 2566 และ 2567 ตามลำดับ.-สำนักข่าวไทย