เริ่มวันนี้ ปิดอ่าวไทยรูปตัว ก ฟื้นฟูสัตว์น้ำฤดูมีไข่

กรุงเทพฯ 15 มิ.ย.-กรมประมงปิดอ่าวไทยรูปตัว ก พื้นที่ 8 จังหวัด ระหว่างวันที่ 15 มิ.ย.-30 ก.ย.65 เพื่อฟื้นฟูสัตว์น้ำฤดูมีไข่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งอนุรักษ์ลูกปลาทูเกิดใหม่ ให้เติบโตจนกลายเป็นพ่อแม่พันธุ์ พร้อมขอความร่วมมือชาวประมงปฏิบัติตามกฎหมายเคร่งครัด

นายเฉลิมชัย สุวรรณรักษ์ อธิบดีกรมประมงกล่าวว่า กรมประมงประกาศใช้มาตรการบริหารจัดการทรัพยากรในช่วงสัตว์น้ำมีไข่ วางไข่ และเลี้ยงตัวอ่อนในทะเลอ่าวไทยตอนใน (อ่าวไทยรูปตัว ก) ประจำปี 2565 ช่วงที่ 1 ตั้งแต่วันที่ 15 มิถุนายน – 15 สิงหาคม  และช่วงที่ 2 ตั้งแต่วันที่      1 สิงหาคม – 30 กันยายน ครอบคลุมพื้นที่ 8 จังหวัด ดังนี้


• ช่วงที่ 1 ตั้งแต่วันที่ 15 มิถุนายน – 15 สิงหาคม 2565 ในพื้นที่จับสัตว์น้ำอ่าวไทยตอนใน ฝั่งตะวันตก บางส่วนของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เพชรบุรี สมุทรสงคราม และสมุทรสาคร โดยเริ่มจากอำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์และสิ้นสุดที่อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสาคร ครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 2,350 ตารางกิโลเมตร

• ช่วงที่ 2  ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม – 30 กันยายน 2565 ในพื้นที่จับสัตว์น้ำอ่าวไทยตอนใน ด้านเหนือบางส่วนของจังหวัดสมุทรสาคร กรุงเทพมหานคร สมุทรปราการ ฉะเชิงเทรา และชลบุรี โดยเริ่มจากอำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสาครและสิ้นสุดที่อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี ครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 1,650 ตารางกิโลเมตร


ทั้งนี้ อนุญาตให้ใช้เฉพาะเครื่องมือประมงบางชนิด ดังนี้

          1. อวนลากแผ่นตะเฆ่ที่ใช้ประกอบกับเรือกลลำเดียว ขนาดต่ำกว่า 20 ตันกรอส ให้สามารถทำการประมงได้เฉพาะในเวลากลางคืนและบริเวณนอกเขตทะเลชายฝั่ง

          2. อวนติดตาปลาที่ใช้ประกอบเรือกล ขนาดต่ำกว่า 10 ตันกรอส และมีขนาดช่องตาอวนตั้งแต่ 5 เซนติเมตรขึ้นไป ความยาวอวนไม่เกิน 2,000 เมตร ต่อเรือประมง 1 ลำ ทั้งนี้ ห้ามทำการประมงโดยวิธีล้อมติด หรือวิธีอื่นใดที่คล้ายคลึงกัน


          3. อวนติดตาชนิด อวนปู อวนกุ้ง อวนหมึก

          4. อวนครอบ อวนช้อน หรืออวนยกหมึก ที่ใช้ประกอบกับเครื่องกำเนิดไฟฟ้า (เครื่องปั่นไฟ) ให้ทำการประมงนอกเขตทะเลชายฝั่ง

          5. ลอบปูที่มีขนาดตาอวนโดยรอบตั้งแต่ 2.5 นิ้วขึ้นไป และใช้ทำการประมงไม่เกิน 300 ลูก ต่อเรือประมง 1 ลำให้ทำการประมงในเขตทะเลชายฝั่งได้

          6. ลอบปูที่มีขนาดช่องตาท้องลอบ ตั้งแต่ 2.5 นิ้วขึ้นไป  ให้ทำการประมงนอกเขตทะเลชายฝั่ง

          7. เครื่องมือลอบหมึกทุกชนิด

          8. ซั้งทุกชนิดที่ใช้ประกอบการทำประมงพื้นบ้านในเขตทะเลชายฝั่ง

          9. เครื่องมือคราดหอย โดยต้องปฏิบัติตามประกาศกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ฯที่เกี่ยวข้องกับการกำหนดเครื่องมือทำการประมง รูปแบบและพื้นที่ทำการประมงของเครื่องมือประมงคราดหอยที่ห้ามใช้ทำการประมงในที่จับสัตว์น้ำร่วมด้วย 

          10. เครื่องมืออวนรุนเคย โดยต้องปฏิบัติตามประกาศกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ฯ ที่เกี่ยวข้องกับการกำหนดเงื่อนไข เกี่ยวกับกรูปแบบของอวน ขนาดของเรือ วิธีที่ใช้ บริเวณพื้นที่ และระยะเวลาในการทำการประมงที่ผู้ทำการประมงด้วยเครื่องมืออวนรุนเคยที่ใช้ประกอบเรือยนต์ทำการประมงต้องปฏิบัติร่วมด้วย

          11. จั่น ยอ แร้ว สวิง แห เบ็ด สับปะนก ขอ ลอบ ฉมวก

          12. เครื่องมืออื่นใดที่ไม่ใช้ประกอบเรือกลขณะทำการประมง

          13. เรือประมงที่มีขนาดต่ำกว่า 10 ตันกรอส ที่ใช้เครื่องยนต์มีกำลังแรงม้าไม่ถึง 280 แรงม้า ประกอบกับ

– เครื่องมือประมงที่ไม่ใช่เครื่องมือประมงพาณิชย์ตามประเภทที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ประกาศกำหนดให้เป็นประมงพาณิชย์ 

– เครื่องมือประมงที่ไม่ใช่เครื่องมือทำการประมงประเภทอวนครอบ อวนช้อน หรืออวนยกปลากะตักที่ใช้ประกอบเครื่องกำเนิดไฟฟ้า (เครื่องปั่นไฟ) 

– เครื่องมือประมงที่ไม่ใช่เครื่องมือทำการประมงที่ห้ามตามประกาศกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ฯ ที่ออกตามมาตรา71 (1) แห่งพระราชกำหนดการประมง พ.ศ.2558 และที่แก้ไขเพิ่มเติม

สำหรับการใช้เครื่องมือในข้อ 2 3 4 5 6 และ 7 จะต้องปฏิบัติตามประกาศกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ที่ออกตามมาตรา 71 (1) และเครื่องมือที่ใช้ทำการประมงต้องไม่ใช่เครื่องมือที่กำหนดห้ามใช้ทำการประมงตามมาตรา 67 มาตรา 69 หรือ มาตรา 71 (1) แห่งพระราชกำหนดการประมง พ.ศ. 2558 และที่แก้ไขเพิ่มเติม  

ส่วนบทลงโทษผู้ฝ่าฝืน ต้องระวางโทษ ปรับตั้งแต่ห้าพันบาทถึงสามสิบล้านบาท ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับขนาดของเรือประมงหรือปรับจำนวนห้าเท่าของมูลค่าสัตว์น้ำที่ได้จากการทำการประมง แล้วแต่จำนวนใดจะสูงกว่า และต้องได้รับโทษทางปกครองอีกด้วย

อธิบดีกรมประมงกล่าวต่อว่า การปิดอ่าวส่งให้ผลการจับปลาเศรษฐกิจโดยรวมปรับตัวสูงขึ้นจากการเพิ่มของกลุ่มปลาผิวน้ำเช่น ปลาสีกุนเขียว ปลาหลังเขียว และปลาตะเพียนน้ำเค็ม สำหรับลูกปลาที่ทูเกิดมาใหม่ในพื้นที่อ่าวไทยตอนกลาง (ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร และสุราษฎร์ธานี) เริ่มเดินทางเข้าหาฝั่ง กรมประมงจึงประกาศปิดต่อเนื่องบริเวณเขตชายฝั่งทะเลของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร และสุราษฎร์ธานีในช่วงเดือนพฤษภาคม – มิถุนายนเพื่ออนุรักษ์ลูกปลาทูที่เกิดใหม่ รวมทั้งประกาศปิดเขตต่อเนื่องบริเวณปลายแหลมเขาม่องไล่ถึงอำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์เพื่อรักษาปลาทูสาวให้หากินและเลี้ยงตัว จนมีขนาดประมาณ 11-12 ซม. หลังจากนั้นจะเริ่มเคลื่อนตัวเข้าสู่พื้นที่อ่าวไทยตอนใน (อ่าวไทยรูปตัว ก) ฝั่งตะวันตกในช่วงเดือนมิถุนายน – กรกฎาคม โดยในช่วงเวลาดังกล่าวจะพบปลาทูที่มีขนาดประมาณ 14-15 ซม. ซึ่งเรียกว่า ปลาทูสาว และอยู่หากินในพื้นที่ โดยค่อยๆ เพิ่มจำนวนมากขึ้นเป็นลำดับและเริ่มเคลื่อนเข้าสู่ก้นอ่าว หรือพื้นที่ปิดฝั่งเหนือช่วงเดือนสิงหาคม-กันยายน ในช่วงเวลาดังกล่าวพบปลาทูมีขนาด ประมาณ 16-17 ซม. ซึ่งเป็นขนาดพ่อแม่พันธุ์ เริ่มมีไข่ ปลาทูกลุ่มนี้จะเลี้ยงตัวอยู่ในบริเวณอ่าวไทยตอนในจนปลายปี เมื่อมีความพร้อมที่จะวางไข่ ปลาทูกลุ่มนี้จึงเริ่มอพยพเคลื่อนตัวลงสู่แหล่งวางไข่ในอ่าวไทยตอนกลางอีกครั้ง 

สำหรับผลจับปลาทูจากเครื่องมือประมงพาณิชย์เฉพาะในพื้นที่อ่าวไทยตอนในพบว่า ปี 2564 มีปริมาณการจับเท่ากับ3,849 ตัน เพิ่มขึ้นมากกว่าปี 2563 ถึง 2,159 ตัน (ปี 2563 ที่มีผลจับปลาทู 1,690 ตัน) ซึ่งเป็นผลจากการกำหนดมาตรการ ดังนั้น การดำเนินตามมาตรการจึงต้องมีต่อไป เพื่อคุ้มครองสัตว์น้ำมิให้ถูกจับก่อนที่จะมีโอกาสได้ผสมพันธุ์และวางไข่ หรือถูกจับก่อนวัยอันควร ซึ่งเป็นการสร้างการเติบโตทางเศรษฐกิจบนฐานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมให้สมดุลภายในขีดความสามารถของระบบนิเวศ และจะเป็นหนทางในการนำปลาทูกลับฟื้นคืนความสมบูรณ์.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ออกหมายจับ 5 คนแก๊ง “เสือปุ่น” ปล้นเงินสด 3.4 ล้าน

กทม. 1 ก.ค.-ออกหมายจับ 5 คนแก๊ง “เสือปุ่น” ปล้นเงินสด 3.4 ล้านตุ๋นแลกคริปโตฯ ชุดสืบปูพรมล่า จากกรณีกลุ่มคนร้าย 7 คน ก่อเหตุปล้นทรัพย์ เงินสด 3.4 ล้านบาท โดยใช้อาวุธมีดจี้ ข่มขู่ผู้เสียหาย 3 คน ที่มาซื้อเงินคริปโตเคอร์เรนซี่ สกุลเวิน USDT จำนวน 100,000 ดอลล่า ภายในลานจอดรถศูนย์การค้าชื่อดังย่านลาดพร้าว แขวงและเขตจตุจักร กทม. เมื่อช่วงเวลา 19.30 น. ของวานนี้ (30 มิ.ย.) ภายหลัง พล.ท.สยาม บุญสม ผบช.น. และ พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. นำชุดสืบสวนเร่งรัดติดตามตัว จนสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 2 ราย คือ นายเฌอพัชญ์ หรือหนาว อายุ 25 ปี […]

“ทักษิณ” พร้อมลูกสาว เดินทางออกจากศาลอาญา หลังสืบพยานนัดแรก

1 ก.ค. – บรรยากาศที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ภายหลังนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางเข้าสืบพยานโจทก์นัดแรกในคดีหมายเลขดำ อ.1860/2567 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 8 เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายทักษิณ เป็นจำเลยในความผิด ฐานดูหมิ่นสถาบันฯ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ม.112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ เมื่อเวลา 12.10 น. นายทักษิณ พร้อมด้วย น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ หรือเอม ได้เดินทางกลับโดยใช้ประตูด้านข้างของศาลอาญา ก่อนขึ้นรถออกไป โดยเลี้ยวออกไปทางประตูของศาลแพ่ง และเลี้ยวออกถนนพหลโยธินโดยทันที โดยมีกลุ่มมวลชนสวมเสื้อสีแดงยืนคอยให้กำลังใจอยู่บริเวณริมฟุตบาธบริเวณประตูทางออกอยู่จำนวนหนึ่ง ทั้งนี้มีนางเพญ พินิจอักษร ชาวจังหวัดศรีสะเกษ ถือรูปนายทักษิณ โดยมีการเขียนข้อความในภาพว่าขอส่งกำลังใจให้นายกฯในดวงใจ พร้อมถือพวงมาลัยดอกมะลิพวงใหญ่ และมีกลุ่มมวลชนสวมเสื้อสีแดงกลุ่ม 50 เขตแดน กทม. มาให้กำลังใจด้วยเช่นเดียวกัน จากนั้น นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความส่วนตัว นายทักษิณ ได้เดินมาทำความเข้าใจกับสื่อมวลชนหลังจากที่ศาลอาญาได้มีการพักการสืบพยาน ว่า ขอให้สื่อมวลชนใช้วิจารณญาณว่าจะอยู่หรือไม่อยู่ เพราะศาลใช้การพิจารณาลับ ทั้งนี้ไม่สามารถพูดอะไรในกระบวนการได้ จะพูดได้แค่มีพยานกี่ปาก […]

ธปท.เผย “คุณสู้ เราช่วย” เฟส 2 มีลูกหนี้เข้าเกณฑ์ 1.8 ล้านราย

กรุงเทพฯ 1 ก.ค. – ธปท.เผย “คุณสู้ เราช่วย” เฟส 2 เพิ่ม “จ่าย ตัด ต้น” พร้อมขยายขอบเขต 2 มาตรการเดิม “จ่ายตรง คงทรัพย์” และ “จ่าย ปิด จบ” มีลูกหนี้เข้าเกณฑ์ 1.8 ล้านราย ยอดนี้ประมาณ 3.1 แสนล้านบาท นางสาวสุวรรณี เจษฎาศักดิ์ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผย ว่า ภายใต้เศรษฐกิจที่มีความไม่แน่นอนสูง ยังมีลูกหนี้กลุ่มเปราะบางจำนวนมากที่มีปัญหาในการชำระหนี้ และพบว่าลูกหนี้ยังให้ความสนใจเข้าร่วมโครงการอย่างต่อเนื่อง แต่บางส่วนไม่สามารถเข้าร่วมได้เนื่องจากคุณสมบัติไม่เป็นไปตามเงื่อนไขที่กำหนด กระทรวงการคลัง สศช. ธปท. ธนาคารพาณิชย์ สถาบันการเงินเฉพาะกิจ รวมถึงผู้ประกอบธุรกิจ non-bank ที่เป็นบริษัทในกลุ่มธุรกิจทางการเงินของธนาคารพาณิชย์ เห็นควรขยายระยะเวลาลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการคุณสู้เราช่วยเฟส 1 (เดิมสิ้นสุด 30 มิ.ย.68) และให้ความช่วยเหลือเพิ่มเติม ภายใต้โครงการ […]

“บิ๊กเต่า” เร่งสอบบัญชีวัดดัง พบเส้นเงินไหลเข้าสีกาคนสนิทหลายครั้ง

กรุงเทพฯ 1 ก.ค. – “บิ๊กเต่า” เร่งสอบ 5 บัญชี เงินวัดตรีฯ-ทิดอาชว์ พบมีเส้นเงินไหลเข้าสีกาคนสนิทหลักหมื่นถึงหลักแสนบาทหลายครั้ง ส่วนคลิปลับแชทหลุดเป็นหน้าที่สำนักพุทธฯ ตรวจสอบ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เรียกประชุมตำรวจ บก.ปปป. และเจ้าหน้าที่ ป.ป.ท. เพื่อติดตามความคืบหน้าการตรวจสอบบัญชีรายรับรายจ่ายของวัดตรีทศเทพวรวิหาร หลังพบพิรุธพระเทพวชิรปาโมกข์ (อาชว์ อาชฺชวปเสฏฺโฐ) หรือ “เจ้าคุณอาชว์” ได้ลาสิกขาหรือสึก ที่ จ.หนองคาย อย่างกะทันหัน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ เปิดเผยภายหลังการประชุมว่า จากการเข้าตรวจสอบบัญชีรายรับรายจ่ายที่วัดตรีทศเทพเมื่อวานนี้ ยังไม่เป็นที่น่าพอใจ ทางวัดให้เอกสารทางบัญชีมาบางส่วน พระหลายรูปกังวลหวาดกลัวจึงไม่ค่อยให้ความร่วมมือเท่าที่ควร แต่ตำรวจได้ประสานรักษาการเจ้าอาวาสวัด เพื่อให้แต่งตั้งไวยาวัจกรใหม่ ซึ่งเชื่อว่าหลังจากนี้จะได้รับความร่วมมือมากขึ้น โดยตำรวจได้ประสานขอรายการเดินบัญชีธนาคารของวัด 5 บัญชี เป็นบัญชีที่เกี่ยวกับเงินกฐิน ค่าเช่าที่จอดรถ ฌาปนกิจศพ ค่าน้ำค่าไฟ และภาพวาดโบราณ และบัญชีที่ต้องสงสัยอีกจำนวนหนึ่ง มาตรวจสอบทั้งหมด รวมถึงบัญชีส่วนตัวของทิดอาชว์ เบื้องต้นตำรวจมีข้อมูลน่าเชื่อได้ว่า ตำแหน่งเจ้าอาวาสไม่ได้มีเงินเยอะ แต่ตำรวจเห็นหลักฐานการโอนเงินบางส่วนไปยังสีกาหญิงหลายรายการ ยอดเงินตั้งแต่หลักหมื่นถึงหลักแสนบาท ซึ่งอาจเป็นเงินของวัด หรืออาจใช้ให้คนอื่นไปโอน […]

ข่าวแนะนำ

กู้ร่างครบแล้ว เหตุไฟไหม้โรงงานทิชชู เสียชีวิต 10 ราย

สระบุรี 2 ก.ค. – เหตุไฟไหม้โรงงานกระดาษทิชชู ในนิคมเหมราช จ.สระบุรี ล่าสุดพบร่างที่ 10 ซึ่งเป็นร่างสุดท้าย ถือว่าภารกิจการค้นหาสิ้นสุดแล้ว ปฏิบัติการค้นหาร่างผู้สูญหายกว่า 50 ชั่วโมง ยุติลงแล้ว หลังเกิดเพลิงไหม้อาคารบริษัทผลิตกระดาษทิชชู ตั้งอยู่ในเขตนิคมอุตสาหกรรม ดับบลิว เอช เอ ซอย 8 อำเภอหนองแค จังหวัดสระบุรี ช่วงเที่ยงวันจันทร์ที่ 30 มิถุนายน 2568 ที่ผ่านมา ทีมกู้ชีพ กู้ภัยร่วมกตัญญู กู้ภัยสว่างรัตนตรัย และกู้ภัยป่อเต็กตึ๊ง ร่วมกับฝ่ายปกครอง และชุดค้นหาเร่งระดมสรรพกำลัง ปูพรมค้นหาร่างผู้สูญหาย 10 คน นำโดยนายสันทัศน์ รันดาเว นายอำเภอหนองแค ลงพื้นที่เกาะติดการค้นหาผู้สูญหาย ช่วง 10.30 น. มีรายงานจากทีมค้นหามูลนิธิร่วมกตัญญู แจ้งว่า ที่ชั้นบนของอาคารเกิดเหตุ พบร่างผู้สูญหายอีก 1 ร่าง อยู่ในสภาพเหลือแต่กระดูกบริเวณชั้นที่ 2 ฝั่งตะวันตกของโรงงาน ถือเป็นผู้เสียชีวิตจากเหตุเพลิงไหม้รายที่ […]

เร่งคลี่คลายคดีโจรฉกเงิน-ทองคำ วัดม่วง

กทม. 2 ก.ค. – ตำรวจเร่งคลี่คลายคดีโจรวัดม่วง ลักเงินเจ้าอาวาส 10 ล้าน ทองคำ 250 บาท หายล่องหน ขณะที่อดีตพระคนสนิท เผยประตูกุฏิล็อกถึง 5 ชั้น เชื่อฝีมือคนใน พร้อมเรียกร้องตรวจสอบเงินบริจาควัด ความคืบหน้า เหตุคนร้ายย่องลักทรัพย์ เงิน 10 ล้าน-ทองคำหนัก 250 บาท ภายในกุฏิเจ้าอาวาส วัดม่วง ซอยเพชรเกษม 63 ถนนเพชรเกษม แขวงหลักสอง เขตบางแค วันนี้ชุดสืบสวนของ บก.ปปป. ร่วมกับชุดคลี่คลายคดีของ สน.เพชรเกษม เดินทางไปที่วัดม่วงเพื่อตรวจหาหลักฐานเพิ่มเติม แต่เมื่อเดินทางไปที่กุฎิเจ้าอาวาส ปรากฏว่า กุฏิปิดเงียบล็อกกุญแจจากด้านหน้า ไร้เงาเจ้าอาวาส เจ้าหน้าที่ ปปป. จึงพยายามโทรไปหาเจ้าอาวาสแต่ไม่สามารถติดต่อได้ ขณะที่อดีตพระคนสนิทเจ้าอาวาสวัดม่วง เปิดเผยว่า หลังปรากฏข่าว เจ้าอาวาสได้ส่งตัวแทนเข้าแจ้งความว่าเงินและทองคำภายในกุฏิหาย ส่วนตัวตั้งข้อสังเกตว่ากุฏิดังกล่าวไม่มีรอยงัดแงะ และการจะเข้าไปภายในต้องผ่านประตูซึ่งล็อกถึง 5 ชั้น แทบไม่มีความเป็นไปได้ที่บุคคลอื่นจะเข้าไปได้ มองว่าตู้เซฟที่เก็บทรัพย์สินไว้นั้นมีขนาดใหญ่ การจะนำทรัพย์สินภายในออกไปน่าจะทำได้ยาก […]

ออกหมายจับ “บังเอ็น” มือยิงพ่อ-ลูก 1 ขวบดับ เมียเจ็บ

กระบี่ 2 ก.ค. – ออกหมายจับ “บังเอ็น” ยิงถล่มยกครัวเพื่อนบ้านดับพร้อมลูกวัยแค่ 1 ขวบเศษ ส่วนภรรยาบาดเจ็บ คาดปมเหตุนกขุนทองหลุดกรง จากเหตุสะเทือนขวัญในพื้นที่ ต.เกาะลันตาน้อย อ.เกาะลันตา จ.กระบี่ นายวิวัฒน์ หรือ “บังเอ็น” อายุ 41 ปี ใช้ปืนยิงถล่ม บ้านนายอภิวัฒน์ อายุ 37 ปี ทำให้นายอภิวัฒน์ และลูกสาววัยเพียง 1 ขวบ เสียชีวิต ส่วน น.ส.สุดารัตน์ ภรรยาของนายอภิวัฒน์ บาดเจ็บที่แขนขวา ล่าสุด ตำรวจเชิญตัว น.ส.หย้า อายุ 70 ปี แม่ของนายวิวัฒน์ ผู้ก่อเหตุ เข้าสอบปากคำที่ สภ.เกาะลันตา ให้ข้อมูลว่า มูลเหตุของเรื่องมาจากนกขุนทอง 2 ตัว ที่ลูกชายซื้อมาในราคา 8,000 บาท ซึ่งตนเป็นคนเลี้ยงและให้อาหารมาประมาณ 2 เดือน […]

“หัวหน้าอิ๊งค์” เก็บตัวเงียบ ไม่เข้าประชุม สส.เพื่อไทย

พรรคเพื่อไทย 2 ก.ค.-“หัวหน้าอิ๊งค์” เก็บตัวเงียบ ไม่เข้าประชุม สส.เพื่อไทย ขณะที่ “ภูมิธรรม” เผยนายกฯ เข้มแข็ง เชื่อที่ผ่านมาทำดีสุดแล้ว พร้อมสู้ต่อ ฝากบอก สส. สู้ไปด้วยกัน ขอทุกคนจับมือฝ่าวิกฤติ ลั่นไม่กลัวอะไรทั้งสิ้น ด้าน “วิสุทธิ์” ย้ำ สส. ห้ามขาด ห้ามตาย ป่วยก็ให้อดทนกินยา ป้องกันองค์ประชุมล่ม การประชุม สส.พรรคเพื่อไทยวันนี้ (2 ก.ค.) มีนายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ประธาน สส.พรรคเพื่อไทยทำหน้าที่ประธานการประชุม และมีนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รักษาราชการนายกรัฐมนตรี นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และนายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ร่วมนั่งหัวโต๊ะด้วย ขณะที่นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรค เดิมทีแจ้งว่าจะเข้าร่วมประชุมด้วย แต่หลังจากศาลรัฐธรรมนูญสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรี ก็ได้ยกเลิกภารกิจทั้งหมด รวมถึงยกเลิกการเข้าร่วมประชุม สส. พรรคเพื่อไทยด้วย ด้านนายภูมิธรรม กล่าวในที่ประชุมว่า […]