กรุงเทพฯ 13 มิ.ย.-“สบน.-กรุงไทย” ปลื้มผู้ลงทุนแห่จองซื้อพันธบัตรออมทรัพย์รุ่น “ออมเพิ่มสุข” บนวอลเล็ต สบม. ในแอปฯ เป๋าตัง วงเงิน 10,000 ล้านบาท หมดภายใน 40 นาที ทั้ง 2 รุ่น คือ รุ่นอายุ 5 ปีและ 10 ปี ยอดล้นทะลักสูงกว่าคาดการณ์ และมากกว่าครั้งที่ผ่านมาถึง 4.5 เท่า ทำให้สะดุดไป 28 นาที ก่อนเร่งเพิ่มประสิทธิภาพระบบรองรับการซื้อโดยเร็ว ขายหมดภายใน 12 นาที ย้ำเดินหน้าพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการ หนุนประชาชนทุกกลุ่มเข้าถึงการออมผ่านดิจิทัลอย่างทั่วถึง เท่าเทียม โปร่งใส และยั่งยืน
นายรวินทร์ บุญญานุสาสน์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานธุรกิจตลาดเงินตลาดทุน ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่าธนาคารประสบความสำเร็จในการเปิดขายพันธบัตรออมทรัพย์ วอลเล็ต สบม. รุ่น “ออมเพิ่มสุข” ผ่านแอปพลิเคชันเป๋าตัง ประชาชนและนักลงทุนให้การตอบรับเข้าลงทุนอย่างท่วมท้น สามารถขายหมดเต็มวงเงิน 10,000 ล้านบาท ตั้งแต่วันแรกที่เปิดขาย ในวันที่ 13 มิถุนายน 2565 หมดภายในเวลา 40 นาที โดยเปิดขาย 2 รุ่น คือ รุ่นอายุ 5 ปี และ 10 ปี เริ่มเปิดขายตั้งแต่ 08.30 น. และจำหน่ายหมดในเวลา 09.10 น. โดยมีผู้ลงทุนตั้งแต่อายุ 15-92 ปี ทุกจังหวัดทั่วประเทศ แบ่งเป็นกรุงเทพฯ 44% และต่างจังหวัด 56% ตอกย้ำการเปิดโอกาสให้ประชาชนทุกกลุ่มเข้าถึงได้อย่างเท่าเทียม
“ธนาคารขอขอบคุณประชาชนและนักลงทุนทุกท่าน ที่ให้ความเชื่อมั่นและสนับสนุนพันธบัตรออมทรัพย์ วอลเล็ต สบม. ด้วยดีเสมอมา ทำให้การขายพันธบัตรออมทรัพย์ วอลเล็ต สบม. ครั้งที่ 6 รุ่นออมเพิ่มสุข ประสบความสำเร็จอีกครั้ง สะท้อนถึงความเชื่อมั่นในพันธบัตรรัฐบาลที่ตอบโจทย์การออม มีความเสี่ยงต่ำ ลงทุนได้ง่าย ผลตอบแทนสม่ำเสมอ รับดอกเบี้ยแบบขั้นบันไดเฉลี่ย 2.9% ต่อปี สำหรับรุ่นอายุ 5 ปี และอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3.6% ต่อปี สำหรับรุ่นอายุ 10 ปี จ่ายดอกเบี้ยทุก 3 เดือน นอกจากนี้ การลงทุนผ่านวอลเล็ต สบม. บนแอปฯ เป๋าตัง ช่วยให้ประชาชนทุกกลุ่มเข้าถึงการออมผ่านช่องทางดิจิทัลที่มีความสะดวก รวดเร็ว สามารถเป็นเจ้าของพันธบัตรได้ทันที ตลอด 24 ชั่วโมง 7 วัน สามารถทำรายการซื้อขายในตลาดรองเปลี่ยนเป็นเงินสดได้เลยทันที ทำรายการได้ง่ายจากทุกที่ เช็กยอดได้แบบเรียลไทม์ โดยธนาคารมุ่งมั่นพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการที่ตอบโจทย์ ช่วยให้ประชาชนทุกกลุ่มเข้าถึงการออมและการลงทุนผ่านช่องทางดิจิทัลได้อย่างทั่วถึง เท่าเทียม โปร่งใส ตอบโจทย์การออมอย่างยั่งยืน”
การเปิดขายพันธบัตรวอลเล็ต สบม. สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของความร่วมมือระหว่างสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) และธนาคารกรุงไทย ในการ “พลิกโฉมการลงทุน” และ “สร้างปรากฏการณ์ใหม่” ในการลงทุนพันธบัตรของรัฐบาล เปิดโอกาสให้ประชาชนทุกกลุ่มเข้าถึงได้ง่าย ด้วยเงินลงทุนขั้นต่ำเพียง 100 บาท จากเดิมที่การลงทุนพันธบัตรกระจุกตัวอยู่เฉพาะผู้ลงทุนรายใหญ่เท่านั้น ซื้อขายได้สะดวกและรวดเร็ว ผ่านแอปฯ เป๋าตัง ซึ่งเป็น “Thailand Open Digital Platform” ได้รับการพัฒนาโดย อินฟินิธัส บาย กรุงไทย (Infinitas by Krungthai) เปิดกว้างสำหรับผู้ใช้งานทุกกลุ่ม โดยไม่ต้องมีบัญชีเงินฝากของธนาคารกรุงไทย และเปิดกว้างร่วมมือกับพันธมิตรทุกกลุ่มเข้ามาร่วมพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้ออมเงินได้อย่างตรงจุด
โดยการเปิดขายพันธบัตรวอลเล็ต สบม. ทั้ง 5 ครั้งที่ผ่านมา ได้รับการตอบรับอย่างล้นหลาม ครั้งแรกทำสถิติขายหมด 200 ล้านบาท ภายในเวลา 99 วินาที ครั้งที่ 2 ขายเต็มวงเงิน 5,000 ล้านบาท ครั้งที่ 3 วงเงิน 5,000 ล้านบาท ขายหมดภายในเวลา 8 ชั่วโมง 8 นาที ครั้งที่ 4 วงเงิน 10,000 ล้านบาท ขายหมดภายในเวลา 2 ชั่วโมง 45 นาที ครั้งที่ 5 วงเงิน 10,000 ล้านบาท ขายหมดภายในเวลา 12 นาที ครั้งล่าสุด วงเงินรวม 10,000 ล้านบาท ขายหมดภายใน 40 นาที โดยครั้งนี้นักลงทุนสนใจซื้อเข้ามาพร้อมกันจำนวนมากตั้งแต่การเปิดขายในนาทีแรก ทำให้การซื้อสะดุดไปประมาณ 28 นาที เนื่องจากมีจำนวนนักลงทุนสนใจลงทุนสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ และมากกว่าครั้งที่ผ่านมาถึง 4.5 เท่า ซึ่งธนาคารได้รับทราบปัญหาและดำเนินการแก้ไขโดยการเพิ่มทรัพยากรและประสิทธิภาพของระบบ (capacity) ไปกว่า 5.5 เท่า จึงสามารถรองรับการซื้อได้ โดยสามารถปิดการขายได้ภายในเวลา 12 นาที
ทั้งนี้ ธนาคารขอขอบคุณผู้ลงทุนทุกท่าน ที่ให้ความสนใจซื้อพันธบัตรออมทรัพย์ วอลเล็ต สบม. และขออภัยสำหรับความไม่สะดวกในการซื้อครั้งนี้ พร้อมเดินหน้านำเทคโนโลยีมาพัฒนาบริการให้ตอบโจทย์ผู้ลงทุนให้ดีขึ้นในทุกวัน ความร่วมมือในครั้งนี้ยังเป็นการเน้นย้ำถึงพันธกิจหลักของธนาคารในการให้ความสำคัญกับการทำธุรกิจอย่างยั่งยืน ตอกย้ำถึงความเป็นผู้นำตลาดในการทำ Financial Solution เพื่อสนับสนุนและขับเคลื่อน ESG ให้เป็นรูปธรรม โดยพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลมายกระดับคุณภาพชีวิตของลูกค้าทุกกลุ่มให้ดียิ่งขึ้น พร้อมตอบโจทย์เป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน (SDGs) ในหลายด้าน ทั้งด้านการนำนวัตกรรมมาเพิ่มประสิทธิภาพ พัฒนายกระดับตลาดทุนไทย
ทั้งนี้ นำเสนอผลิตภัณฑ์บริการที่สนับสนุนการเติบโตของเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง ช่วยลดปัญหาสิ่งแวดล้อม เพราะเป็นผลิตภัณฑ์แบบ Scripless ไม่ต้องใช้เอกสาร ลดการเดินทางไปสาขา ทำรายการบนแอปฯ เป๋าตังได้ทันที ซึ่งเป็นช่องทางที่ประชาชนส่วนใหญ่คุ้นเคย มีผู้ใช้งานกว่า 34 ล้านคน ตอบโจทย์เรื่องการลดปัญหาความเหลื่อมล้ำ ช่วยให้ประชาชนทุกกลุ่มเข้าถึงการลงทุนพันธบัตรได้อย่างทั่วถึง เสมอภาค ด้วยเงินลงทุนขั้นต่ำเพียง 100 บาท ช่วยสนับสนุนให้ประชาชน โดยเฉพาะเยาวชนที่มีอายุตั้งแต่ 15 ปีขึ้นไป เริ่มวางแผนการออม เพื่อสร้างความยั่งยืนด้านการเงินในอนาคต เปิดโอกาสการเรียนรู้ทางด้านการเงิน ด้วยประสบการณ์จริง (Financial Literacy) ควบคู่กับการเรียนรู้การใช้เทคโนโลยีทางการเงิน (Digital Adoption) พร้อมมีระบบที่โปร่งใส ปลอดภัย สามารถตรวจสอบได้ทุกขั้นตอน เป็นการรองรับการทำธุรกรรมดิจิทัลที่มีการเติบโตอย่างก้าวกระโดด และได้รับการตอบรับอย่างดีจากทุกภาคส่วน เพราะทุกคนสามารถเข้าถึงได้อย่างทั่วถึง เท่าเทียม และยั่งยืน
อย่างไรก็ตาม ธนาคารยังได้ร่วมจําหน่ายพันธบัตรออมทรัพย์ รุ่น “ออมเพิ่มสุข” อีก 2 รุ่น อายุ 5 ปี และ 10 ปี วงเงินรวม 45,000 ล้านบาท เริ่มต้นลงทุนขั้นต่ำ 1,000 บาท จ่ายดอกเบี้ยทุก 3 เดือน เปิดจําหน่ายระหว่างวันที่ 15-19 มิถุนายน 2565 (จำกัดวงเงินซื้อสูงสุดไม่เกิน 10 ล้านบาท/คน) และระหว่างวันที่ 20-30 มิถุนายน 2565 (วงเงินจำหน่ายที่เหลือจากช่วงที่ 1 และไม่จำกัดวงเงินซื้อ) โดยเปิดขายให้นักลงทุนทั่วไป ทั้งรุ่นอายุ 5 ปี และ 10 ปี วงเงิน 40,000 ล้านบาท จ่ายอัตราดอกเบี้ยแบบขั้นบันได รุ่นอายุ 5 ปี ปีที่ 1-2 อัตราดอกเบี้ย 2.5% ต่อปี ปีที่ 3-4 อัตราดอกเบี้ย 3.0% ต่อปี และปีที่ 5 อัตราดอกเบี้ย 3.5% ต่อปี คิดเป็นอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 2.9% ต่อปี รุ่นอายุ 10 ปี ปีที่ 1-2 อัตราดอกเบี้ย 2.5% ต่อปี ปีที่ 3-6 อัตราดอกเบี้ย 3.5% ต่อปี ปีที่ 7-8 อัตราดอกเบี้ย 4.0% ต่อปี และปีที่ 9-10 อัตราดอกเบี้ย 4.5% ต่อปี คิดเป็นอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3.6% ต่อปี เปิดจำหน่ายผ่าน Krungthai NEXT และธนาคารกรุงไทยทุกสาขาทั่วประเทศ ส่วนวงเงินอีก 5,000 ล้านบาท เป็นรุ่นอายุ 10 ปี จ่ายดอกเบี้ยทุก 6 เดือน จําหน่ายให้กับสภากาชาดไทย มูลนิธิ สมาคม สหกรณ์ วัด สถานศึกษาของรัฐ โรงพยาบาลของรัฐ และองค์กรอื่นที่ไม่แสวงหากําไร จ่ายอัตราดอกเบี้ยแบบขั้นบันได ปีที่ 1-3 อัตราดอกเบี้ย 2.5% ต่อปี ปีที่ 4-8 อัตราดอกเบี้ย 3.5% ต่อปี และปีที่ 9-10 อัตราดอกเบี้ย 4.0% ต่อปี คิดเป็นอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3.3% ต่อปี.-สำนักข่าวไทย