fbpx

AIS–กรุงไทย ต่อยอดคนละครึ่งขยายผลความสำเร็จ “โครงการพอยท์เพย์”

กรุงเทพฯ 13 มิ.ย.-AIS – กรุงไทย ต่อยอดคนละครึ่ง เดินหน้าขยายผลความสำเร็จ “โครงการพอยท์เพย์” สนับสนุนร้านค้าทั่วไทย ขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานราก แบ่งเบาภาระคนไทยและลูกค้า AIS ใช้ เอไอเอส พอยท์ แลกรับส่วนลดเงินสดกับ “ร้านค้าถุงเงิน” กว่า 400,000 ร้านทั่วประเทศ


เศรษฐกิจฐานรากถือเป็นเส้นเลือดฝอยที่มีส่วนสำคัญต่อการขับเคลื่อนการเติบโตของประเทศในภาพใหญ่ โดยเฉพาะร้านค้ารายย่อย ร้านอาหารสตรีทฟู้ด รถเข็น ตลาดสด ล้วนเป็นฟันเฟืองสำคัญที่ก่อให้เกิดการหมุนเวียนของระบบโครงสร้างของเศรษฐกิจทั้งภาคครัวเรือน และภาคธุรกิจ ซึ่งสอดคล้องกับภารกิจการทำงานของ AIS และ ธนาคารกรุงไทย ที่มุ่งมั่นผสานจุดแข็งร่วมกันเดินหน้าแบ่งเบาภาระของคนไทย และสนับสนุนร้านค้าถุงเงินที่อยู่ในระบบของธนาคารกรุงไทย ผ่านโครงการ “พอยท์เพย์” หวังกระตุ้นการใช้จ่ายหลังจบโครงการคนละครึ่งของภาครัฐ โดยให้ลูกค้า AIS สามารถใช้คะแนน AIS Points แลกรับส่วนลดเงินสดกับร้านค้าถุงเงินกว่า 400,000 ร้านค้าทั่วประเทศ

นายปรัธนา ลีลพนัง หัวหน้าคณะผู้บริหารกลุ่มลูกค้าทั่วไป AIS กล่าวว่า “วันนี้สถานการณ์ภาพรวมของประเทศมีสภาวะการชะลอตัวของระบบเศรษฐกิจ ซึ่งเกิดจากแรงกดดันหลายปัจจัยทั้งในประเทศและต่างประเทศ เริ่มส่งผลกระทบโดยตรงต่อผู้ประกอบการ และกำลังซื้อของผู้บริโภค ดังนั้นภารกิจของ AIS ที่เดินหน้าทำควบคู่ไปกับการพัฒนาบริการดิจิทัลสำหรับคนไทยแล้ว เรายังให้ความสำคัญกับการสนับสนุนภาคธุรกิจรายย่อย รวมถึงการแบ่งเบาภาระของลูกค้าไปพร้อม ๆ กัน เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยพลิกฟื้นระบบเศรษฐกิจฐานราก ให้เกิดการหมุนเวียนของรายได้ ในฐานะฟันเฟืองเล็กที่ช่วยพยุงกำลังซื้อให้เดินหน้าต่อได้”


“จึงเป็นเหตุผลสำคัญในการทำงานร่วมกับธนาคารกรุงไทย ตั้งแต่ ปี 2564 ที่ผ่านมา กับการเปิดตัวโครงการพอยท์เพย์ ที่เชื่อมต่อให้ร้านค้าถุงเงินที่อยู่ในระบบของธนาคารกรุงไทย ซึ่งเป็นร้านค้ารายย่อย ร้านค้าริมทาง ร้านอาหารร้านค้าในตลาด ซึ่งมีมากกว่า 400,000 ร้าน มาเป็นแหล่งที่ลูกค้าเอไอเอส สามารถนำคะแนนสะสม AIS Points มาใช้ชำระค่าสินค้าได้ อันถือเป็นการสนับสนุนให้ทั้งร้านค้า และลูกค้าเอไอเอสไปพร้อม ๆ กัน ในแง่ของการลดภาระค่าใช้จ่ายประจำวัน โดยเฉพาะหมวดอาหาร อีกทั้งยังเป็นการกระตุ้นการจับจ่ายให้เกิดรายได้หมุนเวียนกับบรรดาร้านค้าถุงเงินทั่วประเทศ ทั้งนี้เชื่อว่า ด้วยความคุ้นชินของประชาชนในการใช้งานแอปพลิเคชันผ่านมือถือจะทำให้เกิดความสะดวก ปลอดภัย และเข้าถึงสิทธิพิเศษจากความร่วมมือนี้ได้เพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ แน่นอน”

นายธวัชชัย ชีวานนท์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ผู้บริการสายงาน สายงานบริหารจัดการทางการเงินเพื่อธุรกิจธนาคารกรุงไทย กล่าวว่า “โครงการพอยท์เพย์ เป็นความร่วมมือครั้งสำคัญ และการผสานจุดแข็งของ 2 องค์กรชั้นนำของประเทศ ที่มีเป้าหมายเดียวกันคือ การนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีมาพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการให้ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าอย่างรอบด้าน พร้อมเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ โดยสนับสนุนการใช้จ่ายที่ร้านค้าถุงเงิน เพื่อช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งให้ร้านค้ารายย่อย ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญของเศรษฐกิจไทย ทำให้ร้านค้ารายย่อย มีโอกาสขายสินค้าเพิ่มขึ้น นอกเหนือจากโครงการสนับสนุนจากภาครัฐ สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ X2G2X ของธนาคาร ที่ต้องการต่อยอดจากภาครัฐในสู่ทุกส่วนที่เกี่ยวข้อง”

โครงการ “พอยท์เพย์” เป็นการใช้จุดแข็งของธนาคารกรุงไทยด้านเทคโนโลยี ในการพัฒนาดิจิทัลแพลตฟอร์มและช่องทางการรับชำระค่าสินค้าและค่าบริการมาต่อยอดให้ร้านค้าถุงเงิน รับชำระเงินผ่านช่องทางดิจิทัลได้คล่องตัวขึ้นโดยสามารถใช้คะแนนสะสมของพันธมิตรชำระแทนเงินสดได้ ผนวกกับความแข็งแกร่งของ AIS ในฐานะผู้นำตลาดธุรกิจโทรคมนาคม มอบสิทธิพิเศษสำหรับลูกค้าให้สามารถใช้เอไอเอส พอยท์ 2 คะแนน แทนเงินสดได้ 1 บาท แลกส่วนลดเงินสดในการซื้อสินค้าและบริการจากร้านค้าถุงเงินที่เข้าร่วมโครงการแล้วจำนวน 400,000 ร้านค้า จาก 1.6 ล้าน ร้านค้าทั่วประเทศ


ในอนาคตมีแผนขยายประเภทของร้านค้าถุงเงินให้หลากหลายขึ้น เช่น ร้านสะดวกซื้อ ที่พัก โรงแรม การขนส่ง เพื่อให้รองรับและครอบคลุมการใช้งานของลูกค้าได้ทั่วประเทศ สำหรับร้านค้าที่สนใจเข้าร่วมโครงการพอยท์เพย์สามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.ais.th/พอยท์ช่วยจ่าย และ https://krungthai.com/th/content/personal/pointpay

ด้านตัวแทนร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการ กล่าวว่า “การเข้าร่วมเป็นร้านค้าถุงเงินในโครงการพอยท์เพย์ทำให้ร้านสามารถทำรายได้เพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก เป็นอีกตัวช่วยสำหรับร้านเล็ก ๆ อย่างเราให้เข้าถึงเทคโนโลยีที่การจ่ายเงินที่ลูกค้าคุ้นเคย เพิ่มโอกาสให้ร้านสามารถขายของได้ง่ายขึ้น เพราะการมีโครงการพอยท์เพย์เข้ามา เหมือนช่วยลูกค้าให้มีทางเลือก ทั้งส่วนที่อยากใช้คะแนนเป็นส่วนลด หรือจะใช้จ่ายทั้งหมด ทำให้เหมือนกับเรามีโปรโมชันดี ๆ ให้ลูกค้า ซึ่งถือว่าช่วยเราได้มาก เพราะแม้จะจบโครงการคนละครึ่งไป แต่ก็ยังมีพอยท์เพย์เข้ามาเพิ่มเติมก็เป็นอีกตัวช่วยให้เราขายของได้ดีขึ้น

ทั้งนี้ ในโปรแกรม AIS Points มีกว่า 20 ล้านคน มีคะแนนสะสมของลูกค้ากว่า 2,600 ล้านคะแนน ที่พร้อมจะแปลงเป็นโอกาสของร้านค้าให้มีตัวช่วยในการดำเนินธุรกิจต่อไป ดังนั้น เชื่อว่าศักยภาพของ AIS ในฐานะผู้นำด้านการให้บริการดิจิทัล จะช่วยส่งเสริมความร่วมมือครั้งนี้กับธนาคารกรุงไทยในการกระตุ้นการใช้จ่ายของลูกค้า เพื่อเป็นพลังสำคัญต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากระดับเส้นเลือดฝอยในทุกพื้นที่ของประเทศให้เกิดการเติบโตได้อย่างยั่งยืนต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รวบผู้ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพที่นนทบุรี นำตัวเข้าเซฟเฮาส์

รวบตัวชายไทย อายุประมาณ 35-40 ปี ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพ ภายในซอยจัดสรรสวิง 2 ถนนบ้านกล้วย-ไทรน้อย ต.พิมลราช อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ตำรวจนำตัวเข้าเซฟเฮาส์ อยู่ระหว่างสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐาน

ผู้ว่าการ ธปท.เตือน ครม. หวั่นดิจิทัลวอลเล็ตก่อหนี้จำนวนมาก

ทำเนียบฯ 24 เม.ย.- ผู้ว่าการ ธปท. ทำหนังสือถึง ครม. เตือนเดินหน้าดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท หวั่นก่อหนี้จำนวนมาก นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ทำหนังสือถึงสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ลงวันที่ 22 เมษายน 2567 เพื่อเสนอความเห็นประกอบการพิจารณาในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 23 เม.ย.2567 มองว่า โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เป็นโครงการขนาดใหญ่ของประเทศ  ต้องใช้เงินจำนวนมาก อาจก่อให้เกิดภาระหนี้ผูกพันต่อรัฐบาลในอนาคตดังนี้ 1.ความจำเป็น โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท และผลกระทบต่อเสถียรภาพทางการคลังของประเทศ ควรดูแลครอบคลุมเฉพาะกลุ่มเป้าหมาย  เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระค่าครองชีพ ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างมีประสิทธิผลคุ้มค่า และใช้งบประมาณลดลง  โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ เช่น กลุ่มผู้มีรายได้น้อย หรือผู้ถือบัตรสวัสดิการฯ 15 ล้านคน ซึ่งดำเนินการได้ทันที และใช้งบประมาณเพียง 150,000 ล้านบาท และควรทำแบบแบ่งเป็นระยะ (phasing) เพื่อลดผลกระทบต่อเสถียรภาพการคลัง  […]

“สารวัตรแจ๊ะ” ยื่นฟ้องหมิ่น “ทนายรัชพล” กล่าวหาจับแพะติดคุกฟรีปีกว่า

“สารวัตรแจ๊ะ” พร้อมทนายความ ยื่นฟ้องหมิ่นประมาททนายดัง และฟ้องแพ่งเรียกค่าเสียหาย 5 ล้านบาท ยันไม่ได้นําตัวไปเซฟเฮาส์ ด้านทนายเผยพบหลักฐานทนายคู่กรณีบีบผู้เสียหายกลับคําให้การ แบ่งเงินคนละครึ่ง

ข่าวแนะนำ

“บิ๊กต่าย” ยันทำตามหน้าที่ ไม่ได้เป็นคู่ขัดแย้ง “บิ๊กโจ๊ก”

“บิ๊กต่าย” แถลงข่าวการจับยาเสพติด ยันไม่ได้เป็นคู่ขัดแย้ง “บิ๊กโจ๊ก” ย้ำทำตามหน้าที่รักษาการฯ ไม่มีเวลาเอาสมองไปคิดเรื่องปลดป้ายชื่อ

ระทึกถังสารแอมโมเนียโรงน้ำแข็งระเบิดอีก

วิ่งหนีอลหม่าน! ถังสารแอมโมเนียโรงน้ำแข็งระเบิด ย่านตลาดสดเทศบาลนางัว อ.น้ำโสม จ.อุดรธานี คาดสาเหตุจากอากาศร้อนจัด

อุตุฯ เผยไทยตอนบนอากาศร้อนจัด-กลางวันฟ้าหลัว

กรมอุตุฯ เผยไทยตอนบนมีอากาศร้อนจัดกับมีฟ้าหลัวตอนกลางวัน แนะหลีกเลี่ยงการทำงานหรือการประกอบกิจกรรมในที่โล่งแจ้งเป็นระยะเวลานาน ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล อากาศร้อนจัดบางแห่ง โดยมีฝนฟ้าคะนอง 10%

ญาติคาใจ ตำรวจทำเกินกว่าเหตุ

เหตุการณ์ตำรวจ สภ.จอหอ จังหวัดนครราชสีมา ขับรถกระบะไล่ล่า เฉี่ยวชนรถจักรยานยนต์คนร้ายคดีลักทรัพย์ จนมีผู้เสียชีวิต 2 ราย ญาติคาใจการทำหน้าที่ของตำรวจว่า น่าจะทำเกินกว่าเหตุ ไม่เป็นไปตามยุทธวิธี ล่าสุด ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา สั่งตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว