รมว.พลังงาน บี้ลดค่าการกลั่น ย้ำใช้ไฟไม่เกิน 300 หน่วย/เดือน ไม่ขึ้นราคา

กฟผ. 9 มิ.ย.-รมว.พลังงาน เร่งหาทางลด “ค่าการกลั่น” ใช้ทั้งช่องทางกม.-ขอความร่วมมือ เพื่อลดราคาน้ำมัน ย้ำช่วยคนใช้ไฟไม่เกิน 300 หน่วย/เดือน ไม่ขึ้นราคา หารือ “แบงก์ชาติ-คลัง-สภาพัฒน์” รับมือราคาน้ำมันแพงยาวนาน ร่วมสกัดเงินเฟ้อ จ่อ คุย ปตท.ร่วมมือเพิ่มพยุงค่าไฟฟ้า


นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานกล่าวว่า ในขณะนี้รัฐบาลกำลังหารือทุกภาคส่วนเพื่อลดค่าครองชีพ ด้วยการหาแพกเกจใหม่ในการลดราคาพลังงาน หลังราคาสูงยืดเยื้อ  ท่ามกลางภาะเงินเฟ้อของไทยสูงขึ้นสูงสุดในรอบ 13 ปี แตะร้อยละ 7.1 ในเดือน พ.ค.65  ในขณะที่มาตรการดูแลราคาพลังงานบางส่วนจะหมดลงในเดือน มิ.ย.นี้ ดังนั้น แพ็กเกจใหม่จะสรุปได้ก่อนสิ้นเดือนนี้  โดยในส่วนของค่าไฟฟ้านั้น มีนโยบายชัดเจนว่า แม้ต้นทุนค่าไฟฟ้าอัตโนมัติ (เอฟที) ในงวดใหม่ (ก.ย.-ธ.ค.65 )จะขยับอีก แต่รัฐบาลจะดูแลสำหรับประชาชนที่ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 300 หน่วย/เดือน ค่าไฟฟ้าจะไม่ขยับขึ้น โดยคงราคาเท่าเดิมจ่ายเท่ากับงวดที่ 1/2565 (ม.ค.-เม.ย.) ซึ่งเป็นนโยบายต่อเนื่องจากที่งวดที่ 2/2565 (พ.ค.-ส.ค.) กลุ่มนี้ยังจ่ายเท่าเดิมเช่นกัน

ส่วนเรื่องราคาดีเซลนั้นเป็นเรื่องกระทบคนส่วนใหญ่ของประเทศและมีผลกระทบต่อภาวะเงินเฟ้อ ดังนั้น ในขณะนี้จึงดูทุกแนวทางว่าจะเข้ามาช่วยเหลือได้อย่างไร โดยตามที่มีผู้เสนอให้ลดค่าการกลั่นน้ำมันของโรงกลั่นฯ เพราะค่าการกลั่นสูงมาก โดยที่ผ่านมาไทยใช้นโยบายตลาดน้ำมันเสรีมาโดยตลอด แต่จากผลกระทบประชาชนรอบนี้ยาวนาน และค่าการกลั่นสูงยาวนานโรงกลั่นมีกำไร   กระทรวงพลังงานจึงดำเนินการทั้งขอความร่วมมือโรงกลั่นลดค่าการกลั่น ควบคู่กับการใช้กฏหมายที่เกี่ยวข้องเข้ามาดูแลว่าจะทำให้ลดค่าการกลั่นได้หรือไม่ เพื่อเป็นส่วนหนึ่งให้ราคาน้ำมัน ลดลง ได้แก่ กฏหมายของกระทรวงพาณิชย์ กฏหมายสำนักงานคุ้มครองผู้บริโภค และกฏหมายของกระทรวงพลังงาน ซึ่งจะมีความชัดเจนในเดือนนี้เช่นกัน


“การลดค่าการกลั่นก็จะเป็นแนวทางหนึ่งช่วยลดราคาน้ำมัน แต่ก็ต้องดูด้วยว่า ด้วยการค้าเสรี หากเราทำให้ราคาขายในประเทศลดลง แล้วโรงกลั่นฯจะหันไปส่งออกจนกระทบปริมาณในประเทศหรือไม่ ซึ่งก็ต้องใช้ทั้งการขอความร่วมมือและการใช้ข้อกฏหมายควบคู่กันไป ซึ่งต้องให้ความเป็นธรรมทั้งผู้บริโภคและผู้ประกอบการ”  นายสุพัฒนพงษ์  กล่าว

นายสุพัฒนพงษ์ กล่าวด้วยว่า ราคาน้ำมันที่พุ่งสูงขึ้น รัฐบาลประคับประคองด้วยการใช้กลไกต่างๆมาดูแลทั้งค่าไฟฟ้า ราคาน้ำมัน ก๊าซหุงต้มและอื่นๆ ราคาในไทยถูกกว่าเพื่อนบ้าน จนเกิดปัญหาที่เพื่อนบ้านเข้ามาเพิ่มต้ำมัน เข้ามาใช้พลังงานในไทยตามตะเข็บชายแดน ในขณะที่ไทยใช้เงินดูแลราคาพลังงานเพื่อประชาชนไปกว่า 2 แสนล้านบาทแล้ว แต่เมื่อราคาพลังงานสูงยาวกว่าที่คาด ทั้ง ก.พลังงาน ธนาคารแห่งประเทศไทย สภาพัฒน์ กระทรวงการคลัง จะมีการประชุมร่วมกันในเร็วๆนี้ ว่าจะเดินหน้าดูแลกันต่อไปอย่างไร แต่ที่แน่ๆ ต้องขอความร่วมมือประชาชน ประหยัดพลังงานกันอย่างต่อเนื่องและเป็นจริงเป็นจังในทุกๆด้าน ที่ผ่านมารัฐบาลทำเต็มที่แล้วก็เป็นหน้าที่ที่ประชาชนต้องร่วมมือกัน  

ส่วนกรณีที่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ร่วมแบกรับภาระค่าไฟฟ้า FT เป็นมูลค่าสูงหลายหมื่นล้านบาท ในขณะที่ ครม. อนุมัติให้ กฟผ.กู้เงินเสริมสภาพคล่องเพียง 2.5 หมื่นล้านบาทนั้น รมว.พลังงาน กล่าวว่า หาก กฟผ.จะกู้เพิ่มก็สามารถเสนอ ครม.เพื่อกู้ได้อีก เพราะในภาวะเช่นนี้ทุกฝ่ายก็ต้องร่วมมือกัน


“ภาวะดอกเบี้ยเป็นเรื่องที่ขึ้นทั่วโลก ปัญหาขึ้นดอกเบี้ยสกัดเงินเฟ้อ ไม่ได้เกิดที่ไทยที่เดียว จะกระทบการลงทุนอย่างไรนั้น เป็นเรื่องที่นักลงทุนเค้ามองเค้าหาจังหวะโอกาสอยู่แล้ว หากประเทศใดมีเสถียรภาพทุกด้านที่ดี มีโอกาส มีสภาพคล่องที่ดีก็จะไปประเทศนั้น   ในส่วนบ้านเรา แบงก์ชาติ ,คลัง,สภาพัฒน์ ก.พลังงานก็จะมาดูร่วมกัน ว่า สงครามยูเครน-รัสเซียยืด เยื้อ แล้วจะทำให้ราคาพลังงานทรงตัวระดับสูงจะไปนานเท่าใด เราจะจัดการอย่างไรก็ต้องหาคำตอบ”นายสุพัฒนพงษ์ กล่าว

นายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า ในส่วนของดีเซลที่หากดูมาตรการคนละครึ่งแล้ว ราคาจะต้องสูงกว่า 36 บาท/ลิตร แต่ทางกระทรวงพลังงานมีความชัดเจนว่าจนถึงสิ้นเดือนนี้ ราคาจะไม่สูงกว่า 35 บาท/ลิตร จากที่ราคาในขณะนี้อยู่ที่ประมาณ 34 บาท/ลิตร ส่วนในเดือนถัดไป ราคาจะขยับอย่างไร ก็ขึ้นกับแพกเกจใหม่ในการเข้ามาดูแล โดยในส่วนของการดูแลค่าไฟฟ้านั้น ก็คงจะต้องขอความร่วมมือ บมจ.ปตท.เข้ามาดูแลร่วมเพิ่มเติมกับ กฟผ.จากที่ขณะนี้ ปตท.ได้ร่วมลดภาระ ยืดหนี้การจ่ายค่าก๊าซธรรมชาติ เดือน พ.ค. มูลค่า 1.3 หมื่นเป็นเวลา 3-4 เดือน .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดังเปิดใช้ชื่อวัดรับบริจาค แต่วัดเบิกไม่ได้

บช.ก. 6 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดัง เปิดรับบริจาค ใช้บัญชีชื่อวัด แต่หมอดูเบิกได้คนเดียว ตามกฎหมายทำไม่ได้ ต้องนำบัญชีมาตรวจสอบเส้นเงิน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีหมอดูชื่อดังได้เปิดรับบริจาคเงินโดยใช้บัญชี ชื่อวัดพระบาทน้ำพุ แต่คนที่สามารถถอนเงินออกจากบัญชีได้คือหมอดูคนดังกล่าว ทำให้ประชาชนเกิดข้อสงสัยว่า ทำไมเปิดรับบริจาคใช้ชื่อวัดแต่วัดถอนเงินไม่ได้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ตอนนี้มีผู้เสียหายได้มาร้องขอความเป็นธรรมที่ กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม เรื่องหมอดูคนดังกล่าว และได้มีการพูดคุยกับผู้กำกับกอง 1 ซึ่งกำลังตรวจสอบอยู่ มีการอ้างว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาส อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และจะต้องมีการเช็คว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และเจ้าอาวาสนำเงินไปใช้อะไร เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีนี้จะเข้าข่ายคดีฉ้อโกงหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า คิดว่าน่าจะเข้าข่ายคดีฉ้อโกง แต่ก็ต้องตรวจสอบดูว่าเงินที่รับบริจาคมาเอาไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และถ้าเอาไปให้จริง เจ้าอาวาสนำเงินไปใช้จ่ายอะไรบ้าง ผู้สื่อข่าวถามอีกว่ากรณีที่หมอดูคนดังกล่าว นำชื่อวัดมารับบริจาคเงินแต่หมอดูคนดังกล่าวกับเบิกเงินได้คนเดียว ทั้งที่ชื่อในบัญชีที่รับบริจาคเป็นชื่อวัดกระทำได้หรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่าทำไม่ได้ ถ้าใช้ชื่อบัญชีรับบริจาคเป็นชื่อวัดก็ต้องนำเงินไปให้วัดแล้วคนที่เบิกได้ก็ต้องเป็นวัดเท่านั้น เพราะเป็นเงินวัด เดี๋ยวจะต้องมีการนำบัญชีดังกล่าวมาตรวจสอบว่าเงินที่เข้าในบัญชีเท่าไหร่และวัดได้เท่าไหร่ และการรับบริจาคในลักษณะนี้ ต้องมีกรรมการวัดในการตรวจสอบบัญชี ให้ละเอียด ไม่ใช่อยากรับบริจาคก็จะทำได้เลย. -415-สำนักข่าวไทย

บุกค้นบริษัท ยึดโดรน-อุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น

กทม. 6 ส.ค.-ตำรวจกองปราบ ร่วมกับ กสทช. บุกค้นบริษัทใน จ.สมุทรปราการ ยึดโดรน และอุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ร่วมกับเจ้าหน้าที่ กสทช. และพนักงานสืบสวนจังหวัดสมุทรปราการ เข้าตรวจค้นบริษัทแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมืองสมุทรปราการ หลังพบขัอมูลว่ามีบริษัทแห่งนี้ผลิตอุปกรณ์ และมีอากาศยานไร้คนขับโดรนไว้จำนวนมาก ต่อมาเมื่อแสดงหมายเพื่อขอตรวจค้น นายกฤษนันท์ ได้แสดงตัวเป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัทดังกล่าว เป็นผู้นำตรวจค้น จากการตรวจค้นพบอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน 29 เครื่อง, กระเป๋าตรวจจับสัญญาณ 38 อัน, ปืนรบกวนสัญญาณ 129 กระบอก, เครื่องรบกวนสัญญาณ 16 เครื่อง, รถตู้สำหรับตรวจจับและรบกวนสัญญาณ 1 คัน และอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีก 50 รายการ โดยของกลางทั้งหมดจะถูกนำไปเก็บไว้ที่กองบังคับการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อนำไปตรวจสอบความถี่ และเอกสารที่เกี่ยวข้อง สำหรับบริษัทดังกล่าว ตำรวจให้ข้อมูลว่า มีเจ้าของโรงงานเป็นคนสัญชาติสิงคโปร์ และมีกรรมการเป็นชาวไทยร่วมด้วย ประกอบกิจการผลิตอุปกรณ์ และอากาศยานไร้คนขับโดรน.-สำนักข่าวไทย

มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงิน

กทม 5 ส.ค.-มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงินอีก “ขจรเกียรติ” ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา ผงาดคุมที่ดิน “เชษฐา” คุม ปภ. โยก “ภาสกร” นั่งผู้ว่าฯ ระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 5 ตำแหน่ง ประกอบด้วย นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา เป็นอธิบดีกรมที่ดิน นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นผู้ว่าฯ ระยอง และนายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าฯ ระยอง เป็นผู้ว่าฯ เพชรบุรี.-319.-สำนักข่าวไทย

เปิดปฏิบัติการค้น 200 จุด ล่าพระทำผิดกฎหมาย

กทม. 5 ส.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ลุยค้น 200 จุดทั่วประเทศ ไล่ล่าจับพระทำผิดกฎหมาย 181 เป้าหมาย ล่าสุดจับพระวัดดังย่านคลอง 6 ปทุมธานี พบเอี่ยวองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ในฐานะหัวหน้าศูนย์ป้องกันปราบปรามภัยคุกคามและเสริมสร้างความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา สั่งการ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. นำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัด บช.ก. เปิดปฏิบัติการกวาดลานวัด เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย กว่า 200 จุด เพื่อจับกุมผู้ต้องหาคดีต่างๆ อาทิ ยักยอกทรัพย์ ฟอกเงิน เมาแล้วขับ หรือ มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติด รวมไปถึงองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ที่หลบหนีมาบวชเป็นพระซ่อนตัวตามวัดต่างๆ ทั่วประเทศ โดยกลุ่มผู้ต้องหาที่เป็นเป้าหมายหลักของปฏิบัติการครั้งนี้ มีด้วยกันทั้งหมด 181 ราย แบ่งเป็น ผู้ต้องหาที่ยังมีสถานะเป็นพระ 154 ราย ในจำนวนนี้มีพระตำแหน่งสูงสุดเป็นระดับเจ้าอาวาส ส่วนผู้ต้องหาที่เคยเป็นพระแต่สึกไปแล้วมีทั้งหมด 27 ราย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเข้าดำเนินการจับกุม อย่างไรก็ตามขณะนี้มีรายงานว่า จากปฏิบัติการดังกล่าวขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาคนสำคัญได้รายหนึ่งแล้ว […]

ข่าวแนะนำ

“วัดพระบาทน้ำพุ” แจงเงินวัด เข้าแล้วออกไปไหน

ลพบุรี 8 ส.ค. – หลังจากมีกระแสข่าวเกี่ยวกับวัดพระบาทน้ำพุ ก็มีเสียงสะท้อนออกมาหลายแง่มุม ขณะที่บางส่วนตั้งคำถามเกี่ยวกับเงินวัดที่มีการเปิดรับบริจาค และการดูแลผู้ป่วยเอชไอวี ว่ายังมีความจำเป็นหรือไม่.-สำนักข่าวไทย

บุกจับเจ้าหน้าที่ ส.ป.ก.-กำนัน ทุจริตที่ดินเอื้อนายทุน

สระบุรี 8 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” นำกำลังบุกจับเจ้าหน้าที่ ส.ป.ก.สระบุรี-กำนัน ร่วมกันทุจริตออกเอกสารสิทธิ ส.ป.ก. 600-700 ไร่ เอื้อประโยชน์นายทุนสร้างบ้านพักหรู พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. พร้อมด้วย นายธนดล สุวัณณะฤทธิ์ ที่ปรึกษาด้านกฎหมายฯ รมว.เกษตรและสหกรณ์ นำกำลังเข้าจับกุมนายวิชยุตม์ อายุ 42 ปี นายช่างสำรวจชำนาญงาน ขณะกำลังนั่งปฏิบัติหน้าที่อยู่ในห้องทำงาน ที่สำนักงานปฏิรูปที่ดินจังหวัดสระบุรี และนายสิปปกร อายุ 57 ปี กำนัน ต.หนองย่างเสือ อ.หมวกเหล็ก ตามหมายจับศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 1 ข้อหาเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เป็นเจ้าหน้าที่รัฐร่วมกันปฏิบัติหรือเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เป็นเจ้าพนักงานแต่กลับร่วมกันกระทำการรับรองเอกสารอันเป็นเท็จ หลังพบใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบเอื้อประโยชน์ให้กับนายทุนเข้าบุกรุกหรือครอบครองที่ป่าไม้ในพื้นที่ อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้มีการตรวจสอบพบคาเฟ่ รีสอร์ตหรูแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี ก่อสร้างบุกรุกผืนป่า จึงเร่งขยายตรวจสอบที่ไปที่มาของการเข้าครอบครองที่ดินดังกล่าว กระทั่งพบว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐบางส่วนใช้อำนาจหน้าที่เอื้อประโยชน์ให้กับนายทุน ด้วยการออกเอกสารสิทธิ ส.ป.ก.4-01 เพื่อใช้อ้างสิทธิเข้าครอบครอง […]

ยิงกำนันเล้น

ออกหมายจับ “ไอ้ ด.” มือปืนขาเป๋ ยิงถล่มกำนันเล้น ตร.ไล่ล่ากระชั้นชิด

ตรัง 8 ส.ค. – ออกหมายจับ ไอ้ ด. มือปืนขาเป๋ ยิง M16 ถล่มดับกำนันเล้น จ.ตรัง เผยปมสังหารจากคนเคยช่วยเหลือกลับขัดแย้ง-ขู่ฆ่า ผู้การตรังเผยแกะรอยเบาะแสไล่ล่าเป็นประโยชน์ ติดตามตัวแบบหายใจรดต้นคอ ลั่นต้องจับให้ได้ ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดตรังเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2568 ว่า จากกรณีคนร้ายชายในชุดดำสวมหมวกกันน็อกปิดบังใบหน้า ใช้อาวุธสงคราม M16 ยิงถล่มนายบัณฑิต รองพล หรือ กำนันเล้น อายุ 57 ปี กำนันตำบลนาวง อ.ห้วยยอด จ.ตรัง และประธานชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านอำเภอห้วยยอด จนเสียชีวิต กระสุนเจาะประตูรถฝั่งคนขับพรุน 15 นัด ปลอกกระสุนขนาด 5.56 ตกกระจายเกลื่อน เหตุเกิดช่วงเวลาประมาณ 01.00 น. วันที่ 3 สิงหาคมที่ผ่านมา บริเวณหน้าบ้านของนายบัณฑิต พื้นที่หมู่ 9 ต.นาวง อ.ห้วยยอด จ.ตรัง ซึ่งเป็นช่วงระหว่างที่นายบัณฑิตเดินทางกลับจากงานเลี้ยงงานแต่งงาน […]

“บุ๋ม ปนัดดา” พร้อมชน “มาลี”

กรุงเทพฯ 8 ส.ค. – ฮือฮาและเป็นที่พูดถึงอย่างมาก สำหรับการแต่งตั้ง “ดร.บุ๋ม ปนัดดา วงศ์ผู้ดี” นั่งโฆษก ศบ.ทก.จิตอาสา ด้าน “บุ๋ม” เปิดใจ เป็นคนชัดเจน ตรงไปตรงมา พร้อมชน “มาลี” ลั่นไม่กลัวเฟคนิวส์.-สำนักข่าวไทย