กรุงเทพฯ 8 มิ.ย.-ตลาดทุน จับตา กนง.แถลงบ่ายนี้ ตลาดคาดแม้คงดอกเบี้ย ร้อยละ 0.5 แต่จะชี้ทิศทางดอกเบี้ยสกัดเงินเฟ้อ ส่วน Free Visa สำหรับซาอุฯ ในการพำนักในไทย 1 เดือน เป็นผลบวกต่อหุ้นโรงพยาบาลขนาดใหญ่
นายกิติชาญ ศิริสุขอาชา CFP ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์รายย่อย บล. ซีจีเอส – ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดจับตาการแถลงผลประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในบ่ายวันนี้ หลังจากตัวเลขเงินเฟ้อของไทยพุ่งขึ้นสูงสุดในรอบ 13 ปี โดยเดือน เม.ย. เงินเฟ้อขยายตัวร้อยละ 7.1 และมีการประเมินว่าเงินเฟ้อจะพุ่งขึ้นต่อเนื่องตามทิศทางราคาสินค้าและพลังงาน ซึ่งในการประชุมวันนนี้ กนง.คาดคงดอกเบี้ยนโยบายที่ร้อยละ 0.5 ต่อ แต่จะส่งสัญญาณสกัดเงินเฟ้ออย่างไร ส่งสัญญาณรุนแรง ขึ้นดอกเบี้ยเร็วและแรงกว่าคาดมากก็จะทำให้ตลาดตกใจ ทั้งนี้ หุ้นเปิดเมืองยังเป็นกลุ่มที่น่าสนลงทุน แนะนำ CPALL, CRC และ M ส่วนราคานำมันที่ขยับขึ้น และโกลด์แมน แซคส์ ปรับเพิ่มคาดการณ์ราคาน้ำมันดิบเบรนท์สู่ระดับ 135 ดอลลาร์/บาร์เรล ช่วงครึ่งหลังของปี 2565 จนถึงครึ่งปีแรกของ 2566 ก็แนะนำให้ สะสมหุ้น SPRC, TOP, PTTEP
นายกรภัทร วรเชษฐ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและบริการการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ โนมูระ พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ตลาดคาด กนง.คงดอกเบี้ยร้อยละ 0.5 และ ส่งสัญญาณ Dovish ต่อเนื่อง ซึ่งจะเร่งค่าเงินบาทอ่อนค่าอีกระลอก อย่างไรก็ตามหากพิจารณาลึกในเงินเฟ้อพื้นฐาน จะพบว่าแรงกดดันด้านเงินเฟ้อ อาจยังไม่น่ากังวลมากเท่าเงินเฟ้อทั่วไป สะท้อนแรงกดดันหลักมาจากราคาอาหารและพลังงาน หากเป็นไปตาม NOMURA คาด เงินเฟ้อไทยและโลกจะผ่อนคลายขึ้นเดือน กันยายน 2565 เป็นต้นไป ประกอบกับ Domestic Demand ยังต่ำเราอาจเห็นกนง. คงดอกเบี้ย ร้อยละ 0.5 ไปถึงสิ้นปี ก่อนขยับขึ้นไตรมาส 1 ปี 2565 รอเศรษฐกิจฟื้นตัว
“ตลาดหุ้นไทยเผชิญแรงกดดันจากการเร่งดึงสภาพคล่องกลับจากเงินเฟ้อโลกสูง ในภาวะนโยบายการเงินไทยสวนทาง เป็นตัวแปรเร่งค่าเงินอ่อนค่า และอยู่ในภาวะที่กำลังซื้อภายในต่ำ จากความเชื่อมั่นที่ลดลง SET น่าจะยังคงค้นหาฐานต่อไป ถึงปลาย มิ.ย. ถึงกลางเดือน ก.ค.” นายกรภัทร กล่าว
นอกจากนี้ประเด็นที่ต้องติดตามว่าจะกระทบต่อการลงทุน คือ ธนาคารโลกออกรายงานแนวโน้มเศรษฐกิจโลก ปรับลดตัวเลขคาดการณ์ GDP ปีนี้ สู่ระดับ 2.9% จากเดิมที่ระดับ 4.1% จากสงครามรัสเซีย-ยูเครน และมีความเสี่ยงกับภาวะ stagflation หรือเศรษฐกิจที่ชะงักงันและเงินเฟ้อ
ส่วน ครม. วานนี้ (7 มิ.ย.) ที่เห็นชอบให้เพิ่มประเทศซาอุดิอาระเบียในรายชื่อประเทศที่ยกเว้นการขอวีซ่า หากอยู่ในราชอาณาจักรไทยไม่เกิน 30 วัน คาดช่วยให้มีผู้เดินทางจากประเทศซาอุฯ เพิ่มเป็นปีละ 100,000-150,000 คน จากเดิมปีละ 30,000 คน จะเป็นผลบวกต่อหุ้น กลุ่มโรงพยาบาล ขนาดใหญ่ เช่น BDMS, BH, MINT, ERW, CENTEL
ส่วน วันพรุ่งนี้ (9 มิ.ย.) ประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่องยาเสพติดให้โทษ 5 พ.ค. 65 จะเริ่มมีผลบังคับใช้ ปลดล็อกกัญชาและกัญชง ออกจากบัญชียาเสพติดและสามารถ การนำส่วนอื่น ๆ ของกัญชาและกัญชงที่นำไปปลูก พัฒนาและแปรรูปไม่ผิดกฎหมาย มีโอกาสมีแรงเก็งกำไรหุ้นที่มีแผนขยายธุรกิจเกี่ยวข้องกับกัญชาได้แก่ 1) กลุ่มต้นน้ำ GUNKUL, STA 2) กลุ่มกลางน้ำ RBF, DOD, KWM และ 3) กลุ่มปลายน้ำ SAPPE, ICHI, OISHI, OSP, TIPCO, TACC, CBG, MALEE, TKN, BC, RS, JKN, FN, IP .-สำนักข่าวไทย