กรุงเทพฯ 7 มิ.ย. – นายกรัฐมนตรี ยืนยันรัฐบาลให้ความสำคัญในการแก้ไขปัญหาราคาพลังงาน และภาวะเงินเฟ้อในประเทศ ที่พุ่งสูงขึ้น ส่วนการคลายล็อกประเทศให้มากขึ้น อยู่ที่ ศบค.จะเป็นผู้พิจารณา
พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมกล่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีวันนี้ ( 7 มิ.ย. ) โดยยืนยันว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับปัญหาราคาพลังงาน ที่ส่งผลกระทบทำให้เกิดภาวะเงินเฟ้อ หลังจากล่าสุดราคาน้ำมันในตลาดโลกได้พุ่งสูงขึ้นถึง 150 ดอลล่าร์สหรัฐ/บาเรล เมื่อราคาพลังงานสูงขึ้น ก็ส่งผลกระทบต่อราคาสินค้า และอื่นๆอีกมากมาย ซึ่งทั้งหมดก็เป็นปัญหาที่ทุกระเทศทั่วโลกเผชิญ แต่รัฐบาลก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องประชุมหารือแก้ปัญหามาต่อเนื่อง ยืนยันว่ารัฐบาลจะพยายามดูแลปัญหาอย่างเต็มที่ ภายใต้งบประมาณที่จำกัด
โดยปัญหาเงินเฟ้อนี้ นายกรัฐมนตรีกล่าวด้วยว่า ขณะนี้เงินเฟ้อสูงขึ้นๆ แต่โอกาสที่เงินเฟ้อจะปรับลดลงในอนาคตก็มีกระทรวงการคลัง ก็ได้รายงานให้ทราบว่า มีการหารืออย่างใกล้ชิด กับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท) และธนาคารพาณิชย์ เป็นปัญหาสำคัญของทั่วโลกเผชิญเหมือนกันทุกประเทศ และย้ำว่ารัฐบาลให้ความสำคัญในการแก้ปัญหาเรื่องนี้
ส่วนปัจจัยเรื่องภาวะดอกเบี้ยในประเทศนั้น กระทรวงการคลังและธปท.ได้รายงานให้ทราบว่า จะขอคงอัตราดอกเบี้ยไว้ก่อน เพื่อป้องกันเงินไหลออกนอกประเทศ ซึ่งก็เป็นแนวทางตามหลักเศรษฐศาสตร์
ส่วนประเด็นเรื่องการคลายล็อคให้มีการขยายเวลาเปิดสถานบริการเพิ่มขึ้น จากปัจจุบันที่ผ่อนคลายให้เปิดถึงเที่ยงคืนนั้น นายกรัฐมนตรีระบุว่า เรื่องนี้ได้ให้แนวทางในที่ประชุม ศบค. ไว้แล้ว ในการประชุมครั้งที่ผ่านมา ก็เชื่อว่าจะสามารถได้ข้อสรุปในการประชุมครั้งต่อไป ส่วนจะขยายเวลาเปิดไปได้แค่ไหน อันนี้ก็ต้องพิจารณากฎหมายเดิมประกอบด้วยเนื่องจากกฎหมายเดิมมีการควบคุมเวลาเปิด-ปิดสถานบริการไว้ไม่เกิน 02.00 น. หากไปแก้ให้มากกว่านั้นก็จะเป็นเรื่องใหญ่โต รวมถึงประเด็นที่จะมีการคลายล็อคให้ถอดหน้ากากอนามัยด้วย เรื่องนี้ ศบค. ก็พิจารณาอยู่ แต่ภาพรวมก็ขึ้นอยู่กับความสมัครใจด้วย เนื่องจากสถาณการณ์โควิด-19 ในปัจจุบัน ก็มีทั้งคนที่อยากถอนหน้ากาก และคนที่ยังอยากใส่หน้ากากอยู่ .-สำนักข่าวไทย