กรุงเทพฯ 6 มิ.ย. – ตอนนี้ทั่วโลกเผชิญวิกฤติเศรษฐกิจ ท่ามกลางสงครามรัสเซีย-ยูเครน ส่งผลให้ราคาพลังงานสูงขึ้น และเริ่มขาดแคลนในบางประเทศ ตลอดจนค่าครองชีพของประชาชนที่ปรับตัวสูงขึ้นทั่วโลก
ในประเทศไทย ปตท. ยังคงยึดมั่นพันธกิจดูแลความมั่นคงทางพลังงานของชาติ และได้ดำเนินมาตรการบริหารจัดการน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ รองรับความต้องการใช้ในประเทศอย่างเต็มความสามารถ ควบคู่ไปกับการร่วมดูแลสาธารณสุขและสังคม รวมถึงสนับสนุนด้านพลังงาน เพื่อแบ่งเบาภาระของภาครัฐและประเทศ เช่น ขยายระยะเวลาช่วยเหลือส่วนลดค่าซื้อก๊าซ LPG แก่ผู้มีรายได้น้อย กลุ่มร้านค้า หาบเร่ แผงลอยอาหาร ที่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จำนวนเงิน 100 บาท/คน/เดือน จนถึง 30 มิถุนายนนี้
ปตท.พร้อมเป็นกำลังสำคัญ และปฏิบัติภารกิจอย่างเต็มความสามารถ เพื่อสร้างความมั่นคงทางพลังงานให้แก่ประเทศ อย่างไรก็ตาม เสถียรภาพทางพลังงานของประเทศจะเกิดขึ้นอย่างแท้จริง อยู่ที่ทุกคนร่วมมือร่วมใจประหยัดและรู้ใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพด้วย ปตท.ก็มีคำแนะนำแนวทางประหยัดพลังงาน เช่น เลือกใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าที่มีฉลากประหยัดไฟฟ้าเบอร์ 5 ติดดาว
เครื่องปรับอากาศ : อุณหภูมิที่เพิ่มขึ้น 1 องศาฯ จะช่วยลดค่าไฟฟ้าประมาณ 10% และการล้างแอร์ทุก 6 เดือน ประหยัดไฟเพิ่มขึ้น 47%
ตู้เย็น : วางตู้เย็นห่างจากผนังอย่างน้อย 15 เซนติเมตร ประหยัดไฟเพิ่มขึ้น 49%
เตารีด : รีดผ้าครั้งละมากๆ ไม่พรมน้ำมากเกินไป และถอดปลั๊กก่อนรีดเสร็จ 2 นาที ประหยัดไฟเพิ่มขึ้น 43%
โทรทัศน์ : ถอดปลั๊กทุกครั้งเมื่อเลิกใช้งาน ประหยัดไฟเพิ่มขึ้น 51%
อีกหนึ่งเรื่องที่อาจจะละเลยไป คือ การเสียบปลั๊กไฟทิ้งไว้ แม้ไม่ได้ใช้งาน – การใช้ปลั๊กพ่วง ก็ต้องระวังเช่นกัน เพราะหากเลือกใช้ปลั๊กไม่ได้คุณภาพ อาจทำให้ไฟลัดวงจรและเกิดไฟไหม้ได้ ดังนั้น ถ้าไม่ได้ใช้งาน แนะนำให้ถอดปลั๊กทุกครั้ง
ส่วนการบรรทุกบนรถกระบะ ปตท.แนะนำให้จัดวางของกึ่งกลางให้น้ำหนักสมดุลกัน ไม่ควรวางให้น้ำหนักลงด้านใดด้านหนึ่ง – ขับรถด้วยความเร็วคงที่ วิ่งทางไกลควรชิดซ้าย
และรถทั้งกลุ่มเบนซิน กลุ่มดีเซล ปตท.แนะนำว่าควรใช้ความเร็วสม่ำเสมอ 80-90 กิโลเมตร/ชั่วโมง ช่วยประหยัดน้ำมันได้มากถึง 15-20% ถ้าลดการบรรทุกสิ่งของที่ไม่จำเป็นออก ก็จะช่วยประหยัดน้ำมันได้ด้วย ความจริงแล้วขับช้าเกินไปก็กินน้ำมัน ขับเร็วเกินไปก็ไม่ประหยัด ทางที่ดีที่สุดคือขับความเร็วคงที่ 90 กิโลเมตร/ชั่วโมง หรือตามที่บริษัทรถยนต์แนะนำ ก็ช่วยประหยัดน้ำมันได้แล้วครับ
รอบนี้ราคาพลังงานสร้างผลกระทบไปทั่วโลก ในฐานะไทยเป็นผู้นำเข้าพลังงาน หากร่วมมือกันลดใช้พลังงาน นอกจากจะช่วยลดค่าใช้จ่ายในครอบครัวแล้ว ยังช่วยชาติลดการนำเข้าอีกด้วย. – สำนักข่าวไทย