กรุงเทพฯ 6 มิ.ย. -ผิดคาด กบน. เข้าอุดหนุนกลุ่มเบนซินด้วยกลไกกองทุนน้ำมันฯ พรุ่งนี้ราคาอาจลด 1 บาท/ลิตร สูญเงิน 26 ล้านบาท/วัน แต่ขึ้นดีเซล 1 บาท/ลิตร ราคาแตะ 34 บาท/ลิตร ชี้มีโอกาสสัปดาห์หน้าขึ้นอีก 1 บาท/ลิตร ส่วนก๊าซหุงต้มเดือนหน้าจะขยับหรือไม่ ภาครัฐกำลังดูถึงแพ็กเกจรวม ส่วนการกู้เงินของกองทุนน้ำมันยังอลวน กองทุนติดลบแล้ว 8.6 หมื่นล้านบาท
นายวิศักดิ์ วัฒนศัพท์ ผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) ซึ่งมีนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พลังงานเป็นประธาน มีมติวันนี้ (6 มิ.ย.)ปรับขึ้นราคาดีเซล 1 บาท/ลิตร มีผลพรุ่งนี้ (7มิ.ย.) ทำให้ราคาขึ้นจากประมาณ 33 บาทเป็นประมาณ 34 บาท/ลิตร (ส่งผลให้ราคาขายปลีกดีเซลปรับจากลิตรละ 32.94 บาท เป็นลิตรละ 33.94 บาท มีผลตั้งแต่วันที่ 7 มิถุนายน 2565 เป็นต้นไป) ส่วนกลุ่มเบนซิน มีการอุดหนุนราคาแก๊สโซฮอล์ 94, 95 และ E20 ด้วยการลดการจัดเก็บเงินกองทุนน้ำมันฯ มีผลถึงสิ้นเดือน มิ.ย. นี้ หากราคาตลาดโลกไม่พุ่งขึ้นในการปิดตลาดวันนี้ ก็จะทำให้ราคาขายปลีกของ 3 ผลิตภัณฑ์นี้ลดลงประมาณ 1 บาทต่อลิตร มีผลวันพรุ่งนี้ (7 มิ.ย.) ซึ่งเป็นการช่วยเหลือกลุ่มเบนซินเนื่องจากต้องการลดผลกระทบประชาชนหลังจากที่เดือนที่ผ่านมาราคากลุ่มเบนซินขยับขึ้นแรงถึง 10 ครั้ง
ส่วนราคาดีเซลนั้นมีโอกาสที่ราคาจะขยับขึ้นอีกหรือไม่ ต้องรอลุ้นสัปดาห์หน้าว่าจะขึ้นอีก 1 บาทต่อลิตร หรือไม่ โดยการคำนวณตามเกณฑ์ตามมติ ครม. 22 มี.ค. 65 เรื่องการขยับราคาดีเซล ที่ให้ขึ้นกรณีหากสูงกว่า 30 บาท/ลิตร ราคาจะขึ้นร้อยละ 50 และอีกร้อยละ 50 ทางกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงจะเข้าไปดูแล แต่ที่ผ่านมา เนื่องจาก กบน. มีนโยบายต้องการลดผลกระทบประชาชนจึงทยอยปรับไม่สะท้อนต้นทุนตามมติ ครม. โดยหากปรับราคาสะท้อนตามมติ ครม. แล้ว ราคาดีเซลจะต้องขยับไปถึง 36.41 บาท/ลิตร
“รมว.พลังงาน ขอให้กรรมการ กบน. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันดูว่า หลังจาก มติ ครม. 22 มี.ค. ซึ่งดูแลราคาพลังงานทั้งหมด มีผลถึงสิ้นเดือน มิ.ย. นี้แล้ว หลังจากนั้น จะมีแพ็กเกจช่วยเหลือประชาชน ทำอย่างไร ภาระที่เข้ามาดูแลจะเป็นเท่าใด ซึ่งก็ต้องดูไปถึงทิศทางราคาตลาดโลกด้วยว่า จะสูงยืดเยื้อไปมากน้อยเพียงใด ยอมรับว่าราคาน้ำมัน ก๊าซหุงต้มที่สูงก็กระทบค่าครองชีพประชาชน และมีผลต่อเงินเฟ้อที่สูงขึ้น” นายวิศักดิ์กลาว
ส่วนราคาก๊าซหุงต้มที่ขยับขึ้นมาเดือน ละ 1 บาทเป็นเวลา 3 เดือน (เม.ย.-มิ.ย.) รวมขึ้น 3 บาท/กก. หรือ 45 บาท/ถัง 15 กก. ราคาขณะนี้อยู่ที่ 363 บาท/ถัง นั้น ในเดือน ก.ค. ราคาจะขึ้นอีกหรือไม่ ก็ต้องดูนโยบายภาครัฐ ซึ่งในขณะนี้กองทุนฯ อุดหนุนรวม 13 บาท/กก. หรือ 1,600 ล้านบาท/เดือน โดยการอุดหนุนลดลงตามราคาตลาดโลกที่ลดลงจาก 855 เหรียญสหรัฐ/ตัน เหลือ 750 เหรียญ/ตันในเดือน มิ.ย. นี้
สำหรับการอุดหนุนกลุ่มเบนซิน กบน. ได้ปรับลดการจัดเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงประเภทแก๊สโซฮอล์ 91 และแก๊สโซฮอล์ 95 ลงลิตรละ 0.93 บาท (เดิมจัดเก็บลิตรละ 1.02 บาท เหลือ 0.09 บาท) และ E20 ลดลงลิตรละ 0.94 บาท (เดิมจัดเก็บลิตรละ 0.12 บาทปรับเป็นให้การชดเชย 0.82 บาท) ทั้งนี้ เพื่อให้ราคาขายปลีกลดลง แต่การปรับราคาก็ขึ้นอยู่กับผู้ค้าน้ำมันที่ต้องดูต้นทุนอื่น ๆ ประกอบด้วย อย่างน้อยก็คาดว่าราคาจะลดลงได้ 50-60 สตางค์ต่อลิตร
ส่วนสถานการณ์ราคาดีเซล ตลาดโลกยังคงสูงต่อเนื่อง โดยราคาอยู่ที่ 158.29 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล (2 มิ.ย. 2565) เพิ่มขึ้นจากเดิมสัปดาห์ก่อนราคา 149.49 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล (27 พ.ค. 2565) เป็นผลมาจากการออกมาตราการคว่ำบาตรของสหภาพยุโรปที่ตกลงจะห้ามการนำเข้าน้ำมันจากรัสเซีย การเปิดประเทศของจีน ตลอดจนปริมาณน้ำมันดิบคงคลังของสหรัฐ ลดลงกว่า 1.2 ล้านบาร์เรล
ทั้งนี้ การขึ้นราคาดีเซล 1 บาทต่อลิตร ก็ทำให้เงินกองทุนอุดหนุนดีเซล วันที่ 7 มิ.ย. ลดลงเหลือ 8.81 บาท/ลิตร จากเดิม 9.81 บาท/ลิตร ส่วนการดูแล 3 ผลิตภัณฑ์กลุ่มเบนซิน ทำให้เงินกองทุนฯ มีรายได้จากกลุ่มเบนซินลดลงจาก 26.66 ล้านบาท เหลือ 0.66 ล้านบาท และภาพรวมของกองทุนฯ แล้วก็จะทำให้เงินไหลออกลดลงจาก 570.67 ล้านบาท/วัน เหลือ 539.59 ล้านบาท/วัน
สำหรับประมาณการฐานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงปัจจุบัน วันที่ 5 มิถุนายน 2565 ติดลบ 86,028 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นบัญชีน้ำมันติดลบ 50,147 ล้านบาท และบัญชีก๊าซ LPG ติดลบ 35,881 ล้านบาท
ส่วนความคืบหน้าการจัดหาเงินเข้ามาเสริมสภาพคล่องกองทุนน้ำมันฯ จากที่ขณะนี้มีเงินหมุนเวียนเพียง 1 หมื่นล้านบาท อยู่ในระหว่างหารือกับกระทรวงการคลัง โดยแบ่งออกเป็น 2 รูปแบบ คือ 1. การกู้เงินจากสถาบันการเงิน 2 หมื่นล้านบาท และ 2. การใช้เงินงบประมาณ จากภาครัฐที่เข้ามาดูแลตามมติ ครม. วันที่ 22 มี.ค. 65 จะมีการใช้เงินดูแลดีเซลประมาณ 3.3 หมื่นล้านบาท และดูแลก๊าซหุงต้มประมาณ 3.6 พันล้านบาท เงินส่วนนี้ก็จะมีการเสนอขอใช้งบฯ ภาครัฐมาเสริมสภาพคล่องให้กองทุนน้ำมันฯ เพราะนับเป็นการดำเนินการตามนโยบายภาครัฐ
ทั้งนี้ ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2565 กบน. ได้พิจารณาปรับราคาน้ำมันดีเซลครั้งแรกมีผลตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2565 เป็นต้นมา โดยปรับขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 32 บาทต่อลิตร และจะทยอยปรับขึ้นลงตามสถานการณ์เป็นรายสัปดาห์ โดยสัปดาห์ที่แล้ว (30 พ.ค.) ได้ปรับเพิ่มขึ้นอีกครั้งเป็น 33 บาทต่อลิตร รวมทั้งภาครัฐยังมีมาตรการด้านภาษี โดยขยายการลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลรอบที่ 2 ปรับลดอัตราภาษีลง 5 บาทต่อลิตร ตั้งแต่วันที่ 21 พฤษภาคม ถึง 20 กรกฎาคม 2565 ทั้งนี้ อัตราภาษีที่ลดลง 5 บาทต่อลิตร คิดเป็นฐานภาษีที่ลดจริงสำหรับดีเซล B5 อยู่ที่ 4.65 บาทต่อลิตร และการลดภาษีนี้ไม่ได้ลดราคาหน้าสถานีน้ำมันทันที เพราะต้องนำมาช่วยกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงพยุงราคาดีเซลให้อยู่ในราคาที่เหมาะสมได้ยาวนานยิ่งขึ้น.-สำนักข่าวไทย
