กรุงเทพฯ 3 มิ.ย. – ผู้บริหารบริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด (รฟฟท.) ผู้ให้บริการรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง ยอมรับปัจจัยการเปิดประเทศ มีผลช่วยยอดผู้โดยสารพุ่ง หลังสถานีดอนเมืองที่เชื่อมต่อสนามบิน มีผู้ใช้เพิ่มสูง มียอดเดินทางรองจากสถานีกลางบางซื่อแล้ว ลุ้นปีนี้มีผู้โดยสาร 25,000-30,000 คน/วัน
นายสุเทพ พันธุ์เพ็ง กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด (รฟฟท.) ผู้ให้บริการรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง เปิดเผยผลการเปิดให้บริการเชิงพาณิชย์รถไฟฟ้าสายสีแดง ผ่านมา 6 เดือน พบว่าปริมาณผู้โดยสารรถไฟชานเมืองสายสีแดงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากในช่วงทดลองเดินรถวันละประมาณ 3,000 คน/วัน เมื่อมีการเปิดเชิงพาณิชย์ก็ขยับตัวเลขขึ้นมา 7,000 -8,000 คน/ วัน และปัจจุบันพบมียอดผู้โดยสารเดินทางสูงสุดต่อวัน หรือ New High เกิดขึ้นต่อเนื่อง ล่าสุดมีผู้โดยสารอยู่ที่ประมาณวันละ 13,000 คน/วัน มาจากการเดินหน้าปรับปรุงบริการและประชาสัมพันธ์ต่อเนื่อง และการเปิดภาคเรียน และหลังจากเดือนมิถุนายน 2565 เมื่อมีการผ่อนคลายเปิดประเทศมากขึ้นตามนโยบายของรัฐบาล ภายในปีนี้คาดหวังว่า รถไฟสายสีแดงจะมีผู้โดยสารเพิ่มขึ้นเป็น 25,000-30,000 คน/วัน
“ปัจจัยที่เห็นได้ชัดเจน คือ การเปลี่ยนแปลงจำนวนผู้ใช้บริการสูงสุดต่อวันในแต่ละสถานี คือ เมื่อก่อนมีการเปิดประเทศ สถานีบางซื่อจะมีผู้โดยสารมากที่สุด รองลงมาคือ รังสิต และดอนเมือง แต่ปัจจุบันสถานีดอนเมือง ที่มีการเชื่อมต่อกับท่าอากาศยานดอนเมือง ได้กลับมามีผู้โดยสารมากเป็นอันดับ 2 สอดคล้องกับจำนวนผู้โดยสารที่ใช้บริการท่าอากาศยานดอนเมือง ที่กลับมามีผู้โดยสารมากกว่าวันละ 40,000 คนแล้ว” นายสุเทพ กล่าว
นอกจากนี้ รถไฟสายสีแดงยังให้ความสำคัญกับการเดินรถที่ตรงต่อเวลาตามมาตรฐานสากล โดยสถิติในรอบ 6 เดือนที่ผ่านมา พบว่า สถิติความตรงต่อเวลาสายสีแดงตั้งแต่เปิดให้บริการ อยู่ที่ 99.96% และความน่าเชื่อถือของขบวนรถ วัดจากการมีขบวนรถครบตามจำนวนเที่ยวแต่ละวัน อยู่ 99.70% ในรอบ 6 เดือนที่ผ่านมา สูงกว่ามาตรฐานสากลที่ 98.50% ตามที่กรมการขนส่งทางรางกำหนดไว้. – สำนักข่าวไทย