DITP+GIT ขับเคลื่อนงาน Bangkok Gems and Jewelry Fair

นนทบุรี 27 พ.ค.-พาณิชย์โชว์ความพร้อมผนึกกำลัง DITP + GIT ขับเคลื่อนงาน Bangkok Gems and Jewelry Fair อย่างยิ่งใหญ่ ตอกย้ำการเป็นศูนย์กลางการค้าอัญมณีและเครื่องประดับโลก คาดยอดเจรจาธุรกิจไม่ต่ำกว่า 570 ล้านบาท โอกาสนี้ DITP พร้อมลงนาม MOU ร่วมกับ GIT เพื่อร่วมมือส่งเสริมการจัดงาน BGJF อย่างเต็มรูปแบบ หลังเว้นการจัดงานเกือบ 2 ปี เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19


นายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์ โดยกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) ได้เตรียมความพร้อมจัดงานแสดงสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับ หรือ Bangkok Gems and Jewelry Fair (BGJF) ในรูปแบบ BGJF Virtual Trade Fair 2022 ระหว่างวันที่ 13–17 มิถุนายน 2565 ซึ่งเป็นการนำร่องการจัดงานในรูปแบบออนไลน์ เพื่อกระตุ้นการส่งออกสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับ เพื่อผลักดันการส่งออกสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับเชิงรุกในทุกมิติ ก่อนที่จะจัดงาน BGJF ครั้งที่ 67 อย่างเต็มรูปแบบ ในวันที่ 7-11 กันยายน 2565 ซึ่งถือเป็นครั้งแรก หลังจากไม่สามารถจัดงานได้เกือบ 2 ปี จากผลกระทบโควิด-19

สำหรับการจัดงาน BGJF Virtual Trade Fair 2022 ระหว่างวันที่ 13–17 มิถุนายน 2565 นี้ จะจัดผ่านแพลตฟอร์มwww.bgjf-vtf.com ประกอบด้วย 3 กิจกรรมหลัก ได้แก่ 1) การจัดหน้าร้านค้าของผู้ประกอบการ (Virtual Store) ซึ่งเปิดโอกาสให้ผู้ซื้อและผู้นำเข้าที่สนใจสามารถเข้าชมสินค้าผ่านทางออนไลน์ โดยมีผู้ประกอบการทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ เข้าร่วมกว่า 300 บริษัท 2) การจับคู่เจรจาธุรกิจออนไลน์ (Online Business Matching) ผ่านการแชตทางโทรศัพท์ หรือผ่าน VDO Conference ด้วยระบบที่มีความปลอดภัยสูงตลอดช่วงการจัดงานทั้งนี้ ผู้ซื้อผู้นำเข้าที่สนใจสามารถทำการนัดหมาย เพื่อเจรจาการค้าผ่านเว็บไซต์ของงานด้วยตนเอง หรือผ่านสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ทั่วโลก โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ และ 3) การจัดกิจกรรมพิเศษ เช่น พิธีเปิดตัวโครงการในรูปแบบออนไลน์ในวันที่ 13 มิถุนายน 2565 การสัมมนาออนไลน์ในหัวข้อเกี่ยวกับ อุตสาหกรรมสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับเพื่อให้ผู้ประกอบการได้เรียนรู้แนวโน้มตลาด รับฟังข้อคิดเห็นจากผู้เชี่ยวชาญในวงการอัญมณีและเครื่องประดับ รวมทั้งสร้างเครือข่ายภายในแพลตฟอร์มระหว่างที่มีการเจรจาการค้าแบบเรียลไทม์


ทั้งนี้ คาดว่าในช่วงการจัดงาน จะมีผู้ซื้อ ผู้นำเข้า จากภูมิภาคต่างๆ อาทิ ยุโรป แอฟริกา เอเชีย โอเชียเนียตะวันออกกลาง อเมริกาเหนือ อเมริกาใต้ มาร่วมในการเจรจาธุรกิจกับผู้ประกอบการไทย ซึ่งจะก่อให้เกิดการจับคู่ธุรกิจออนไลน์ไม่น้อยกว่า 400 คู่ และเกิดมูลค่าการสั่งซื้อไม่น้อยกว่า 570 ล้านบาทพร้อมกันนี้ ยังได้จัดพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ระหว่าง กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กับ สถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ GIT เพื่อร่วมจัดงาน BGJF กำหนดแนวคิดและวิสัยทัศน์หลักในการจัดงาน BGJF สร้างภาพลักษณ์และประชาสัมพันธ์งาน BGJF ให้เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยใช้เครือข่ายที่แต่ละหน่วยงานมีอยู่ในการขับเคลื่อน

“ความร่วมมือในครั้งนี้ จะทำให้การบริหารจัดการงานแสดงสินค้า BGJF มีประสิทธิภาพ และเกิดความคล่องตัวมากยิ่งขึ้น สามารถใช้ประโยชน์จากจุดเด่น เครือข่าย และพันธมิตรของแต่ละหน่วยงานที่มีอยู่ในการประชาสัมพันธ์ เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย เกิดความร่วมมือและสร้างเครือข่ายที่กว้างขวางมากขึ้น สร้างภาพลักษณ์อุตสาหกรรมที่มีมาตรฐานและเป็นสากลมากยิ่งขึ้น ซึ่งจะเป็นแรงสำคัญที่จะช่วยผลักดันให้ประเทศไทยสามารถก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางการค้าอัญมณีและเครื่องประดับโลกตามยุทธศาสตร์ชาติได้สำเร็จ” นายบุณยฤทธิ์กล่าว

สำหรับการจัดงาน BGJF ครั้งที่ 67 ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 11-17 กันยายน 2565 ที่อิมแพค เมืองทองธานี กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ได้เตรียมความพร้อมไว้แล้วเช่นเดียวกัน โดยถือเป็นการจัดงานเต็มรูปแบบครั้งแรกในรอบเกือบ 2 ปี หลังจากที่ประสบปัญหาจากสถานการณ์โควิด-19 โดยปัจจุบันได้รับการตอบรับจากผู้ประกอบการทั้งไทยและต่างประเทศเข้าร่วมการจัดงานแล้วกว่า 700 ราย และได้รับการตอบรับจากผู้ซื้อ ผู้นำเข้า ที่จะเดินทางมาร่วมงานกว่า 10,000 ราย โดยคาดว่า จะมีมูลค่าการสั่งซื้อทันทีและภายในงานไม่ต่ำกว่า 1,200 ล้านบาท ดังนั้น การจัดงาน BGJF ทั้งในรูปแบบ BGJF Virtual Trade Fair 2022 และรูปแบบออฟไลน์เต็มรูปแบบ จะช่วยส่งเสริมการส่งออกสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับของไทยได้เพิ่มขึ้น และมั่นใจว่าเป้าหมายการส่งออกสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับในปี 2565 ที่ตั้งไว้ที่มูลค่า 233,647 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20% จะทำได้ตามเป้าหมาย.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ธปท.ย้ำเร่งปลดล็อกบัญชีผู้บริสุทธิ์ ทำให้ร้านค้ามั่นใจ

กรุงเทพฯ 15 ก.ย. – ธปท. ย้ำทุกหน่วยงานร่วมกำหนดเงื่อนไขปลดล็อกบัญชีไม่มีเอี่ยวบัญชีม้า สิ้นเดือน ก.ย.นี้ เพื่อให้ร้านค้ามั่นใจรับโอนเงินซื้อสินค้า นางสาวดารณี แซ่จู ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับระบบชำระเงินฯ ธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวว่า จากปัญหาชาวบ้านถูกระงับธุรกรรมและระงับวงเงิน แต่ไม่ได้ระงับเงินในบัญชีในช่วงเดือนกันยายน 68 ตรวจพบบัญชีต้องสงสัยเฉลี่ย 10,000 บัญชี/สัปดาห์ ยอมรับว่าการคุมเข้มในช่วงที่ผ่านมา เพื่อต้องการกวาดเอาเส้นทางบัญชีที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบ ทั้งโอนเงินผ่าน e-money และคริบโตฯ ทำให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์ได้รับผลกระทบในบางส่วน ในการทำธุรกรรมทางการเงิน ธปท. จึงเร่งหารือกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกำหนดเงื่อนไขร่วมกันให้เสร็จภายในสิ้นเดือน ก.ย.นี้ “ธปท., ธนาคาร, ตำรวจ ศปอท. พร้อมปลดล็อกให้กับผู้บริสุทธิ์ มุ่งเน้นบัญชีจำนวนไม่มาก เช่นวงเงิน 100-500 บาท หรือร้านค้า ที่มีการซื้อของมาประกอบอาหารหรือสินค้าในร้านเป็นประจำในยอดที่ไม่สูงมากนัก กลุ่มเหล่านี้จะเร่งตรวจสอบ เพื่อแจ้งข้อมูลให้ลูกค้าบัญชีรับทราบ พร้อมทำอย่างรวดเร็ว และมุ่งทำความเข้าใจกับร้านค้า ให้เกิดความเชื่อมั่น และรับเงินโอนจากลูกค้า เพราะที่ผ่านมายอดปฏิเสธรับโอนเงินไม่สูงมากนัก หากตรวจสอบเสร็จแล้วคาดว่าใช้เวลา 2-3 ชั่วโมง ถึง 1 […]

ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ”

กทม. 15 ก.ย.-ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ” หลังครบ 5 วันกักโรค และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติเข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความส่วนตัวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทำเรื่องขอเข้าเยี่ยมนายทักษิณ ที่เรือนจำกลางคลองเปรม หลังครบ 5 วัน การกักตัวเฝ้าระวังโรคโควิด-19 และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติตามรายชื่อ 10 คน และทนายความ เข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก โดยก่อนหน้านี้ พันตำรวจโท เชน กาญจนาปัจจ์ โฆษกกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่าอาการของนายทักษิณ โดยรวมดีขึ้น ความดันสูงก่อนหน้านี้ลงมาอยู่ในเกณฑ์ปกติ ซึ่งการเข้าเยี่ยมจะเป็นการพูดคุยผ่านกระจกใส เพื่อความปลอดภัย ล่าสุด ครอบครัวชินวัตรเดินทางมาถึงเรือนจำคลองเปรมแล้ว นำโดยคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์, น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ ลูกสาวคนโต และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี.-สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุม เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน

บช.ก. 15 ก.ย. – “บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุมธานี เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน ฝากให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหาย พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกระแสข่าวพระวัดดังจังหวัดปทุมธานี ที่มีความเกี่ยวข้องกับเงินวัดจำนวน 12.2 ล้านบาท ที่โอนเข้าบัญชีสีการายหนึ่ง ว่า เรื่องนี้ทราบว่ามีคนแจ้งความและเป็นคดีความอยู่ที่กองบังคับการปราบปรามแล้ว ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการดำเนินการตรวจสอบ และได้ข้อมูลที่น่าสนใจมากพอสมควร ซึ่งสีกาคนดังกล่าวจะเกี่ยวข้องกับสีกาที่ทางตำรวจเพ่งเล็งอยู่หรือไม่จะต้องตรวจสอบในประเด็นนี้ด้วย แต่คดีนี้หลักๆ จะดูที่เส้นทางการเงินของบัญชีวัด หากพบใครเกี่ยวข้องก็จะต้องดำเนินการ ส่วนกรณีที่ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช ประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรม นำหลักฐานออกมาโพสต์ผ่านโซเชียลนั้น ก็ถือว่ามีประโยชน์ต่อรูปคดี ส่วนจะเรียกเข้าสอบหรือไม่นั้นอยู่ระหว่างการพิจารณาของพนักงานสอบสวน ซึ่งคาดว่าอีกไม่นานเรื่องนี้จะชัดเจน มีรายงานว่าผู้ที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้พบว่ามี 8 คน รวมพระด้วยเป็น 9 คน จึงอยากฝากถึงพระว่า ให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหายเนื่องจากมีหลักฐานจำนวนมาก.-419-สำนักข่าวไทย

บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินแก๊งคอลเซ็นเตอร์

กทม. 16 ก.ย.-บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์เกือบ 5 ล้าน แต่ยายไม่ฟัง ไม่เชื่อว่าโดนหลอก ไล่ตำรวจกลับไป แถมโทรฟ้องมิจฉาชีพว่าตำรวจมากวน สุดท้ายเข้าแจ้งความแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.พระโขนง ตะโกนคุยกับคุณยายวัย 83 ปี ข้ามรั้วประตูบ้าน ว่า อย่าโอนเงินให้มิจฉาชีพอีก หลังธนาคารพบความผิดปกติ เนื่องจากคุณยายถอนเงินออกมาหลายล้านบาท จึงประสานงานไปที่ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ AOC 1441 ให้แจ้งมายังตำรวจนครบาล เพื่อตรวจสอบการโอนเงินของคุณยายโดยด่วน ปรากฏว่า เมื่อตำรวจมาถึงบ้าน คุณยายไม่เชื่อ แถมยังคุยโทรศัพท์กับตำรวจปลอมในมือถือตลอดเวลา แล้วไม่เชื่อว่า ตำรวจที่มาหน้าบ้านเป็นตำรวจจริง จนตำรวจตัวจริงอ่อนใจ ทำได้เพียงแค่ประสานงานผู้นำในชุมชนให้ช่วยดูแลคุณยาย และเตือนเรื่องนี้ ล่าสุดคุณยายมาแจ้งความแล้ว เมื่อวันที่ 13 กันยายน แต่ยังไม่ได้เงินคืน ข้อมูลของตำรวจพบว่า คุณยายโอนเงินไปทั้งหมด 5 ครั้งครั้งแรกวันที่ 3 กันยายน ฝากเงินสดเข้าบัญชีธนาคารแห่งหนึ่ง 3.5 ล้านบาทวันที่ 4 กันยายน โอนเงินสดไป 400,000 บาทวันที่ […]

ข่าวแนะนำ

รวบบัญชีม้ายกแก๊ง ตระเวนถอนเงินให้คอลเซ็นเตอร์จีนเทา

16 ก.ย. – จับยกแก๊งบัญชีม้า 7 คน ตระเวนถอนเงินให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์จีนเทา ยึดเงินสดกว่า 5 แสนบาท สารภาพได้ค่าจ้างล้านละ 7,000 บาท เงินที่หลอกผู้เสียหายถูกถ่ายโอนไปยังแก๊งคอลเซ็นเตอร์นอกประเทศแล้วไม่ต่ำกว่า 40 ล้านบาท นายเอกชัย เจ้าของบัญชีม้า พร้อมหญิงสาวทำหน้าที่ประสานงานถอนเงิน ถูกตำรวจภูธรภาค 5 จับกุมได้บริเวณหน้าธนาคารแห่งหนึ่งใน อ.เวียงหนองล่อง จ.ลำพูน ก่อนขยายผลจับกุมนายศรัณย์พงศ์ และนางสาวนันท์ธนัษฐ์ 2 คนไทย ทำหน้าที่ควบคุมเจ้าของบัญชีม้า และผู้ร่วมขบวนการอีก 3 คน ที่นั่งรอในรถกระบะ นายคิโอ ชาวลาว หัวหน้าแก๊งที่ถอนเงินให้จีนเทาเครือข่ายคิงส์โรมันฝั่งลาว พร้อมยึดของกลางเงินสดกว่า 5 แสนบาท สมุดบัญชีเงินฝากอีก 1 เล่ม กลุ่มผู้ต้องหามีพฤติการณ์วนเวียนถอนเงินสดจากธนาคารหลายแห่งใน จ.เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง ตำรวจแจ้งข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชน ร่วมกันทุจริต หลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ร่วมกันเป็นอั้งยี่ เตรียมรวบรวมหลักฐานขยายผลถึงบอสชาวจีน พล.ต.ท.กฤตธาพล ยี่สาคร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค […]

อัปเดตโผ ครม. ครบ 100% “โสภณ​” มีชื่อนั่งรอง​นายก​ฯ

กทม.16 ก.ย.- อัปเดตโผ ครม. ล่าสุด “โสภณ​ ​ซา​รัมย์​” ผงาดรอง​นายก​ฯ ขณะที่ รมต.สำนักนายกฯ มีถึง 4 เก้าอี้ ด้าน “มัลลิกา” โผล่นั่ง รมช.คมนาคม วันที่ 16 กันยายน 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่านายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ได้เซ็นส่งรายชื่อคณะรัฐมนตรี (ครม. ) ซึ่งคาดว่าสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี จะนำขึ้นทูลเกล้าฯ 36 รายชื่อ ดังนี้ โควตา​คนนอก​ พรรคกล้าธรรม พรรคพลังประชารัฐ กลุ่มสุชาติ กลุ่มการเมืองอื่น

ป่วนไม่เลิก! เขมรบุกทำลายรั้วลวดหนาม “บ้านหนองหญ้าแก้ว”

16 ก.ย.- เขมรป่วนไม่เลิก! บุกทำลายรั้วลวดหนาม บ้านหนองหญ้าแก้ว ทหารกัมพูชายืนประกบสังเกตการณ์ ขณะที่ชาวเน็ตแห่หนุนสร้างกำแพงกั้นถาวร วันที่ 16 ก.ย. 68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสังคมออนไลน์แห่แชร์ภาพคลิปวิดีโอ พร้อมข้อความโดยอ้างว่าเป็นภาพของชาวเขมรบุกทำลายรั้วลวดหนามของไทย บริเวณบ้านหนองหญ้าแก้ว ซึ่งเหตุการณ์เกิดในวันนี้ โดยมีชาวบ้านจากฝั่งกัมพูชาหลายคนเข้ามาใกล้แนวรั้วลวดหนาม พร้อมถือไม้และพยายามรื้อทำลาย ขณะที่ทหารกัมพูชายืนสังเกตการณ์อยู่รอบพื้นที่ ขณะที่ชาวเน็ตแห่แสดงความคิดเห็น สนับสนุนการสร้างกำแพงแทนรั้วลาดหนาม เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีก -313 .-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง ก่อนทูลเกล้าฯ ครม.

กทม 16 ก.ย.- “อนุทิน” สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง ไหว้ศาลหลักเมือง – วัดพระแก้ว ก่อนนำรายชื่อ ครม. ขึ้นทูลเกล้าฯ วันนี้ บอกเสร็จสิ้นภารกิจไปอีกเปราะ ขณะ “บิ๊กเล็ก” ว่าที่ รมว.กลาโหม รอรับ พลาดลื่นคะมำที่บันได นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เดินทางมายังศาลหลักเมือง หลังตรวจสอบรายชื่อคณะรัฐมนตรีที่สำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสร็จสิ้นแล้ว โดยมี พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม รอต้อนรับ โดยจุดแรก นายกรัฐมนตรีได้สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์บริเวณหอพระ ซึ่งระหว่างทางที่จะเดินขึ้นไปยังหอพระ พล.อ.ณัฐพล ที่เดินตามข้างหลัง ได้ลื่นล้มทั้งตัวหน้าบริเวณหน้าบันไดทางขึ้นหอพระ คาดว่าเป็นเพราะถุงเท้าทำให้ลื่น แต่ พล.อ.ณัฐพล ได้ลุกอย่างรวดเร็ว และไม่ได้รับบาดเจ็บอะไร ขณะที่ผู้เห็นเหตุการณ์ร้องอุทานด้วยความตกใจ ต่อมา นายอนุทิน ได้ผูกผ้าแพร 3 สี ถัดจากนั้นได้ถวายพวงมาลัยศาลหลักเมือง และสักการะศาลเทพารักษ์ทั้ง 5 พร้อมเติมน้ำมันตะเกียงพระประจำวันเกิด ขณะที่ประชาชนที่มาสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ศาลหลักเมือง ต่างตะโกนให้กำลังใจนายอนุทิน “นายกฯ สู้ๆ” ก่อนที่นายอนุทินจะหันไปยกมือไหว้ขอบคุณ […]