กรุงเทพฯ 24 พ.ค. – กรมอุทยานแห่งชาติฯ เพิ่มความเข้มงวดการตรวจสุขภาพสัตว์ที่ด่านตรวจสัตว์ป่าทุกแห่งเพื่อเฝ้าระวังและป้องกันการแพร่ระบาดโรคฝีดาษลิง พร้อมประสานกรมปศุสัตว์เพิ่มการตรวจโรคฝีดาษลิง ประสานผู้ประกอบการให้ชะลอการนำเข้าสัตว์ป่าที่จะนำเข้ามาจากประเทศในกลุ่มแอฟริกาเพื่อรอรับฟังมาตรการเพิ่มเติม ย้ำเจ้าหน้าที่ประจำด่านตรวจสัตว์ป่าเพิ่มความระมัดระวังตนเองระหว่างปฏิบัติงาน
นายประเสริฐ สอนสถาพรกุล ผู้อำนวยการกองคุ้มครองพันธุ์สัตว์ป่าและพืชป่าตามอนุสัญญา (Cites) กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืชเป็นประธานการประชุมหารือแนวทางการปฏิบัติงานกรณีโรคฝีดาษลิง โดยมีนายสัตวแพทย์ภัทรพล มณีอ่อน นายสัตว์แพทย์หัวหน้ากลุ่มงานจัดการสุขภาพสัตว์ป่า นายสธน คงเงิน หัวหน้าด่านตรวจสัตว์ป่าท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ นายแพทย์ พัฒน์พงษ์ ไชยนิคม รองผู้อำนวยการฝ่ายการแพทย์ บริษัท ท่าอากาศยานไทยจำกัด (มหาชน) แพทย์หญิง ตุลยา ดิเรกวุฒิกุล หัวหน้าด่านควบคุมโรคท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ สพ.ญ.ณัฐกานต์ คุรุพันธ์ ด่านกักกันสัตว์ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
นายประเสริฐกล่าวว่า กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืชในฐานะหน่วยงานที่ควบคุมและตรวจสอบการส่งออกนำเข้า หรือนำส่งต่อเพื่อการค้าซึ่งชนิดพันธุ์ของสัตว์ป่าที่ระบุไว้ในบัญชี หมายเลข 1 หมายเลข 2 และหมายเลข 3 ของอนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศซึ่งชนิดสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้ สูญพันธุ์ (CITES) เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมเพื่อร่วมกันเพื่อหาแนวทางการป้องกันโรคฝีดาษลิงซึ่งประชาชนสนใจและเป็นกังวล
นายสัตวแพทย์ ภัทรพล มณีอ่อนกล่าวว่า ประเทศไทยยังไม่มีรายงานผู้ป่วยโรคฝีดาษลิง อย่างไรก็ตามกรมอุทยานฯมีแผนดำเนินการสำรวจและเฝ้าระวังเชิงรุก ที่ผ่านมามีการสำรวจและเฝ้าระวังโรคในลิงหลายพื้นที่อย่างต่อเนื่อง แต่เมื่อเกิดกรณีดังกล่าว กรมจะเพิ่มโรคฝีดาษลิงในชื่อของโรคที่เฝ้าระวังเพิ่มขึ้นอีกด้วย ขณะเดียวกันจะมีการดำเนินการตรวจสอบประวัติลิงในพื้นที่เสี่ยงว่า ลิงเหล่านี้มีสุขภาพเป็นอย่างไร
สำหรับสิ่งสำคัญในตอนนี้คือ ความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ทำงานด้านสัตว์ป่า โดยเฉพาะผู้ปฏิบัติงานในด่านตรวจสัตว์ป่าซึ่งต้องเพิ่มความเข้มงวดและความปลอดภัยในการปฏิบัติงาน โดยสวมถุงมือในการทำงาน อาจสวมรองเท้าบูท การดูแล สุขภาวะ สุขอนามัยในพื้นที่ให้มีความสะอาดอยู่เสมอเนื่องจากเนื่องจากโรคนี้ติดต่อจากสารคัดหลั่ง
สำหรับประชาชนที่มีความกังวลใจ ขอให้ติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิดและควรระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการสัมผัสสัตว์พาหะได้แก่ สัตว์ฟันแทะ เช่น หนู กระรอก และสัตว์ตระกูลไพรเมตเช่น ลิง หากมีการสัมผัสสัตว์ให้รีบล้างมือด้วยสบู่และน้ำสะอาด ให้สังเกตอาการ หากพบมีความผิดปกติ เช่น มีไข้ มีตุ่มผื่นที่ใบหน้า แขน และขา ให้รีบพบแพทย์ทันที
ทั้งนี้ที่ประชุมได้พิจารณาแนวทางการปฏิบัติงาน โดยจะเข้มงวดการตรวจสุขภาพสัตว์ป่าที่นำเข้ามาในประเทศ รวมถึงเสนอผู้บริหารของกรมปศุสัตว์ให้พิจารณาเพิ่มการตรวจโรคฝีดาษลิง สำหรับสัตว์ป่าที่จะนำเข้ามาจากประเทศในกลุ่มแอฟริกา ด่านตรวจสัตว์ป่าได้ประสานผู้ประกอบการให้ชะลอการนำเข้าเพื่อรอรับฟังมาตรการเพิ่มเติม ส่วนสัตว์ป่าที่นำเข้าจากประเทศในกลุ่มแอฟริกา ในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่าจะประสานขอข้อมูลเพื่อติดต่อผู้ประกอบการ ในการสำรวจข้อมูลการเฝ้าระวังในสัตว์ป่าที่มีการนำเข้ามาแล้วต่อไป ทั้งนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ ประสานงานและดำเนินการภายใต้แนวคิดสุขภาพหนึ่งเดียว สุดท้ายได้เน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานโดยเฉพาะผู้ที่ต้องสัมผัสสัตว์ป่านำเข้าจากต่างประเทศมีความเข้มงวดในการป้องกันการติดเชื้อโรคสัตว์สู่คนโดยให้เข้มงวดในการใช้อุปกรณ์ป้องกันตัวเอง และนำระบบความปลอดภัยทางชีวภาพ (biosecurity) มาปรับใช้ในการปฏิบัติงานและมาตรการให้เหมาะสม.-สำนักข่าวไทย