กรมธนารักษ์ 23 พ.ค.- ดีเอสไอ เสนอตรวจสอบการเสียภาษีอีสท์ วอเตอร์ตลอด 25 ปี ขณะที่กรมธนารักษ์ รอ อาคมสั่งการหลังสรุปผลตรวจสอบข้อเท็จจริง
นายประภาส คงเอียด อธิบดีกรมธนารักษ์ เปิดเผยระหว่างการร่วมงานวันสถาปณากรมธนารักษ์ 89 ปี ว่า คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง สรุปผลการตรวจสอบการบริหารจัดการน้ำในภาคตะวันออกเรียบร้อยแล้ว กรณีปัญหาการเปิดประมูลท่อส่งน้ำในเขตอีอีซี คณะกรรมการจึงนำเสนอให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังพิจารณา ในส่วนของกรมธนารักษ์ ต้องรอผล รัฐมนตรี จะสั่งการให้ดำเนินการอย่างไร เมื่อรัฐมนตรีคลังมีคำสั่งมาแล้ว จะนำมาพิจารณาตามคำสั่งในการเดินหน้าลงนามสัญญากับภาคเอกชนชนะการประมูล หลังได้ชะลอการลงนามในช่วงที่ผ่านมา หรือว่าจะให้ชะลอการลงนามสัญญา
นอกจากนี้ DSI ส่งหนังสือมายังกรมธนารักษ์ เสนอให้ทำการตรวจสอบการเสียภาษีเงินได้นิติบุคคล ของบริษัทอีสท์วอเตอร์ ถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ เนื่องจากมีผู้ร้องเรียนมายัง DSI เพราะอาจส่งผลไปยังการนำส่งรายได้ค่าธรรมเนียมรายปีจากการสัมปทาน จากท่อส่งน้ำดอกกราย ท่อส่งน้ำหนองปลาไหล-หนองค้อ และท่อส่งน้ำหนองค้อ-แหล่มฉะบัง ได้นำส่งผลประโยชน์ตอบแทนให้กรมธนารักษ์ตลอด 25 ปีที่ผ่านมา ประมาณ 600 ล้านบาท หากเสียภาษีไม่ถูกต้อง อาจคำนวณรายได้ผลประโยชน์ไม่ครบถ้วนตามไปด้วย เนื่องจากการวางระบบท่อผ่านที่ราชพัสดุ และการติดมิเตอร์ส่งน้ำเป็นอย่างไรบ้าง
นายประภาศ กล่าวเพิ่มเติมว่า กรณีสังคมตั้งข้อสงสัยกรณีการเปิดประมูลท่อส่งน้ำ ต้องการให้ดูข้อมูลความจริงเพราะในเรื่องนี้มีหลายหน่วยงานเข้าร่วมตรวจสอบ ทั้ง ปปช. สตง. ขณะที่ดีเอสไอ ยังขอตรวจสอบเรื่องการเสียภาษีโดยกรมธนารักษ์ พร้อมชี้แจงข้อมูลกับทุกหน่วยงาน โดยต้องทำให้เคลียร์เรื่องการคัดเลือกเอกชนผู้บริหารโครงการ ถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ ส่วนประเด็นอื่น เรื่องศักยภาพท่อส่งน้ำ การนำส่งรายได้ประจำ ปี ต้องพิจารณาเพิ่มเติมให้ครบถ้วน ยอมรับว่า ศาลปกครองกลางยกคำร้องขอคำสั่งคุ้มครองมาแล้วถึง 3 ครั้ง ขั้นตอนต่อไปจึงไม่จำเป็นต้องรอเงื่อนไขอื่นๆ เพิ่มเติม เพราะไม่มีข้อกำหนดให้รอคำพิพากษา หากเจ้าหน้าที่ละเว้นปฏิบัติหน้าที่ อาจเข้าข่ายมีความผิดทางละเมิด ความผิดทางอาญา เมื่อเรื่องนี้กลายเป็นประเด็นทางการเมือง กรมธนารักษ์พร้อมชี้แจงกับทุกฝ่ายให้ชัดเจน .-สำนักข่าวไทย