“ศักดิ์สยาม” เร่งพัฒนาการขนส่งทางน้ำ

กรุงเทพฯ 19 พ.ค.- รมว.คมนาคม เผยกำลังเร่งพัฒนาการขนส่งทางน้ำและมุ่งสู่การเป็นศูนย์กลางโลจิสติกส์ของภูมิภาค


นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังเป็นประธานในพิธีทำบุญวันคล้ายวันสถาปนาการท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) ครบรอบ 71 ปี ว่า ตลอดระยะเวลา 70 ปีที่ผ่านมา กทท. ได้พัฒนาธุรกิจให้สอดรับกับนโยบายของรัฐบาลและความต้องการของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย รวมทั้งดำเนินโครงการและกิจกรรมสาธารณประโยชน์แก่สังคมมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่ง กทท. ต้องเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงและความท้าทายต่าง ๆ โดยเฉพาะารแพร่ระบาดของโควิด-19 ซึ่งผู้บริหารและพนักงาน กทท. ได้ร่วมกันปฏิบัติงานด้วยความมุ่งมั่นจนทำให้ผ่านพ้นวิกฤติดังกล่าวมาได้โดยตลอด และกทท.เป็น 1 ใน 10 รัฐวิสาหกิจชั้นนำของไทย  ที่สามารถทำรายได้เข้าประเทศสูงสุด ซึ่งตนได้ให้นโยบาย ในการเตรียมรับสิ่งที่พลเอกประยุทธ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีได้วางแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีไว้ ประกอบด้วย การรักษาประสิทธิภาพการบริหาร ที่ต้องนำระบบเทคโนโลยีที่ทันสมัย คือระบบ Port Automation มาใช้ รวมถึงได้มอบนโยบายการเตรียมความพร้อมรองรับโครงการระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรือ EEC ซึ่งจะแล้วเสร็จในปี 2568 การท่าเรือมีภารกิจในเรื่องของแหลมฉบัง และอาจจะต้องไปช่วยมาบตาพุด ซึ่งสิ่งเหล่านี้ต้องเตรียมการทั้ง การศึกษา บุคลาการ เทคโนโลยี เพื่อเพิ่มความสามารถเป็นเท่าตัว นอกจากนั้น ขณะนี้รัฐบาล ได้มอบนโยบายให้กระทรวงคมนาคมศึกษาโครงการเชื่อมโยงโลจิสติก เชื่อมโยงการขนส่งระหว่างอ่าวไทยและอันดามัน (แลนด์บริดจ์) ซึ่งเป็นภารกิจที่การท่าเรือต้องเข้าไปดู  โดยเฉพาะ business model ทั้งในรูปแบบการร่วมลงทุน และสนับสนุนภาคเอกชน เพราะสิ่งเหล่านี้จะเป็นประตูทำให้แหลมฉบัง EEC เป็นประตูขนส่งทางน้ำ ที่สามารถย่นระยะเวลาเดินทางโดยไม่ต้องอ้อมไปมะละกา เพื่อลดต้นทุนการขนส่ง

ขณะนี้โครงการแลนด์บริจ ระนอง-ชุมพรที่กระทรวงกำลังศึกษาอยู่ เบื้องต้นในเฟสที่1 เป็นไลน์ที่รองรับโลจิสติกที่เคยผ่านมะละกา ออกมาได้ 10-20% หมายถึงปัจจุบันมีเรือแล่นผ่านมะละกาประมาณ 9หมื่นลำต่อปีในอีก 10 ปีข้างหน้า คาดว่าจะมีประมาณ 1แสน 2 หมื่น 5 พันลำ ซึ่งจะก่อให้เกิดการจราจรทางน้ำที่ติดขัด เมื่อมีโครงการนี้ขึ้นมาเป็นทางเลือกให้บริษัทเดินเรือขนาดใหญ่มาใช้บริการ  เพื่อให้สามารถตอบโจทย์ผู้ใช้บริการสายการเดินเรือระดับโลกและพัฒนาธุรกิจต่อเนื่องหลังท่าให้ครบวงจร ดังนั้นเราจึงต้องเตรียมการ ทั้งการซ่อมบำรุง การจอด เรื่องอาหาร น้ำมัน ธุรกิจที่ต่อเนื่อง ดีมานด์ ซัพพลาย ต้องศึกษา ไม่ว่าจะทำเอง หรือร่วมกับเอกชน เพื่อให้ผลประโยชน์ตกสู่ประเทศไทยให้มากที่สุด  โดยคาดว่าจะมีเรือเข้ามาผ่านไม่น้อยกว่า 2หมื่นลำต่อปี ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนการขนส่งและโลจิสติกส์ และการสนับสนุนการส่งออก – นำเข้า เพื่อมุ่งสู่การเป็นศูนย์กลางโลจิสติกส์ทางน้ำของภูมิภาคอาเซียน.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สะพานยกระดับกำลังก่อสร้าง ถล่มทับด่วนระดับที่ 1 ตายแล้ว 5

สะพานยกระดับโครงการทางพิเศษพระราม 3-ดาวคะนอง ที่กำลังก่อสร้าง พังถล่มทับด่วนระดับที่ 1 เบื้องต้นเสียชีวิตแล้ว 5 ราย บาดเจ็บ 27 คน เร่งคนหาผู้สูญหาย พร้อมปิดทางขึ้น-ลง ทางพิเศษเฉลิมมหานครชั่วคราว

รัฐบาลเตรียมแผนถวายความสะดวกในหลวง-ราชินี เตรียมเสด็จฯ เยือนต่างประเทศ

รัฐบาลเตรียมแผนถวายความสะดวกในหลวง-ราชินี เตรียมเสด็จฯ เยือนต่างประเทศอย่างเป็นทางการ

อากาศเย็นหลงฤดู

กรมอุตุฯ เตือนอากาศเย็นหลงฤดู 16-20 มี.ค.นี้

กรมอุตุฯ เตือนอากาศเย็นหลงฤดู 16-20 มี.ค.นี้ อีสานลดฮวบ 5-8 องศาฯ ภาคอื่นๆ ลดลง 2-4 องศาฯ ส่งผลให้มีพายุฝนฟ้าคะนอง ลูกเห็บตก และอาจมีฟ้าผ่าบางพื้นที่

ข่าวแนะนำ

เปิดภาพความเสียหายคานถล่ม เร่งย้ายซากออก

เปิดภาพความเสียหายเหตุคานหนักกว่า 800 ตัน พังถล่มขณะก่อสร้างทางยกระดับพระราม 3-ดาวคะนอง เจ้าหน้าที่เร่งนำซากคานปูนและเหล็กออกมา สมาคมวิศวกรโครงสร้างฯ ลงพื้นที่หาสาเหตุ ด้านผู้ว่าฯ กทม. แสดงความเสียใจกับผู้เสียชีวิต ห่วงอาการคนเจ็บ

วีซ่าไทย

“ทูตรัศม์” ยันในแง่มนุษยธรรม รัฐบาลไทยตัดสินใจถูกต้องแล้ว

“ทูตรัศม์” บอกคอมเมนต์เป็นเอกฉันท์ เรื่องสิทธิมนุษยชน หลังสหรัฐฯ ออกมาตรการวีซ่ากับไทย ยืนยันในแง่มนุษยธรรม รัฐบาลไทยตัดสินใจถูกต้องแล้ว

Ciudad Juarez gets a rosy view of a rare total lunar eclipse

แห่ชมจันทรุปราคาสีเลือด

เม็กซิโกซิตี 15 มี.ค.- เมื่อช่วงค่ำคืนที่ผ่านมา ผู้คนในหลายประเทศมีโอกาสได้รับชมปรากฎการณ์จันทรุปราคาเต็มดวงที่ทำให้พระจันทร์กลายเป็นสีแดงเข้ม และเป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่เกิดขึ้นไม่บ่อยครั้ง ลาตินอเมริกาเป็นภูมิภาคหนึ่งที่สามารถรับชมจันทรุปราคาเต็มดวงได้ในเมืองใหญ่ของหลายประเทศ  โดยที่กรุงการากัส ของเวเนซุเอลา และกรุงโบโกตาของโคลอมเบีย มีผู้คนจำนวนมากให้ความสนใจมาร่วมชมปรากฎการณ์นี้ที่ท้องฟ้าจำลองของทั้ง 2 ประเทศได้จัดกิจกรรมรับชมจันทรุปราคาขึ้น ส่วนที่เม็กซิโก ผู้คนสามารถรับชมได้ตั้งแต่กรุงเม็กซิโกซิตี้ขึ้นไปถึงเมืองซิวดัดฮัวเรซทางภาคเหนือ โดยภาพของดวงจันทร์เมื่อคืนที่ผ่านมาปรากฎให้เห็นเป็นสีแดงเข้ม หรือที่เรียกกันว่าพระจันทร์สีเลือด  ข้อมูลขององค์การบริหารหารบินและอวกาศแห่งชาติหรือนาซาระบุว่า จันทรุปราคาเต็มดวงครั้งนี้กินเวลาทั้งหมด 66 นาที เกิดขึ้นเป็นครั้งแรกในภูมิภาคลาตินอเมริกานับจากปี 2565 นอกจากนี้ยังมีอีกหลายทวีปที่สามารถมองเห็นจันทรุปราคาเต็มดวงครั้งนี้ได้เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นอเมริกาเหนือ บางส่วนของแอฟริกา และยุโรป ออสเตรเลียและญี่ปุ่น  ขณะที่บางพื้นที่จะมองเห็นจันทรุปราคาแบบไม่เต็มดวง.-816(814).-สำนักข่าวไทย