ตลาดไท 15 พ.ค. – รมว.พาณิชย์ มั่นใจปีนี้ผลไม้ไทยรอด ไม่ล้นตลาด ชาวสวนได้ราคาดี ผู้บริโภคอาจซื้อแพงนิด เตรียมมาตรการทั้งเชิงรุกและลึกไว้แล้ว พร้อมจัดรถโมบายส่งตรงถึงหน้าบ้าน กว่า 7,000 ตัน ตั้งแต่วันที่ 16 พ.ค.-4 มิ.ย.นี้ ส่วนเรื่องราคาน้ำมันปาล์มขวดจะพยายามดูแลให้อยู่ขวดละ 65-68 บาท ให้นานที่สุด
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวภายหลังเป็นประธานเปิดงาน “พาณิชย์ Fruit Festival 2022” @ตลาดไท ว่า กระทรวงพาณิชย์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เตรียมแนวทางรองรับฤดูกาลผลผลิตผลไม้ไทยที่จะออกสู่ตลาดไว้พร้อมหมดแล้ว ซึ่งทุกแนวทางจะเป็นแนวทางเชิงรุกและลึก เพื่อให้ผลไม้นานาชนิดของไทยปีนี้ไม่ล้นตลาดและมีราคาดี โดยเกษตรกรชาวสวนจะขายได้ราคาสูง แต่ทำให้ผู้บริโภคจะซื้อผลไม้ปีนี้แพงกว่าเดิมเล็กน้อย เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนผลไม้ให้สามารถขายผลไม้มีราคา และปลูกผลผลิตให้คนไทยและชาวต่างชาติได้กินผลไม้ไทยต่อไปได้อย่างยั่งยืน
อย่างไรก็ตาม ปีนี้ผลไม้มีมากกว่าปีที่แล้ว 11% ดังนั้น กระทรวงพาณิชย์ได้เตรียมการระบายผลไม้ คือ กำหนดมาตรการเชิงรุก 17+1 มาตรการ และกำหนดรายละเอียดตั้งแต่ต้น นอกจากมาตรการเชิงรุกแล้ว ปีนี้ได้มอบเป็นนโยบายให้ใช้มาตรการเชิงลึกด้วย เพื่อดูแลตลาดผลไม้ไทยให้ราบรื่นที่สุด ซึ่งตลาดมี 2 ส่วน คือ 1. ตลาดในประเทศ คิดเป็น 45% ของผลผลิตทั้งหมด และตลาดต่างประเทศ คิดเป็น 55% ซึ่งต้องดำเนินการทั้งมาตรการเชิงลึกและเชิงรุก ควบคู่กันไป
สำหรับตลาดส่งออก ไปจีนถึง 90% จีนจึงเป็นตลาดที่มีความสำคัญที่สุด ได้มีการประชุมร่วมกับทุกฝ่าย ทั้งส่วนราชการ ภาคเอกชน ล้ง ผู้ส่งออก เกษตรกร และส่วนราชการอื่นๆ หลายรอบ ล่าสุดเตรียมการปรับระบบโลจิสติกส์ จากปกติส่งออกผลไม้ไปจีนโดยเส้นทางทางบก 48% เหลือ 10.5% และเพิ่มทางเรือมากขึ้นจากปีที่แล้ว 52% เป็น 83% และทางอากาศจากปีที่แล้ว 0.5% ปีนี้เพิ่มเป็น 6.5-7% เตรียมไฟลต์รองรับเสร็จแล้ว ซึ่งถือว่าดีที่สุดยุคหนึ่ง คิดว่าส่งออกปีนี้จะเพิ่มมูลค่ามหาศาล ปีที่แล้วส่งออกไปจีนนำเงินเข้าประเทศ 160,000 ล้านบาท ปีนี้จะเพิ่มอีก 20% เป็น 190,000 ล้านบาท เฉพาะไปประเทศจีน
ขณะที่ตลาดในประเทศ ได้จัดทำพาณิชย์ Fruit Festival 2022 ที่ร่วมกับห้างสรรพสินค้าไปบ้างแล้ว และวันนี้ได้ร่วมกับตลาดไท ระบายผลไม้ไปตลาดในประเทศไม่ต่ำกว่า 7,000 ตัน โดยระบายผ่านรถขายผลไม้ 5,000 ตัน และที่ตลาดไท ขายปลีกในราคาขายส่งอีก 2,000 ตัน โดยจัดโปรโมชันเพื่อดึงคนมาซื้อผลไม้ไทยไปบริโภค โดยมีคูปองส่วนลดทุเรียน 50 บาท/ใบ และคูปองทุเรียนซื้อ 1 แถม 1 คิดเป็นมูลค่า 500,000 บาท และยังจัดจุดจำหน่ายผลไม้ไทยราคาพิเศษทั่วประเทศ เพิ่มขึ้นอีก 10,000 จุด และอีกหลายแนวทาง จะทำให้ผลไม้รอดและราคาดี เพื่อช่วยเกษตรกรชาวสวนผลไม้ทั้งประเทศได้
นอกจากนี้ กรณีราคาน้ำมันปาล์มขวดที่มีราคาสูง ทำให้ประชาชนเดือดร้อนนั้น กระทรวงพาณิชย์ไม่ได้นิ่งนอนใจ ซึ่งหากไม่มีการพูดคุยและขอความร่วมมือ ระดับราคาน้ำมันปาล์มขวดจะอยู่ที่ 72-75 บาท ซึ่งมีหลายปัจจัยที่หนุนให้ราคาน้ำมันปาล์มขวดสูงขึ้นมาต่อเนื่อง โดยผลของการพูดคุยและขอความร่วมมือภาคเอกชนให้ตรึงราคาน้ำมันปาล์มขวดไว้ ขายไม่เกิน 65-68 บาท ได้รับความร่วมมือจากผู้ที่เกี่ยวข้องเป็นอย่างดี และจะพยายามตรึงราคาน้ำมันปาล์มขวดให้ได้นานที่สุด แต่สิ่งที่น่ากังวลใจต่อกรณีปัญหาสงคราม 2 ประเทศ คือ รัสเซียและยูเครน หากยืดเยื้อเนิ่นนานก็ต้องพิจารณาและติดตามกันต่อไป เนื่องจากผลกระทบจากสงครามดังกล่าวเกี่ยวข้องกับเรื่องน้ำมันทั่วโลก ทำให้กระทบต้นทุนค่าขนส่งสูงขึ้น ถือเป็นปัจจัยที่ต้องติดตามกันต่อไป. – สำนักข่าวไทย