2 ประเทศเชื่อมความสัมพันธ์ค้า-ลงทุน-ท่องเที่ยวให้กลับมาคึกคัก

กรุงเทพฯ 17 พ.ค.-ประธานหอการค้าไทย เผยผลหารือกระทรวงการลงทุน ซาอุดิอาระเบีย เป็นเจ้าภาพจัดงาน Saudi-Thai Investment Forum  โดยกระทรวงการต่างประเทศของไทย สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย นำคณะผู้แทนภาคเอกชนจากบริษัทชั้นนำของไทยเข้าร่วมงานเชื่อมการค้าและการลงทุนในสาขาธุรกิจเด่น พลังงาน เคมีภัณฑ์ เกษตรและอาหาร ท่องเที่ยวและบริการเพื่อสุขภาพ วัสดุก่อสร้าง ค้าปลีก รถยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้า อัญมณีและเครื่องประดับ และสินค้าอุปโภคบริโภค มีบริษัทซาอุดีอาระเบียเพื่อให้ทุกกิจกรรมทั้ง 2 ประเทศกลับมาคึกคักมากขึ้น


นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า เมื่อวานนี้วันที่ 16 พ.ค.กระทรวงการลงทุน ซาอุดิอาระเบีย เป็นเจ้าภาพจัดงาน Saudi-Thai Investment Forum  โดยมี  Mr. Khalid Abdulaziz Al-Falih รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการลงทุนของซาอุดีอาระเบีย ได้เข้าร่วมกล่าวเปิดงาน และยังได้รับเกียรติจาก Prince Faisal bin Farhan Al Saud รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ มาร่วมต้อนรับคณะจากประเทศไทย ที่นำโดย นายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ อีกด้วยทั้งนี้ การเดินทางมาเยือนในครั้งนี้ แสดงถึงความตั้งใจของทั้งสองฝ่ายที่จะต่อยอดและผสานความร่วมมือระหว่างกันให้มากขึ้นจากภาครัฐสู่ภาคเอกชนของทั้งสองประเทศ โดยทางกระทรวงการลงทุนของซาอุฯ ก็มีแผนที่จะไปเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการในไตรมาส 3 นี้ ภายในงานได้มีการทำ MOU ระหว่างสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย(Board of Trade of Thailand) และสภาหอการค้าซาอุดีอาระเบีย (Federation of Saudi Chambers) 

ทั้งนี้ มีประเด็น 5 ด้านหลัก ๆ ร่วมกัน ดังนี้


1. เสนอให้สนับสนุนการจัดตั้ง Thai-Saudi Business Forum ระหว่างนักธุรกิจทั้งสองประเทศ

2. การเข้าร่วมงานแสดงสินค้า และการประชาสัมพันธ์สินค้า  เสนอให้หน่วยงานภาครัฐทั้งสอง สนับสนุนการเข้าร่วมงานแสดงสินค้าที่อีกฝ่ายจัดขึ้น เพื่อส่งเสริมการค้าและความร่วมมือระหว่างกัน อีกทั้งยังเป็นการเสริมการรับรู้ในตัวสินค้าของทั้งสองประเทศให้เป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น โดยสภาหอฯ ได้เชิญชวนภาคเอกชนซาอุฯ เข้าร่วมงาน ThaiFex ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 24-28 พ.ค. นี้ด้วย

3. การให้ข้อมูลประกอบการตัดสินใจลงทุนของภาคเอกชนของทั้งสองประเทศ ซึ่งภาครัฐของทั้งสองฝ่ายเห็นชอบที่จะร่วมกันแลกเปลี่ยนข้อมูลกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องระหว่างกัน เพื่อเป็นประโยชน์ต่อการขยายมูลค่าการลงทุนของภาคเอกชนทั้งสองฝ่ายในอนาคต


4. ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องกันว่าการอำนวยความสะดวกสำหรับนักธุรกิจจะช่วยดึงดูดความสนใจให้ไทยและซาอุดีอาระเบียเป็นประเทศเป้าหมายการลงทุนลำดับต้น ๆ ของนักธุรกิจของทั้งสองประเทศ

5. เสนอให้เร่งรัดการจัดทำความความตกลง FTA ระหว่างไทยและซาอุดิอาระเบีย เพื่อเป็นการกระตุ้นการค้าระหว่างกันให้เพิ่มมากยิ่งขึ้นในระยะยาว ทั้งสองประเทศควรเปิดการเจรจาความตกลง FTA ระหว่างกันโดยเร็ว

นอกจากนั้น ยังมีการลงนาม MOU ของกระทรวงการลงทุน กับบริษัทเอกชน ทั้ง SCG, Gulf, Indorama, Minor Group และ ดุสิตธานี อีกด้วย  สำหรับผลการ Business Matching โดยภาพรวมได้มีการหารือถึงโอกาสต่าง ๆ ซึ่งขณะนี้เศรษฐกิจของซาอุดีอาระเบียมีการขยายตัวได้ดีมาก โดยไตรมาสที่ 1 ที่ผ่านมา มี GDP เติบโตสูงถึง 9.6%  ด้านอาหารและผลไม้ ที่ทาง ซาอุดีอาระเบียสนใจมาก ๆ มีโอกาสที่จะนำทุเรียน ส่งออกมาพื้นที่นี้ ด้านวัสดุก่อสร้างก็มีโอกาส สอดคล้องกับทางซาอุฯ ที่มีแผนการขยายเมือง  ส่วนกลุ่มยานยนต์ และเครื่องใช้ไฟฟ้า ก็มีความสนใจ ที่จะไปดูโรงงานที่ประเทศไทย การท่องเที่ยวก็ได้รับความสนใจที่จะ Connect กับประเทศไทย ซึ่งซาอุดีอาระเบียได้ตั้งเป้าที่ท้าทายมาก โดยปัจจุบันมีนักท่องเที่ยว 20 ล้านคน จะเพิ่มให้ถึง 100 ล้านคน ในปี 2030 ดังนั้น ซาอุดีอาระเบียจึงต้องการเชื่อมและแลกเปลี่ยนความรู้กับประเทศไทย ซึ่งรวมถึงกลุ่มโรงพยาบาล Medical และ Welness ของประเทศไทย โดยสนใจที่จะเดินทางไปประเทศไทยเพื่อไปใช้บริการและเรียนรู้ระหว่างกัน 

สำหรับเรื่องปุ๋ย ที่วันแรกได้มีการเกริ่นกับ รมว.ต่างประเทศ นั้น วันนี้ ทางท่านดอนฯ ได้กล่าวกับทาง รมว.ต่างประเทศPrince Faisal bin Farhan Al Saud  เช่นกัน โดยได้ย้ำเป็นเรื่องแรกที่หารือกัน ซึ่งส่วนนี้เชื่อว่า จะช่วยแก้ไขปัญหาการขาดแคลนปุ๋ยให้กับเกษตรกรได้ เป็นการ secure source of supply ทำให้ลดความเสี่ยงที่พึ่งพาปุ๋ยจากไม่กี่แหล่งเท่านั้น โดยความสำเร็จจากเดินทางมาครั้งนี้ คงสามารถต่อยอดได้อีกเยอะมาก ซึ่งภาคเอกชนกล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่า เกินความคาดหวังและประทับใจมากๆ หลังจากการรื้อฟื้นความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศ ซึ่งภาครัฐและเอกชนของทั้งสองฝ่าย มีความกระตือรือล้นและมีความจริงใจ ตั้งใจที่จะทำให้เกิดผลสำเร็จเป็นรูปธรรมโดยเร็วที่สุด.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.ตร.รับทราบเหตุปะทะเดือดสงขลา ปิดล้อมกลุ่มก่อความไม่สงบ

รัฐสภา 11 ก.ย.- “บิ๊กต่าย” พยักหน้ารับทราบ เหตุปะทะเดือด เจ้าหน้าที่ปิดล้อมกลุ่มก่อความไม่สงบ พื้นที่ จ.สงขลา ระบุขอเข้าประชุมก่อน พลตํารวจเอก กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เดินทางมาประชุมร่วมกับกรรมาธิการการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร ที่อาคารรัฐสภา โดยผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามว่า ได้รับรายงานเรื่องการปะทะเดือด เจ้าหน้าที่ปิดล้อมกลุ่มก่อความไม่สงบ ที่บ้านห้วยเต่า สงขลา แล้วหรือไม่ โดยพลตํารวจเอก กิตติ์รัฐ พยักหน้า แต่ไม่ได้ตอบคำถาม ระบุเพียงว่าขอเข้าประชุมก่อน -สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” ชี้เป้าตลก 3 พยางค์ ส่อโยงเส้นเงินวัดพระบาทน้ำพุ

รัฐสภา 11 ก.ย.- “บิ๊กเต่า” ชี้เป้าตลก 3 พยางค์โผล่วันจับ “ทิดอลงกต” ส่อโยงเส้นเงินวัดพระบาทน้ำพุ พบพิรุธ ยังไม่มารายงานตัว พลตำรวจตรี จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง กล่าวถึงความคืบหน้าคดีทิดอลงกต วัดพระบาทน้ำพุ ที่มีการเปิดเผยออกมาว่า ตลกชื่อ 3 พยางค์ มีส่วนเกี่ยวข้องกับเงินวัดพระบาทน้ำพุด้วย ว่า มีตลกอีก 1 คนที่ยังเป็นเป้าหมายยังไม่ได้มาแสดงตัวและยังไม่ได้มาให้การ พนักงานสอบสวนจะเรียกมาเอง ซึ่งพบพิรุธเยอะว่าทำอะไรที่ไม่เป็นไปตามกฎหมายหรือไม่เป็นไปตามวิธีการที่ทำในการเข้าไปช่วยเหลือ ทิดอลงกต ในการขนย้ายสิ่งของ ซึ่งเป็นเอกสารสำคัญ และไม่เหมือนดาราท่านอื่น ที่เป็นการรับจ้างงาน แต่คนนี้น่าจะเป็นคนที่สนิทส่วนตัว เป็นคนที่เคยถูกดำเนินคดีอยู่ เมื่อถามว่าเป็นคนที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้เลยใช่หรือไม่ พลตำรวจตรี จรูญเกียรติ กล่าวว่าเป็นคนลึกลับซับซ้อน ซึ่งเป็นคนที่เคยโผล่ให้เห็นในวันที่ทิดอลงกตถูกจับ -สำนักข่าวไทย

พ.อ.นพ.ธวัชชัย เล่านาที จนท.สวนสัตว์ ลงจากรถ แล้วถูกสิงโตตะปบรุมขย้ำ

กทม. 10 ก.ย.-พ.อ.นพ.ธวัชชัย เล่านาที สิงโตตะปบเจ้าหน้าที่สวนสัตว์ จากนั้นสิงโตอีก 5 ตัว รุมขย้ำ โดยที่เจ้าตัวไม่ได้ขัดขืนหรือร้องขอความช่วยเหลือ พ.อ.นพ.ธวัชชัย กาญจนรินทร์ อดีตอาจารย์และแพทย์ศัลยกรรม โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า หรือเป็นที่รู้จักในฐานะหมอที่มาช่วยเหลือในคดีการเสียชีวิตของแตงโม ซึ่งเป็นผู้เห็นเหตุการณ์ระบุว่า วันนี้ตนมาเที่ยวสวนสัตว์ โดยได้ขับรถเข้าไปในโซนซาฟารี ขณะนั้นมีรถนักท่องเที่ยวหลายคันเข้าชม เมื่อมาถึงบริเวณโซนสิงโต ก็พบว่ามีรถของเจ้าหน้าที่รายหนึ่งซึ่งเป็นรถของสวนสัตว์จอดอยู่คันเดียว ตอนนั้นตนเองก็รู้สึกผิดสังเกต เพราะช่วงเวลาดังกล่าวไม่ใช่ช่วงเวลาให้อาหารสัตว์และเจ้าหน้าที่รายนี้อยู่คนเดียว ได้ลงมายืนข้างล่างของรถ ฝั่งคนขับ โดยเปิดประตูทิ้งไว้ แต่ไม่ได้ทำอะไร แค่ยืนเฉยๆ ลักษณะยืนหันหน้า เข้าหารถ หันหลังให้สัตว์ ซึ่งตนก็รู้สึกแปลกอย่างมาก อย่างไรก็ตาม เนื่องจากมีต้นไม้บัง ตนก็เลยไม่เห็นว่าในมือถืออะไร จากนั้นประมาณ 3 นาที ก็มีสิงโตตัวหนึ่งค่อยๆ ย่องมาทางข้างหลังช้าๆ ก่อนจะตะครุบเข้าข้างหลังเจ้าหน้าที่รายดังกล่าวทันที โดยที่เจ้าหน้าที่รายดังกล่าวไม่ได้มีท่าที ขัดขืน ดิ้นรนต่อสู้ หรือร้องขอชีวิตแต่อย่างใด หลังจากนั้น สิงโตตัวอื่นๆ ก็ค่อยๆ เดินตามมารุมกัดตามที่ปรากฏในคลิป ตนเองไม่รู้จะต้องทำอย่างไร ทำได้เพียงแต่บีบแตรรถ เช่นเดียวกับนักท่องเที่ยวคันอื่น ที่ช่วยกันบีบแตร ผ่านไปประมาณ 10 […]

สิงโตสวนสัตว์เอกชน ลาก จนท.ไปรุมกัด สาหัส

กทม. 10 ก.ย.-สิงโตในสวนสัตว์เอกชน ทำร้ายเจ้าหน้าที่ ลากไปรุมกัด อาการสาหัส นักท่องเที่ยวบันทึกเหตุการณ์ไว้ได้ พ.ต.อ.นิรุชพล โยธามาตย์ ผกก.สน.คันนายาว เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (10 ก.ย.68) ได้รับรายงานว่า เกิดเหตุสิงโตทำร้ายเจ้าหน้าที่ ภายในสวนสัตว์ของเอกชน จากการตรวจสอบพบว่า เจ้าหน้าที่ลงไปให้อาหาร โดยไม่ปฏิบัติตามกฎของบริษัท จึงทำให้ถูกสิงโตรุมทำร้าย เบื้องต้นอาการสาหัส นำตัวส่งโรงพยาบาล ประสานพนักงานสอบสวนเชิญตัวเจ้าหน้าที่ของสวนสัตว์มาสอบปากคำ และลงบันทึกประจำวัน โดยยังไม่มีญาติของเจ้าหน้าที่ที่ถูกทำร้ายมาแจ้งความแต่อย่างใด ทั้งนี้ ในคลิปเป็นเหตุการณ์ที่นักท่องเที่ยวบันทึกไว้ได้ บริเวณส่วนจัดแสดงสิงโต มีรั้วขนาดใหญ่เปิดให้รถเข้า-ออก เป็นพื้นที่เปิด ให้นักท่องเที่ยวขับรถเข้าไปด้านใน มีป้ายกำกับชัดเจนห้ามเปิดกระจกและห้ามลงจากรถ ด้านในจะมีรถของสวนสัตว์จอดดูแลความปลอดภัย และบางช่วงมีการจัดแสดงโชว์ให้อาหารสิงโตที่อยู่ด้านใน.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“พล.ท.บุญสิน” ยันยังไม่ดำเนินการโครงการอบรมโดรนเกษตร

กทม. 12 ก.ย.- “พล.ท.บุญสิน” แจงบริษัทเอกชนมามอบของ-ถ่ายรูป พร้อมเสนอโครงการอบรมโดรนเกษตร ยืนยันยังไม่ดำเนินการใดๆ ทั้งสิ้น เมื่อวันที่ 12 ก.ย.68 พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวถึงกรณีที่มีบริษัทเอกชนเข้ามาถ่ายรูปร่วมกับแม่ทัพภาคที่ 2 โดยมีการนำโครงการ “อบรมการใช้อากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน ให้กับทหารเพื่อเป็นการเพิ่มทักษะ เพื่อใช้ในการเกษตร” วานนี้ (11 ก.ย.) ว่า บริษัทดังกล่าวได้เข้ามาพบเหมือนกับพี่น้องประชาชนและบริษัทต่างๆ ที่เข้ามาพบมอบของ เพียงแต่ว่าทางบริษัทนี้เข้ามานำเสนอโครงการโดรน ตนก็ไม่ได้พูดคุยอะไรมาก เพียงแต่รับฟังไว้ ประมาณ 10 นาที ทางคณะดังกล่าวก็ขอถ่ายภาพ ก่อนเดินทางกลับ “ผมยืนยันว่า ยังไม่ได้มีการดำเนินการทำอะไรเลย ยังไม่ผ่านการตรวจสอบให้รอบคอบ ยืนยันอีกครั้งยังไม่ได้ดำเนินการอะไรทั้งนั้น” พล.ท.บุญสิน กล่าว.-313.-สำนักข่าวไทย

“เฉลิมชัย” ไขก๊อกหัวหน้าพรรค ปชป. แบบไม่บอกกล่าว

พรรคประชาธิปัตย์ 12 ก.ย.-“เฉลิมชัย” ไขก๊อกจากหัวหน้าพรรค ปชป. แบบไม่บอกกล่าว ด้าน “ชัยชนะ” ยันไม่มีขัดแย้ง ในพรรครักกันดี ไม่มีแพแตก นายชัยชนะ เดชเดโช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน ยื่นหนังสือลาออกจากหัวหน้าพรรค ประชาธิปัตย์ว่า ตนก็เพิ่งทราบข่าว โดยไม่ได้มีการบอกกล่าวล่วงหน้ามาก่อน แต่ยืนยันว่าในพรรคไม่ได้มีปัญหาขัดแย้งอะไร รักกันดี ทุกคนแต่การตัดสินใจลาออกครั้งนี้เป็นอย่างไรต้องไปถามนายเฉลิมชัยเอง แต่ยืนยันว่า หัวหน้าพรรคกรรมการบริหารพรรค ทุกคนมีความรักใคร่กันดี และตนเชื่อว่านายเฉลิมชัยก็เป็นคนหนึ่งที่รักพรรคประชาธิปัตย์ และทำงานให้กับพรรคมาโดยตลอด ซึ่งตนก็รู้สึกเสียดายและใจหายซึ่งที่ผ่านมานายเฉลิมชัย ก็ไม่ได้ส่งสัญญาณหรือบอกอะไร สำหรับขั้นตอนหลังจากนี้ จะดำเนินการอย่างไรนั้น นายชัยชนะกล่าวว่า ก็ต้องดำเนินการตามข้อบังคับพรรคและตามกฎหมาย โดยต้องเรียกประชุมวิสามัญ เพื่อนเลือก หัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคใหม่เมื่อถามว่าบทบาทของพรรคประชาธิปัตย์หลังจากนี้จะเป็นอย่างไรนั้น นายชัยชนะกล่าวว่า สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรคประชาธิปัตย์ก็ต้องทำหน้าที่กันต่อไป ส่วนกรรมการบริหารพรรคก็มาเลือกคัดสรรกันใหม่ และหลังจากนี้ต้องรอดูว่าใครจะเข้ามาบริหารพรรค และกำหนดนโยบายทิศทางพรรคอย่างไร แต่ตนก็เป็นสมาชิกพรรคคนหนึ่งที่ยังยืนหยัด อยู่กับพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อถามว่าการที่นายเฉลิมชัย ลาออกตอนนี้ เป็นสัญญาณอะไรหรือไม่เนื่องจาก มีไทม์ไลน์ จะยุบสภา ภายใน สี่ เดือน จะไปสังกัดพรรคอื่นหรือไม่ ได้ชัยชนะกล่าวว่าอย่ามองเช่นนั้น เพราะตนเชื่อว่านายเฉลิมชัย […]

ผลักดัน “นางเขื่อน” พร้อมครอบครัว 7 คน กลับกัมพูชา

จันทบุรี 12 ก.ย. – ตม.ศรีสะเกษ ประสาน ตม.จันทบุรี ส่งตัว “นางเขื่อน” พร้อมครอบครัว รวม 7 คน กลับกัมพูชา หลังถูกกล่าวหาเป็นไส้ศึก และถูกชาวบ้านรวมตัวขับไล่ ทั้งยังพบอาศัยอยู่ในไทยอย่างผิดกฎหมาย เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดศรีสะเกษ นำตัวนางเขื่อน ชาวกัมพูชา และสมาชิกครอบครัว รวมทั้งหมด 7 คน เดินทางไปที่ด่านผ่านแดนถาวรบ้านแหลม จ.จันทบุรี โดยมีเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองจันทบุรี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รอรับตัวอยู่ก่อนแล้ว เพื่อผลักดันกลับประเทศกัมพูชา เนื่องจากที่ผ่านมา นางเขื่อน ถูกชาวบ้านในพื้นที่ ต.ไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ รวมตัวกันขับไล่ หลังจากถูกกล่าวหาว่าเป็น “ไส้ศึก” คอยส่งข้อมูลเกี่ยวกับความเคลื่อนไหวของทหารไทยให้กับฝ่ายกัมพูชา และยังพบว่าทั้งหมดอาศัยอยู่ในประเทศไทยอย่างผิดกฎหมาย จึงดำเนินการตามขั้นตอนทางกฎหมายและระเบียบการต่างประเทศ เพื่อส่งตัวกลับภูมิลำเนา. – สำนักข่าวไทย

“ชัชชาติ” ยืนยันไม่ลาออกผู้ว่าฯ กทม. ก่อนครบวาระ

กรุงเทพฯ 12 ก.ย. – “ชัชชาติ” ยืนยันไม่ลาออกผู้ว่าฯ กทม. ก่อนครบวาระ งบปี 69 เน้นเส้นเลือดฝอยคู่เส้นเลือดใหญ่ สถานการณ์น้ำตอนนี้ เตรียมรับน้ำเหนือ-พายุ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ร่วมประชุมสภากรุงเทพมหานคร สมัยประชุมวิสามัญ สมัยแรก (ครั้งที่ 1) ประจำปีพุทธศักราช 2568 ณ ห้องประชุมสภากรุงเทพมหานคร อาคารไอราวัตพัฒนา ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร ดินแดง ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวว่า วันนี้เป็นการพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 วาระที่สองและวาระที่สาม ซึ่งจะมีการพิจารณาเรื่องนี้อย่างเข้มข้น เนื่องจากกว่า 30 วันที่ผ่านมา น่าจะได้ข้อสรุปว่าจะเพิ่มหรือลดงบประมาณอย่างไร ในจุดไหนบ้าง โดยผ่านกระบวนการพิจารณาอย่างละเอียดรอบคอบที่สุด เพื่อประโยชน์สูงสุดกับพี่น้องประชาชน สำหรับงบประมาณส่วนใหญ่ได้ตามที่ตั้งเสนอของบฯ ไว้ โดยจะเน้นงบประมาณลงพื้นที่เขตมากขึ้น เช่น การก่อสร้างและปรับปรุงถนน การก่อสร้างฝายถนน ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายเส้นเลือดฝอย รวมถึงงบประมาณที่จะพัฒนาเส้นเลือดใหญ่ เช่น ก่อสร้างโรงพยาบาลแห่งใหม่ การติดตั้งเซ็นเซอร์วัดการสั่นสะเทือนจากแผ่นดินไหวที่จะติดตั้งบนอาคารสูงของโรงพยาบาลแห่งใหม่ ก็ได้ตามที่เสนอของบประมาณไว้ […]