ทำเนียบฯ 10 พ.ค.- รมว.พาณิชย์ เผยจะดูแลราคาน้ำมันปาล์มขวดให้ทุกฝ่ายอยู่ร่วมกันได้บนพื้นฐาน 3 ฝ่ายรับได้ แม้อยู่ในช่วงต้นทุนสูงกระทบหลายด้าน แต่กระทรวงพาณิชย์จะดูโครงการลดค่าครองชีพอื่นๆ มาช่วยเสริมอีกทางหนึ่ง
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์กล่าวถึงกระแสเดือดร้อนของผู้บริโภคกรณีราคาน้ำมันปาล์มบริโภคขึ้นมามาก มาจากราคาผลปาล์มดีมากขึ้นไปถึง 11-12 บาท ทำให้ต้นทุนการผลิตน้ำมันปาล์มขวดเพิ่มสูงขึ้น โดยกระทรวงพาณิชย์พยายามที่จะจับมือกับผู้ผลิตน้ำมันปาล์มขวดในการแก้ปัญหาและมีการกำกับราคาที่ไม่ให้สูงเกินกว่าราคาโครงสร้าง ซึ่งความจริงต้องตกประมาณขวดละ 76.50 บาท แต่พยายามกำกับราคาและปรับลดลงมาเหลือ 66.50 บาทอยู่ในขณะนี่
“ในเรื่องราคาน้ำมันปาล์มจะตรึงราคาให้ได้นานที่สุดพร้อมให้หารือร่วมกันระหว่างเกษตรกร ตัวแทนเกษตรกร ผู้ปลูกปาล์มน้ำมันเพื่อให้ทุกฝ่ายอยู่ร่วมกันได้บนพื้นฐานไม่เอารัดเอาเปรียบกัน แม้เวลานี้ โรงงานซื้อปาล์มราคาแพงขึ้นและทำให้ราคาน้ำมันปาล์มดิบ (CPO) ไป 60 กว่าบาท/กก. ส่งผลให้น้ำมันปาล์มขวดสูงขึ้น แต่ที่ผ่านมากระทรวงพาณิชย์ได้ตรึงราคานำ้มันปาล์มลงมาแล้วประมาณ 10 บาทต่อขวด ดังนั้น การหารือ 3 ฝ่าย จะอยู่บนพื้นฐาน 2 ส่วน คือ 1.ให้ดูราคากระทบผู้บริโภคน้อยที่สุด เกษตรกรชาวสวนปาล์มได้ราคาดีที่สุด 2.เรื่องปริมาณไม่ให้ขาดแคลน และจะมีการหารือกันว่าปริมาณสตอกควรอยู่ที่เท่าไหร่ ไม่เช่นนั้นนอกจากจะเจอเรื่องราคาแล้วจะเจอเรื่องปริมาณเป็นปัญหาซ้ำสอง ถ้ามีความจำเป็นต้องเข้า ครม.ก็จะเข้า โดยจะทำให้เร็วและใช้ วิน-วินโมเดล เข้ามาดูแลทุกฝ่ายให้ดีที่สุด” รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์กล่าว
ทั้งนี้ แม้จะมีหลายสินค้าที่มองว่าปรับขึ้น แต่ก็มีสินค้าหลายตัวที่ราคาลดลงกว่าปีที่แล้ว เช่น ถั่วฟักยาว ราคาเฉลี่ย55.50 บาท/กก. แต่ปีที่แล้วเวลาเดียว 62.78 บาท/กก. ผักกาดขาวปลี กิโลกรัมละ 31.50 บาท ปีที่แล้ว 32.50 บาท/กก. ต้นหอมปัจจุบันกิโลกรัมละ 65 บาท ปีที่แล้วราคา 68.50 บาท/กก. ผักชีประมาณกิโลกรัมละ 94 บาท ปีที่แล้ว107.80 บาท/กก. ปลา เช่น ปลาดุกเฉลี่ยกิโลกรัมละ 74.80 บาท แต่ปีที่แล้ว 85 บาท/กก.ซึ่งมีหลายตัวที่ราคาลดลง รวมทั้งราคาชุดนักเรียนอุปกรณ์การเรียนปีนี้ได้มีการจัด พาณิชย์ลดราคา!ช่วยประชาชน Lot 17 Back To School ลดสูงสุด 65% ส่วนที่เหลือก็จะตรึงราคาไว้
อย่างไรก็ตาม กระทรวงพาณิชย์สำติดตามราคาสินค้าอยู่ตลอด แต่ต้องยอมรับความจริงว่าราคาสินค้าที่มีการปรับตัวสูงขึ้นบางรายการเป็นผลมาจากราคาน้ำมันที่สูงขึ้นมาก ซึ่งมีผลกับ 1.ต้นทุนการผลิต 2.ราคาขนส่ง โดยเฉพาะสินค้าที่อยู่ไกลต้องรับภาระเพิ่มขึ้น เพราะค่าขนส่งแพงขึ้น แต่กระทรวงพาณิชย์พยายามกำกับดูแลให้ดีที่สุด โดยดูจากต้นทุนเป็นหลัก ดังนั้น จะเน้นดูราคาหน้าโรงงานกำกับราคาไว้ให้เป็นภาระกับผู้บริโภคน้อยที่สุด แต่ก็ไม่ให้กระทบต่อเกษตรกรที่ได้ราคาพืชผลเกษตรดีมาก เพราะขณะนี้พืชเกษตรราคาดีทุกตัวไม่ว่าจะเป็นยางพารา ปาล์มน้ำมันข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ มันสำปะหลังหรือแม้แต่ข้าวก็ราคาดีขึ้น เพราะปีนี้การส่งออกข้าวจะเพิ่มกว่าปีที่แล้ว ปีที่แล้วส่งออกข้าวได้ 6.1 ล้านตัน ปีนี้คาดว่าส่งออกได้ 7-8 ล้านตัน เชื่อว่าช่วยให้ราคาข้าวดีขึ้นได้.-สำนักข่าวไทย