รมว.พณ.คุยเอกชน มั่นใจเดินมาถูกทาง ดันส่งออกปีนี้โตแน่ 6-8%

กรุงเทพฯ 5 พ.ค.- รมว.พาณิชย์ คุยเอกชน มั่นใจแนวทางส่งออกมาถูกทาง ปีนี้ส่งออกโตได้แน่ 6-8% หนุนเศรษฐกิจบวก 3.5% เน้นนโยบายเชิงรุก ดัน FTA ทุกกรอบอย่างเต็มที่


นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ปาฐกถาพิเศษการสนับสนุนการค้าไทยกับนานาชาติ ในงานสัมมนาสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ว่า ต้องยอมรับว่าประเทศไทยกำลังเผชิญกับวิกฤตซ้อนวิกฤต ตั้งแต่วิกฤตโควิด-19 วิกฤตเศรษฐกิจ จนถึงวิกฤตจากสงครามรัสเซีย-ยูเครน ซึ่งส่งผลกระทบกับทุกประเทศทั่วโลก รวมถึงประเทศไทย ทำให้ IMF ประมาณการเศรษฐกิจโลกปีนี้ลดลงเหลือร้อยละ 3.6 จากคาดการณ์เดิมที่ร้อยละ 4.4

อย่างไรก็ตาม ในขณะที่ประเทศไทยได้ปรับประมาณการเศรษฐกิจลงเหลือร้อยละ 3.5 จากเดิมร้อยละ 3.5-4.5 การส่งออกยังถือว่าเป็นเครื่องจักรสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ โดยการส่งออกยังคงมีสัดส่วนต่อ GDP อยู่ที่ร้อยละ 58 และหลังจากได้มีการหารือร่วมกับภาคเอกชนในคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชน ด้านการพาณิชย์ (กรอ.พาณิชย์) แล้ว เชื่อว่าการส่งออกจะสามารถเติบโตได้ร้อยละ 6-8 จากเดิมที่กระทรวงพาณิชย์ตั้งเป้าไว้ที่ร้อยละ 3-4 หลังจากในช่วงไตรมาสแรก การส่งออกขยายตัวสูงถึงร้อยละ 15 และมั่นใจว่าจะสามารถทำรายได้เข้าประเทศไม่ต่ำกว่า 9 ล้านล้านบาท


นอกจากนี้ กระทรวงพาณิชย์จะผลักดันให้การส่งออกมีความเข้มแข็งมากยิ่งขึ้น ผ่านนโยบายสำคัญ 2 ด้าน ประกอบด้วยนโยบายเชิงรุก สั่งการให้ทูตพาณิชย์ที่ประจำอยู่ในทุกประเทศทั่วโลก จัดทำแผนเฉพาะตลาดให้เสร็จสิ้นภายใน 1 สัปดาห์ โดยจะต้องลงลึกถึงเป้าหมายพื้นที่และรายสินค้าที่จะเจาะลงไปในที่ต่างๆ และการผลักดันการใช้ประโยชน์จาก FTA ที่มีอยู่ 14 ฉบับ กับ 18 ประเทศ ให้เกิดประโยชน์สูงสุด และเร่งเจรจา FTA ฉบับใหม่ให้มีความคืบหน้า ไม่ว่าจะเป็น EU แคนาดา รวมถึงการลงนาม มินิ FTA กับเมืองรองต่างๆ เพื่อสร้างความสัมพันธ์ทางการค้าเชิงลึกรายมณฑล

ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์จะใช้นโยบาย win win model ดูแลในส่วนของราคาสินค้าให้เกิดความสมดุล โดยเฉพาะน้ำมันปาล์มเวลานี้ ต้องทำให้ทั้ง 3 ฝ่าย อยู่ร่วมกันได้ โดยบางส่วนอาจต้องมีการปรับลดผลประโยชน์ลง และสร้างสมดุลให้เกิดขึ้น โดยได้มอบหมายให้อธิบดีกรมการค้าภายในไปเจรจาแล้ว แต่ต้องยอมรับว่าการเจรจาให้ทุกฝ่ายยอมรับเป็นเรื่องยาก โดยที่ผ่านมาได้มีการพูดคุย กับผู้ผลิตมาโดยตลอด ทำให้ราคาน้ำมันปาล์มขวดยังขายอยู่ที่ราคาขวดละ 62-64 บาทได้ ซึ่งราคาตามโครงสร้างจริง น้ำมันปาล์มขวด ราคาเกือบแตะ 70 บาทแล้ว

“แม้ราคาจำหน่ายปลีกในท้องตลาดเวลานี้ใกล้ถึงขวดละ 70 บาทแล้วนั้น ตนรับรู้สถานการณ์ที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะสินค้าน้ำมันปาล์มเวลานี้ และได้สั่งการให้อธิบดีกรมการค้าภายในไปเจรจาพูดคุยกับทั้ง 3 ฝ่ายแล้ว ซึ่งประกอบไปด้วย เกษตรกร โรงกลั่น ผู้ผลิตสินค้าน้ำมันปาล์ม รวมถึงผู้บริโภค ซึ่งจะต้องเจรจาให้เกิดความสมดุล และทุกฝ่ายอยู่ร่วมกันได้ แต่ต้องยอมรับว่าเป็นเรื่องยากที่จะมีความเห็นเป็นไปในทิศทางเดียวกัน“ นายจุรินทร์ กล่าว.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ไม่เอาไว้! ต่างด้าวสร้างปัญหาให้บุคลากรการแพทย์เมืองปาย

ผบช.สตม. ลั่น ไม่เอาไว้! ต่างด้าวสร้างปัญหาให้บุคลากรการแพทย์เมืองปาย เพิกถอนใบอนุญาต ผลักดันออกนอกประเทศทันที

ตรวจสอบ The Park เขาหลัก งบก่อสร้าง 140 ล้าน คุ้มค่าหรือไม่?

สำนักข่าวไทย ได้รับเรื่องร้องเรียนจากชาวบ้านให้ช่วยเข้าไปตรวจสอบการก่อสร้างโครงการศูนย์กลางการท่องเที่ยวและนันทนาการชายฝั่งแห่งเมืองพังงา หรือ The Park เขาหลัก ริมหาดบางเนียง หลังมีข้อมูลว่าเป็นโครงการที่ก่อสร้างด้วยงบกว่าร้อยล้านบาท แต่ปัจจุบันกลับไม่ได้ใช้ประโยชน์ และถูกปล่อยให้อยู่ในสภาพรกร้าง

ลูกสาวสารภาพจุดไฟเผาพ่อวัย 73 ดับคากระท่อม

ลูกสาวเปิดปากสารภาพจุดไฟเผาพ่อวัย 73 ปี เสียชีวิตในกระท่อม ข้างลานรับซื้อข้าวเปลือก ต.โนนศิลาเลิง อ.ฆ้องชัย จ.กาฬสินธุ์

พิรงรองคุก2ปี

คุก 2 ปี “พิรงรอง” กสทช. คดี “ทรู” ฟ้องกลั่นแกล้ง

ศาลสั่งจำคุก 2 ปี “พิรงรอง” กรรมการ กสทช. ไม่รอลงอาญา ผิดมาตรา 157 ชี้มีเจตนากลั่นแกล้ง “ทรูไอดี” ให้ได้รับความเสียหาย กรณีออกหนังสือเตือนโฆษณาแทรกในทีวีดิจิทัล

ข่าวแนะนำ

ฮอกกี้ไทย

นายกฯ ชวนคนไทยเชียร์ทีม “ฮอกกี้ชายไทย” เจอเจ้าภาพจีน

นายกฯ ชวนคนไทยเชียร์ทีม “ฮอกกี้ชายไทย” เจอเจ้าภาพ “จีน” เย็นนี้ หลังเดินทางถึงนครฮาร์บิน ร่วมพิธีเปิดการแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมส์ฤดูหนาว ครั้งที่ 9

ระเบิดปัตตานี

ลอบบึ้มริมถนนสาย 43 จ.ปัตตานี ตำรวจเจ็บ 4 นาย

ลอบบึ้มริมถนนสาย 43 อ.หนองจิก จ.ปัตตานี แรงระเบิดทำให้ตำรวจได้รับบาดเจ็บ 4 นาย ชาวบ้านเผยเจ้าหน้าที่ชุดดังกล่าวมาปฏิบัติหน้าที่เป็นปกติทุกวัน คาดคนร้ายเฝ้าสังเกตพฤติกรรมต่อเนื่อง

เข้าสู่คืนที่ 2 ตัดไฟฟ้าชายแดนเมียนมา ทำลายวงจรแก๊งคอลเซ็นเตอร์

เข้าสู่คืนที่ 2 สำหรับการตัดกระแสไฟฟ้า ตัดสัญญาณอินเทอร์เน็ต และระงับการส่งน้ำมัน จากฝั่ง อ.แม่สอด จ.ตาก ไปเมืองเมียวดีของเมียนมา เพื่อตัดวงจรกลุ่มจีนเทา พบมีการใช้ไฟฟ้าน้อยลง