กรุงเทพฯ 27 เม.ย.- เอสซีจี เซรามิกส์ ไตรมาสแรกฟันกำไร 13% เน้นกลยุทธ์ขับเคลื่อนธุรกิจในระยะยาวบรรเทาผลกระทบด้านพลังงาน ต่อยอดพัฒนาสินค้าเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมสร้างมูลค่าเพิ่ม
นายนำพล มลิชัย กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสซีจี เซรามิกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ COTTO ผู้ผลิตและจำหน่ายกระเบื้องภายใต้แบรนด์คอตโต้ (COTTO) โสสุโก้ (SOSUCO) และ คัมพานา (CAMPANA) เปิดเผยว่าไตรมาสที่ 1 ปี 2565 บริษัทฯ มีรายได้จากการขาย 3,231 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 15 จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน จากความต้องการสินค้าที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ปริมาณการขายกระเบื้องเซรามิกทั้งในประเทศและการส่งออกเพิ่มขึ้น โดยบริษัทฯ มีกำไรสำหรับงวด 212 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 13 เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ทั้งนี้ บริษัทได้ดำเนินการควบคุมค่าใช้จ่ายด้านการบริหารและดำเนินการปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตอย่างต่อเนื่องเพื่อลดผลกระทบจากราคาก๊าซธรรมชาติและราคาวัตถุดิบที่มีการปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
“แม้ว่าการระบาดของโควิดสายพันธุ์โอมิครอนจะไม่ส่งผลต่อการดำเนินธุรกิจมากเท่าระลอกที่ผ่านมา แต่ยังคงมีปัจจัยสำคัญในช่วงต่อจากนี้ คือ ความยืดเยื้อของความขัดแย้งระหว่างยูเครน-รัสเซีย ที่ส่งผลกระทบต่อราคาพลังงานและราคาสินค้าอุปโภคบริโภค การส่งออกสินค้า รวมทั้งการนำเข้าวัตถุดิบซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการผลิต นอกจากนี้อัตราเงินเฟ้อและหนี้ครัวเรือนที่สูงขึ้น มีผลต่อกำลังซื้อของผู้บริโภคและอาจทำให้การฟื้นตัวของเศรษฐกิจในช่วงไตรมาส 2-3 ชะลอตัวลงด้วย ”นายนำพล กล่าว
อย่างไรก็ตามบริษัทฯ ได้จัดทำแผนรับมือ ปัจจัยราคาพลังงาน เพื่อบรรเทาผลกระทบ ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนโครงการลดต้นทุนพลังงาน ปรับปรุงกระบวนการผลิตให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ยังให้ความสำคัญในเรื่องการปรับระดับการผลิตและการนำเข้าวัตถุดิบให้เหมาะสมและสอดคล้องกับปริมาณความต้องการ ส่งผลให้บริษัทฯ ยังคงมีศักยภาพและรักษาความสามารถในการแข่งขันได้
ส่วนการเตรียมรับมือกับสถานการณ์ด้านพลังงานในอนาคต ได้มุ่งเน้นกลยุทธ์การขับเคลื่อนธุรกิจในระยะยาวตามแนวทาง ESG 4 Plus ของ เอสซีจี โดยเฉพาะการปรับปรุงกระบวนการผลิตและการใช้พลังงานทดแทนและพลังงานทางเลือกให้มากขึ้น นอกจากจะช่วยบรรเทาผลกระทบด้านพลังงานแล้วยังสามารถลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ รวมถึงเป็นการต่อยอดในการพัฒนาสินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและสร้างมูลค่า เพิ่มให้กับสินค้าอีกทางหนึ่งด้วย เนื่องจากตอบโจทย์กลุ่มผู้บริโภคที่เริ่มปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการเลือกซื้อสินค้าโดยนำปัจจัย“สินค้ารักษ์โลก” มาเป็นหนึ่งในเกณฑ์พิจารณานอกเหนือจากปัจจัยด้านคุณภาพ ราคา ความคุ้มค่า ความคุ้นเคย ฯ
โดย ในงานสถาปนิก’65 ที่จัดขึ้นในวันที่ 26 เม.ย.- 1 พ.ค.นี้ COTTO จะจัดแสดงสินค้าไฮไลต์ คือ กระเบื้องฟอกอากาศ AIR ION กระเบื้องเพื่อสุขอนามัยที่มีคุณสมบัติพิเศษในการดักจับฝุ่น PM2.5กระเบื้องยับยั้งแบคทีเรีย หรือHYGIENIC TILE เวอร์ชันใหม่ล่าสุด และเป็นครั้งแรกที่จะทำการเปิดตัว กระเบื้อง ECO Collection ที่ลดการใช้ทรัพยากรธรรมชาติลง 80% จากการนำ Waste ในกระบวนการการผลิตกลับมาใช้ใหม่ตามแนวทาง Zero Waste ลดการใช้น้ำในกระบวนการผลิต และลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากการขนส่งลงถึง 75% ด้วย การพัฒนาสินค้าต่าง ๆ ในกลุ่มนี้ เป็นไปตามแนวทางการดำเนินธุรกิจเพื่อความยั่งยืนจากการเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิต ลดการใช้พลังงาน สร้างมูลค่าเพิ่มจากนวัตกรรมสินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม อีกทั้งยังตอกย้ำถึงการเป็นผู้นำเทรนด์นวัตกรรมเพื่อการอยู่อาศัยและมุ่งตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่หลากหลายของแบรนด์ COTTO ด้วย .-สำนักข่าวไทย