5 เรื่องสำคัญถือเป็นทั้งโอกาส-ความท้าทายในตลาดทุนไทย

กรุงเทพฯ 27 เม.ย.- ประธาน ตลท. ชี้ 5 เรื่องสำคัญ ที่จะเป็นทั้งโอกาสและความท้าทายในตลาดทุนไทย ซึ่งเป็นแนวโน้มทั้งระยะสั้นและระยะยาวที่เกี่ยวข้องกับพัฒนาการในตลาดทุน


นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ประธานกรรมการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) กล่าวปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ”บทบาทตลาดเงิน ตลาดทุน สู่จุดเปลี่ยนเศรษฐกิจไทย” ในงานสัมมนา SET ก้าวสู่ปีที่ 48 ขับเคลื่อนตลาดทุนแห่งอนาคต ว่า ที่ผ่านมาตลาดหลักทรัพย์ฯ ประสบความสำเร็จในการทำหน้าที่เป็นสถาบันสำคัญในตลาดทุน ทั้งแง่การลงทุน และการระดมทุนอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งเป็นกลไกสำคัญในการจัดสรรทรัพยากรทุน และขับเคลื่อนการเติบโตเศรษฐกิจของประเทศ

ทั้งนี้ มี 5 เรื่องสำคัญ ที่จะเป็นทั้งโอกาสและความท้าทายในตลาดทุนไทย ซึ่งเป็นแนวโน้มทั้งระยะสั้นและระยะยาวที่เกี่ยวข้องกับพัฒนาการในตลาดทุน คือ 1. พัฒนาการทางด้านภูมิรัฐศาสตร์ 2. ความท้าทายจากสถานการณ์โควิด 3. กระบวนการ Digitalization 4. พัฒนาการด้านสินทรัพย์ดิจิทัล 5. ความยั่งยืนกับการพัฒนาตลาดทุนไทย


เรื่องที่ 1 พัฒนาการทางด้านภูมิรัฐศาสตร์ หรือความเสี่ยงด้าน Geopolitics มีมากขึ้น ซึ่งส่งผลและเชื่อมโยงกับตลาดทุนไทยทั้งทางตรงและทางอ้อม ครอบคลุมเหตุการณ์ทางการเมืองระหว่างประเทศ ความขัดแย้งทั้งในและต่างประเทศส่งผลให้เกิดความไม่แน่นอนในระบบเศรษฐกิจ และการดำเนินธุรกิจทั้งในประเทศและระหว่างประเทศเป็นอย่างมากเช่น ปัญหาทางการค้าระหว่างสหรัฐอเมริกา-จีน, ปัญหาความขัดแย้งระหว่างรัสเซีย-ยูเครน

ซึ่งความเสี่ยงด้าน Geopolitics เหล่านี้ จะมีผลกระทบเชื่อมโยงต่อตลาดทุนโลกและตลาดทุนไทย ทั้งทางตรงและทางอ้อม เช่น ต้นทุนการประกอบธุรกิจจากความผันผวนของราคาพลังงาน, อัตราเงินเฟ้อ, ความผันผวนของค่าเงิน, การเคลื่อนย้ายเงินทุน, การท่องเที่ยว ตลอดจนการนำมาซึ่งมาตรการแทรกแซงการนำเข้า-ส่งออกสินค้า และการทำธุรกรรมภาคการเงิน ซึ่งเชื่อว่าสถานการณ์จะยังทอดยาวไปอีกพอสมควร และอาจเกิดผลกระทบในเชิงโครงสร้างต่อตลาดทุนไทยและตลาดทุนโลกในอนาคตได้

เรื่องที่ 2 ความท้าทายจากสถานการณ์โควิด โดยนับตั้งแต่การเริ่มระบาดของโควิดในประเทศจีนเป็นครั้งแรกเมื่อปลายปี 62 ทุกภาคส่วนในโลกล้วนได้รับผลกระทบทางด้านระบบสาธารณสุข และลุกลามต่อเนื่องมาเป็นปัญหาเศรษฐกิจและสังคมตามมา โดยในส่วนของประเทศไทย จากผลกระทบโควิดดังกล่าว เศรษฐกิจไทยเริ่มจะฟื้นตัวได้ในปี 64 ที่ 1.6% จากในปี 63 ที่เศรษฐกิจไทยติดลบไป 6.1% โดยในปี 64 SET Index เริ่มฟื้นตัว และบริษัทจดทะเบียนเริ่มมีผลการดำเนินงานที่ดีขึ้น หลายองค์กรได้ปรับตัวเพื่อรับการแข่งขัน นำเทคโนโลยีมาใช้ในการพัฒนานวัตกรรมและธุรกิจในแบบ new economy มากขึ้น


แม้ภาพรวมจะเริ่มเห็นการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ รวมทั้งการฟื้นตัวของตลาดทุน แต่ในแต่ละภาคส่วนต่างได้รับผลกระทบและมีการฟื้นตัวที่แตกต่างกัน หรือเป็น K shape โดยอุตสาหกรรมหรือธุรกิจที่ฟื้นตัวได้ดี จะเป็นกลุ่มที่ได้รับประโยชน์จากสถานการณ์โควิด ในขณะที่บางอุตสาหกรรมต้องใช้เวลานานในการฟื้นตัว เพราะได้รับผลกระทบอย่างมากจากการระบาด เช่น การท่องเที่ยวและธุรกิจเกี่ยวเนื่อง ซึ่งการลดช่องว่างในการฟื้นตัวของแต่ละภาคธุรกิจนี้จำเป็นต้องได้รับความช่วยเหลือจากมาตรการของภาครัฐ รวมทั้งอาศัยความร่วมมือจากทั้งภาครัฐและเอกชน ในการผลักดันให้ภาคธุรกิจสามารถแข่งขันได้ดีขึ้นและเติบโตอย่างยั่งยืน ซึ่งในส่วนของตลท.ได้มีส่วนในการผลักดันและช่วยเหลือกลุ่ม SMEs/สตาร์ทอัพ ให้สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ดียิ่งขึ้น เช่น การจัดตั้ง Live Platform ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มเพื่อเป็นแหล่งความรู้และช่วยเตรียมความพร้อมให้ SMEs/สตาร์ทอัพ เข้าสู่ตลาดทุน ในการขณะที่ภาคธุรกิจเองจำเป็นต้องปรับตัวให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป นำดิจิทัลเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้ในการทำธุรกิจ และแสวงหาโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ

ทั้งนี้ ตลาดทุนไทย ถือเป็นทางเลือกในการระดมทุนในช่วงวิกฤตหลายช่วงที่ผ่านมา และเป็นกลไกสำคัญในการยกระดับขีดความสามาถของเศรษฐกิจไทยสู่ระดับภูมิภาค

เรื่องที่ 3 กระบวนการ Digitalization ซึ่งก่อนที่จะเกิดวิกฤติโควิด หลายธุรกิจได้เริ่มมีการนำดิจิทัลเทคโนโลยีเข้ามาใช้ในการพัฒนาการทำงานในด้านต่างๆ เพื่อสร้างโอกาสการเติบโตของธุรกิจ และแหล่งรายได้ใหม่ๆ แต่เมื่อเกิดการระบาดของโควิด ได้ส่งผลต่อการดำเนินชีวิต และการประกอบธุรกิจในวงกว้าง ทำให้หลายองค์กรต้องเร่งกระบวนการ Digitalization ให้รองรับกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนไป และผลักดันองค์กรให้เข้าสู่ Digitalization อย่างเต็มรูปแบบมากขึ้น

ในส่วนของตลาดทุนเอง ก็ได้มีการผลักดันการใช้ดิจิทัลเทคโนโลยี เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพการให้บริการแก่ผู้ร่วมตลาด เช่น การปรับปรุงบริการบริษัทจดทะเบียน แบบ end-to-end process, การใช้ระบบดิจิทัลในกระบวนการทางธุรกิจ เช่น e-Service Platform, e-Proxy Voting, e-Signature, e-Document เป็นต้น การเพิ่มช่องทางดิจิทัลแก่นักลงทุนเพื่อการเข้าถึงบริษัทจดทะเบียน และการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานตลาดทุน เช่น การพัฒนาระบบซื้อขายกองทุน FundConnext และเชื่อมโยงการซื้อขายสินค้า-บริการกับต่างประเทศ เช่น Clearstream

อย่างไรก็ดี ดิจิทัลเทคโนโลยี ก็อาจมีช่องว่างที่นำมาสู่ช่องโหว่ในการเข้าถึงข้อมูล มีการแฮคข้อมูลที่สร้างความเสียหายต่อองค์กร ดังนั้นองค์กรในตลาดทุนจึงจำเป็นต้องให้ความสำคัญกับความปลอดภัยทางไซเบอร์เป็นอย่างมากด้วย

เรื่องที่ 4 การพัฒนาด้านสินทรัพย์ดิจิทัล ในปัจจุบันสินทรัพย์ดิจิทัลได้รับความสนใจอย่างมากจากคนรุ่นใหม่ ทำให้นักลงทุนรุ่นใหม่มีตัวเลือกมากขึ้นในการลงทุนสินทรัพย์ทางเลือก นอกเหนือไปจากการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ทองคำ และสินค้าโภคภัณฑ์ ตลอดจนการลงทุนในตลาดหลัก คือ ตราสารทุน และตราสารหนี้ ซึ่งเป็นการเพิ่มทางเลือกและกระจายความเสี่ยงในการลงทุน เพิ่มการเข้าถึงและการมีส่วนร่วมในตลาดทุน แต่อย่างไรก็ดี ก็มีความเสี่ยงสูงเช่นกัน เนื่องจากมีสินทรัพย์ดิจิทัลมีความผันผวนสูง มีความไม่แน่นอนของกฎระเบียบและการกำกับดูแล รวมทั้งความเสี่ยงในการยืนยันตัวตน และปัญหาภัยทางไซเบอร์

สำหรับประเทศไทยนั้น ภายใต้โครงสร้างการกำกับดูแลในปัจจุบัน สินทรัพย์ดิจิทัลแบ่งได้ 3 ประเภทหลักๆ คือcryptocurrency, investment token และ utility token โดยภาคธุรกิจและกิจการต่างๆ อาจเลือกระดมทุนด้วยการออก investment token และ utility token

ตลาดหลักทรัพย์ก็ได้มีการเตรียมพร้อม platform ที่มีลักษณะเป็น open architecture ซึ่งอยู่ระหว่างขออนุญาตทำธุรกิจ digital asset exchange ที่พร้อมเชื่อมต่อและให้บริการร่วมกับ partner ต่างๆ เพื่อให้บริการการลงทุน การระดมทุน และบริการที่เกี่ยวเนื่องในตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลโดยจะเน้นให้บริการด้าน digital tokens ทั้ง utility และinvestment token

เรื่องที่ 5 ความยั่งยืนกับการพัฒนาตลาดทุน การดำเนินธุรกิจให้ประสบความสำเร็จอย่างยั่งยืนนั้น ต้องมีการขยายแนวคิดให้กว้างขวางขึ้น โดยคำนึงถึงผู้มีส่วนได้เสียต่างๆ สังคมและสิ่งแวดล้อม หรือปัจจัยด้าน ESG (Environmental, Social and Governance) หลักธรรมาภิบาลหรือ governance ถือเป็นโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและปฏิรูปประเทศในด้านต่างๆ ได้อย่างยั่งยืน 

การที่องค์กรให้ความสำคัญกับการเติบโตทางเศรษฐกิจ โดยมีนโยบายบริหารจัดการความเสี่ยงที่มีความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม ย่อมมีผลตอบแทนที่ดีให้แก่ผู้ถือหุ้น ตลาดทุนไทยจะมีบทบาทในการผลักดันให้องค์กรมีการเปิดเผยข้อมูล ESG พร้อมกับการพัฒนาระบบนิเวศธุรกิจที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม การเปิดเผยข้อมูลและรายงานด้านความยั่งยืนแก่ผู้ลงทุน นับเป็นกระบวนการสำคัญที่ช่วยให้ผู้ลงทุนและผู้ใช้ข้อมูลได้เห็นถึงมุมมองการดำเนินธุรกิจในมิติที่กว้างกว่าข้อมูลทางการเงิน ส่งผลให้เกิดความเชื่อมั่นต่อองค์กร

นอกจากจะส่งเสริมการนำหลัก ESG มาพัฒนาการดำเนินงานตามลักษณะการประกอบการของธุรกิจแล้ว ตลาดหลักทรัพย์ฯ ยังได้ส่งเสริมเรื่อง ESG ให้กับทุก stakeholders ในตลาดทุนผ่านโครงการต่างๆ เช่น การลดปริมาณก๊าซเรือนกระจก การจัดการขยะ การปลูกป่า และเตรียมพัฒนา ESG Data Platform เพื่อการนำข้อมูลด้าน ESG ไปใช้ในการลงทุนอย่างมีประสิทธิภาพ

นายประสาร กล่าวว่า ตลาดทุนไทยเติบโตขึ้นมาก ทั้งในแง่การเป็นแหล่งเงินทุนและช่องทางการลงทุน ส่งเสริมความคล่องตัวให้กับภาคธุรกิจ ผ่านการพัฒนาบริการและโครงสร้างพื้นฐาน พร้อมสนับสนุนเรื่องความยั่งยืนให้กับผู้มีส่วนได้เสีย และเมื่อมองไปข้างหน้า ซึ่งน่าจะได้เห็นความเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่องต่อไปในอนาคต.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 4 แสน

18 ก.ค. – เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 400,000 บาท อ้างป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัด และแลกหลักฐานกรณีอดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร มีความสัมพันธ์กับสีกากอล์ฟ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ จ.พิจิตร หลงกลเล่ห์เหลี่ยมของสีกากอล์ฟ โดยเมื่อปี 2559 อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร ส่งข้อความไปหาสีกากอล์ฟ ว่ามีเรื่องสำคัญของบ้านเมืองจะปรึกษา และหว่านล้อมว่าสีกากอล์ฟเป็นบุคคลสำคัญยิ่งที่จะเปลี่ยนแปลงการปกครองส่วนหนึ่งใน จ.พิจิตร ไปในทิศทางที่ดีขึ้น หากให้ความร่วมมือจะมีผู้ใหญ่ใจดีที่พร้อมจะดูแลสีกากอล์ฟและลูก แล้วทิ้งเบอร์โทรศัพท์ไว้ให้ติดต่อกลับ จากนั้นสีกากอล์ฟตอบกลับข้อความ ทำให้อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร เปิดเผยเป้าหมายทันทีว่าต้องการดำเนินการกับพระราชสิทธิเวที ในขณะนั้น (อดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร และอดีตเจ้าอาวาสวัดท่าหลวง จ.พิจิตร ที่เพิ่งสึกไป) ซึ่งมีเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการทุจริต เสพเมถุน และประพฤติตนไม่เหมาะสม อาจเชื่อมโยงมาถึงสีกากอล์ฟ พร้อมเสนอเงิน 1 ล้านบาท แต่สีกากอล์ฟชวนอดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร คุยเรื่องทั่วไป โดยเฉพาะอ้างว่ามีอาการป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัดประมาณ 400,000 บาท […]

“ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ

17 ก.ค. – “ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ งงทำไมคนไทยไม่รักกัน ตอกพรรคที่เพิ่งหลุดร่วมรัฐบาลไป เป็นเขมรหรือไทย หลังติง “ลูกอิ๊งค์” ขายชาติ บอกปัจจุบันการเมืองไม่มีเสถียรภาพเหมือนสมัยรัฐบาล “คึกฤทธิ์” นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก พลิกเกมเศรษฐกิจไทย” และ “พลิกเกมเศรษฐกิจไทย สู่อนาคต” จัดโดย บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) โดยมี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.วัฒนธรรม พร้อมครม. อาทิ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯ และรมว.คมนาคม นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯ และรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายสุชาติ ตันเจริญ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี น.ส.จิราพร สินธุไพร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ […]

แม่ทัพภาค 2 เยี่ยมให้กำลังใจทหารบาดเจ็บเหยียบกับระเบิด

อุบลราชธานี 17 ก.ค.-แม่ทัพภาค 2 เยี่ยมให้กำลังใจทหารได้รับบาดเจ็บเหยียบกับระเบิด ซึ่งอาการโดยรวมดีขึ้น ที่โรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิประสงค์ มณฑลทหารบกที่ 22 อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ได้เข้าเยี่ยมให้กำลังใจกับทหารสังกัดกรมทหารราบที่ 6 ที่ได้รับบาดเจ็บจากการเหยียบกับระเบิดทั้ง 3 นาย ซึ่งมีอาการโดยรวมดีขึ้น สำหรับทหารที่ได้รับบาดเจ็บทั้ง 3 นายประกอบด้วย ส.อ.ปฏิพัทธ์ ศรีลาศักดิ์ มีบาดแผลฟกซ้ำบริเวณหน้าอกจากการถูกแรงอัดระเบิด ตอนแรกมีอาการเจ็บหน้า แต่ปัจจุบันดีขึ้น พลทหารณัฐวุฒิ ศรีเข้ม มีบาดแผลฟกซ้ำที่หน้าอกจากการอัดของระเบิด แน่นหน้าอก แต่ช่วยเหลือตัวเองได้ พลทหารธนพัฒน์ หุยวัน ต้องตัดขาซ้ายใต้เข่าจากแรงระเบิด มีอาการปวดแผล แต่กินอาหารได้ตามปกติ หลังเยี่ยมพูดคุยให้กำลังใจ แม่ทัพก็เดินทางกลับไป เพื่อไปติดตามสถานการณ์ชายแดนด้านจังหวัดสุรินทร์ต่อไป.-711.-สำนักข่าวไทย

จนท. เข้าพบพระพรหมบัณฑิต ขอตรวจสอบบัญชีเงินวัดประยูรฯ

กทม. 17 ก.ค. – ตำรวจ ปปป. ป.ป.ท. และเจ้าหน้าที่สำนักพุทธฯ บุกวัดประยุรวงศาวาส เข้าตรวจสอบบัญชีเงินวัด เบื้องต้น  ยืนยันไม่ใช่การบุกค้นกุฏิ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาส พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา รักษาราชการแทนรองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.), พ.ต.อ.สถาปนา จุณณวัตต์ ผู้กำกับการกองกำกับการ 6 กองบังคับการปราบปราม พร้อมเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธแห่งชาติแห่งชาติ เดินทางเข้าพบพระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร เพื่อพูดคุยและขอข้อมูลเกี่ยวกับเอกสารการเงินภายในวัด หลังอดีตเจ้าคุณประสิทธิ์ อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาส เข้าไปพัวพันกับสีกากอล์ฟ และตรวจสอบข้อเท็จจริงจากคำให้การของพยาน ที่พบเงินถูกพับในลักษณะถูกนำออกมาจากตู้บริจาคในบ้านของสีกากอล์ฟ ซึ่งการตรวจสอบในวันนี้จะเน้นเรื่องเส้นทางการเงินของวัดทั้งหมด ที่ต้องสงสัยว่าอาจมีบางส่วนถูกยักยอก หลังการตรวจสอบ ผู้กำกับการ 6 บก.ปปป. กล่าวว่า ไม่สามารถที่จะเปิดเผยข้อมูลได้ ผู้บังคับบัญชาจะเป็นผู้ชี้แจง หลังจากนี้จะนำข้อมูลต่างๆ กลับไปเรียนให้ผู้บังคับบัญชาได้ทราบ แต่ยืนยันว่า วันนี้เป็นเพียงแค่การเข้ามาขอข้อมูลเท่านั้น ด้านเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติระบุว่า เป็นเพียงการบูรณาการของหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้อง และในการตรวจสอบเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหารแต่อย่างใด มีรายงานเพิ่มเติมว่าเจ้าหน้าที่ทั้ง 3 หน่วยงาน ได้นำกำลังส่วนหนึ่งเข้าไปตรวจสอบที่มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย หรือ […]

ข่าวแนะนำ

กัมพูชา ทำหนังสือส่งถึงไทย ปฏิเสธวางกับระเบิดช่องบก

กัมพูชา 19 ก.ค.-กัมพูชาทำหนังสือส่งถึงไทย ปฏิเสธวางกับระเบิดช่องบก ลั่นยึดมั่นอนุสัญญาออตตาวา ประณามคัดค้าน การผลิต และแสดงความเสียใจผู้ได้รับผลกระทบ พร้อมผลักดันสู่กระบวนการพิสูจน์ เพื่อรักษามิตรภาพ ความปลอดภัย ไม่กล่าวหาซึ่งกัน เมื่อวันที่ 19 ก.ค.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราชอาณาจักรกัมพูชา ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ได้ทำหนังสือ ถึงทางการไทย เรื่อง การปฏิเสธต่อการนําเสนอของสื่อมวลชนไทยจำนวนหนึ่ง กรณีทหารไทย 3 นาย ได้รับบาดเจ็บจากทุ่นระเบิดในพื้นที่มุมเบ็ย (ช่องบก) สำานักงานปฏิบัติการทุ่นระเบิคและช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากทุ่นระเบิดแห่งชาติกัมพูชา (สํานักงานทุ่นระเบิด) ขอแจ้งว่า เมื่อไม่นานมานี้ มีสื่อมวลชนไทยจํานวนหนึ่งได้อ้างอิงแหล่งข้อมูลจากข้าราชการระดับสูงของไทย และเผยแพร่เกี่ยวกับทหารไทย 3 นายได้รับบาดเจ็บจากระเบิด เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2568 บริเวณพิกัด WA 220861 (ยืนยันโดยฝ่ายไทย) อยู่ในพื้นที่มุมเบ็ย (ช่องบก) การเผยแพร่ดังกล่าว มีเจตนา กล่าวหาโดยไม่มีมูลความจริงและไม่มีการตรวจสอบที่ชัดเจนว่ากัมพูชาได้วางทุ่นระเบิดใหม่ ในการนี้สํานักงานทุ่นระเบิด ขอชี้แจงดังนี้ 1.สํานักงานทุ่นระเบิดขอปฏิเสธและปัดตกทั้งหมดต่อเนื้อหาข่าวที่เผยแพร่โดยมีเจตนากล่าวหาว่า กัมพูชาได้วางทุ่นระเบิดใหม่ 2.กัมพูชา […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนตกหนักถึงหนักมาก

กทม. 19 ก.ค.-กรมอุตุฯ เตือนฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก คลื่นลมทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีกำลังค่อนข้างแรง กรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศฉบับที่ 5 เรื่อง ฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณประเทศไทย คลื่นลมแรงบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบน (มีผลกระทบในช่วงวันที่ 19-24 กรกฎาคม 2568) ประเทศไทยจะมีฝนตกหนักหลายพื้นที่และมีฝนตกหนักมากบางแห่ง บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนบน ประเทศลาวตอนบน และประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยจะมีกำลังค่อนข้างแรง ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มจังหวัดที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบจากฝนตกหนักถึงหนักมากมีดังนี้ วันที่ 19 กรกฎาคม 2568ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: จังหวัดหนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม มุกดาหาร อำนาจเจริญ และอุบลราชธานีภาคกลาง: จังหวัดกาญจนบุรี ราชบุรี และสระบุรีภาคตะวันออก: จังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี ระยอง จันทบุรี และตราดภาคใต้: จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี […]

รวบแล้ว “เสือปุ่น” หัวหน้าแก๊งปล้นเงิน 3.4 ล้าน กลางห้างดัง

กรุงเทพฯ 18 ก.ค. – สืบนครบาลจับ “เสือปุ่น” หัวหน้าแก๊งปล้นเงิน 3.4 ล้าน กลางห้างดัง พร้อมสมุน หลังหนีซุกบ้านเช่าย่านลำลูกกา จ.ปทุมธานี เร่งล่าอีก 1 ยังหลบหนี กรณีคนร้าย 7 คน แก๊งเสือปุ่น ใช้อาวุธปืนและมีด ก่อเหตุปล้นเงินสด 3.4 ล้านบาท จากผู้มาซื้อคริปโตฯ เหตุเกิดที่ลานจอดรถชั้น 1 ห้างสรรพสินค้าชื่อดังแห่งหนึ่ง เมื่อคืนวันที่ 30 มิ.ย.ที่ผ่านมา ความคืบหน้าล่าสุด พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล (ผบก.สส.บช.น.) พร้อมด้วย พ.ต.อ.สิทธิศักดิ์ นาคามาตย์ ผู้กำกับการสืบสวนสอบสวน 2 กองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล (ผกก.สส.2 บก.สส.บช.น.) และตำรวจ บก.สส.บช.น. ร่วมกันจับกุม นายวรวัฒน์ หรือ เสือปุ่น อายุ 43 ปี […]

เดินหน้าเอาผิดหญิงกัมพูชาชี้หน้าด่าไล่ทหารไทย

18 ก.ค. – ปกติคดีทำร้ายร่างกายและจิตใจ ไม่ใช่คดีใหญ่ แต่เมื่อเป็นคู่กรณีไทย-กัมพูชา ในสถานการณ์ความตึงเครียดตามแนวชายแดน จึงกลายเป็นคดีระดับประเทศที่ผู้บังคับบัญชาให้ความสำคัญ และดำเนินการอย่างรัดกุม ทั้งคดีอดีตทหารพรานทำร้ายร่างกายทหารกัมพูชา และคดีหญิงกัมพูชา ชี้หน้าด่าไล่ทหารไทยบริเวณปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์.-สำนักข่าวไทย