“ซีพีแรม” ปล่อยลูกพันธุ์ปูม้าลงทะเล 11 ปี กว่าล้านตัว สร้างความมั่นคงทางอาหาร

สุราษฎร์ธานี 27 เม.ย. – ซีพีแรม ร่วมกับชาวสุราษฎร์ธานี ปล่อยลูกพันธุ์ปูม้าลงสู่ทะเลเกาะเสร็จ กว่า 11 ปี รวมกว่าล้านตัว เพื่อสร้างความมั่นคงทางอาหาร พร้อมเปิดโรงงานให้สื่อมวลชนเยี่ยมชมกระบวนการผลิตอาหาร


นายวิเศษ วิศิษฎ์วิญญู กรรมการผู้จัดการ พร้อมด้วยผู้บริหารและพนักงาน บริษัท ซีพีแรม จำกัด รวมทั้งนายอำเภอไชยา ส่วนราชการ และชาวบ้านในพื้นที่ตำบลพุมเรียง อำเภอไชยา ร่วมกันปล่อยลูกพันธุ์ปูม้า จำนวน 200,000 ตัว ภายใต้โครงการ “ปูม้ายั่งยืนคู่ทะเลไทย” ที่บริเวณเกาะเสร็จ อำเภอไชยา ซึ่งเป็นลูกปูม้าระยะ Young Crab ที่เหมาะแก่การปล่อยลงสู่ทะเล รวมทั้งเกาะเสร็จเป็นพื้นที่ที่ไม่มีคนอาศัยอยู่ เหมาะแก่การเจริญเติบโตโดยไม่ถูกรบกวน และสภาพแวดล้อมที่เกาะเสร็จมีที่ให้ลูกปูม้าหลบภัย ซ่อนตัวจากสัตว์อื่น ทำให้มีโอกาสรอดสูงเกือบ 100%

โดย ซีพีแรม ได้ร่วมกับผู้เกี่ยวข้องตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ ได้แก่ ชาวประมง บริษัท วิยะเครป โปรดักส์ จำกัด ผู้แปรรูปเนื้อปู บริษัท ซีพีแรม จำกัด ผู้ผลิตอาหาร และประชาชนผู้บริโภค รวมถึงศูนย์วิจัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำชายฝั่ง เขต 3 สุราษฎร์ธานี ดำเนินโครงการนี้ต่อเนื่องกว่า 11 ปี ปล่อยลูกพันธุ์ปูม้าลงสู่ทะเล รวมกว่า 1 ล้านตัว เพื่อสร้างความมั่นคงทางอาหาร ให้ปูม้าอยู่คู่ทะเลไทยตลอดไป หลังจากปล่อยลูกปูม้าแล้ว ได้ร่วมกันปลูกต้นโกงกาง จำนวน 200 ต้น อีกด้วย


นอกจากนี้ ซีพีแรม ยังเปิดบ้านพาเยี่ยมชมโรงงานสุราษฎร์ธานี ซึ่งผลิตอาหารพร้อมรับประทานและเบเกอรี่ ส่งเซเว่น อีเลฟเว่น 1,600 สาขา ในพื้นที่ 14 จังหวัดภาคใต้ โดยมีทีมวิจัยและพัฒนา พัฒนาเมนูพื้นถิ่นภาคใต้ออกจำหน่ายด้วย เช่น ใบเหลียงผัดไข่ ไก่ผัดพริกแกงใต้ และหมี่เหลืองผัดไก่ มีการจ้างแรงงานในพื้นที่กว่า 700 คน

นายวิเศษ วิศิษฏ์วิญญู กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีพีแรม จำกัด กล่าวว่า โครงการนี้มาจากความห่วงใยของบริษัท ซีพีแรม ในฐานะเป็นบริษัทผลิตอาหาร ซึ่งวัตถุดิบหลักคือ ปูม้า ที่นำมาทำเป็นข้าวผัดปู ซึ่งเป็นยอดนิยมของคนไทย จึงมีความตระหนักดีว่า ปูม้าเป็นปูธรรมชาติ และจะต้องมีความยั่งยืน จึงคิดโครงการปล่อยพันธุ์ปูม้าลงทะเล โดยศูนย์วิจัยและพัฒนาเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำชายฝั่งสุราษฎร์ธานี ได้มีการวิจัย ร่วมมือกันเพาะเลี้ยงให้มากขึ้น ให้แข็งแรง หรือ Young Crab ลงสู่ทะเล ฟื้นฟูธรรมชาติ โดยปีนี้ปล่อย 200,000 ตัวแรก และจะปล่อยเพิ่มอีก โดยมีโครงการมาแล้วหลายปี สะสมแล้วเป็นล้านตัว และระยะนี้เป็นช่วงที่ปูม้ามีรสชาติอร่อยมากที่สุดในประเทศไทย และจะให้คงความสมบูรณ์เช่นนี้ตลอดไป

ด้านนายจรินทร์ เฉยเชยชม ประธานกลุ่มท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์บ้านพุมเรียง กล่าวว่า การที่บริษัท ซีพีแรม ทำกิจกรรมร่วมกับชุมชนครั้งนี้ นับเป็นเรื่องที่ดีมากที่หลายหน่วยงานได้ช่วยกันอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม เพราะโลกใบนี้เป็นของทุกคน อย่างไรก็ตาม เมื่อเราเอาธรรมชาติไปแล้ว เราต้องคืนให้กับธรรมชาติด้วย และธรรมชาติไม่ใช่ของคนใดคนหนึ่ง แต่เป็นของทุกคน. – สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย