กระทรวงการคลัง 20 เม.ย.- คลังแนะใช้สิทธิ “คนละครึ่ง เฟส 4” ก่อนครบกำหนดสิ้นเดือนเมษายนนี้ หลังพบว่าใช้สิทธิครบ 1,200 บาท เพียง 12.69 ล้านราย นักวิชาการห่วง “คนละครึ่ง เฟส 5” หวั่นกระทบฐานะการคลัง
นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า โครงการคนละครึ่งเฟส 4 มีผู้ใช้สิทธิทั้งหมด 26.26 ล้านราย ยอดการใช้จ่ายรวม 60,617 ล้านบาท แบ่งเป็นเงินที่ประชาชนจ่าย 30,863 ล้านบาท และรัฐร่วมจ่าย 29,754 ล้านบาท และมียอดใช้จ่ายสะสมแบ่งตามประเภทตามร้านค้า ได้แก่ร้านอาหารและเครื่องดื่ม 25,329 านบาท ร้านธงฟ้า 10,473 ล้านบาท ร้าน OTOP 2,757 ล้านบาท ร้านค้าทั่วไป20,859 ล้านบาท ร้านบริการ 1,083 ล้านบาท และกิจการขนส่งสาธารณะ 115.5 ล้านบาท
สำหรับประชาชนได้รับสิทธิทั้งหมด 26.38 ล้านราย มีการใช้สิทธิในเฟส 4 ไปแล้ว 25.46 ล้านราย ในส่วนของผู้ประกอบการ มีผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการฯจำนวน 1.35 ล้านราย โดยเป็นผู้ประกอบการรายใหม่ 2.93 หมื่นราย ขณะนี้มีผู้ใช้สิทธิครบ 1,200 บาท จำนวน 12.69 ล้านราย คิดเป็นร้อยละ 48 ของผู้ใช้สิทธิทั้งหมด และยังมีผู้ใช้สิทธิยังไม่ได้เริ่มใช้สิทธิ 1.2 แสนราย คลังจึงเตือนว่าโครงการฯ ระยะที่ 4 จะสิ้นสุดลงในวันที่ 30 เมษายน 2565 จึงแนะให้เร่งใช้สิทธิเหลืออยู่ ก่อนวันสิ้นสุดโครงการ
ขณะที่นายกรัฐมนตรี สั่งให้การหน่วยงานที่เกี่ยวข้องศึกษามาตรการช่วยเหลือลดค่าครองชีพเพิ่มเติม เพื่อลดภาระในช่วงน้ำมันแพง ก่อนหน้านี้นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานหอการค้าไทย เดินหน้าเสนอให้รัฐบาลขยายโครงการคนละครึ่งเฟส 5 หลังจากคนละครึ่งเฟส 4 ใกล้ครบกำหนดในสิ้นเดือนเมษายนนี้ ทั้งนี้เพื่อต้องการให้รายย่อยมีกำลังซื้อรองรับผลกระทบจากราคาสินค้าเพิ่ม จากต้นทุนสูงขึ้น แนวทาง การขยายโครงการคนละครี่งเฟส 5 คนละ 1,500 บาท ผู้ได้ประโยชน์ครอบคลุมถึงประชาชนรายย่อย แม่ค้า ร้านค้า และ SMEs อมรับว่า ารขยายโครงการคนละครึ่งเฟส 5 ต้องจัดหาเงินมารองรับเพิ่มเติม ดังนั้น รัฐบาลควร ขยับเพดานหนี้สาธารณะจากร้อยละ 60 เป็นร้อยละ 70 เพื่อเป็นช่องทางดูแลทุกกลุ่มให้ผ่านปัญหาโควิด-19 และและความขัดแย้งระหว่างรัสเซีย-ยูเครน
นายอนุสรณ์ ธรรมใจ กรรมการวิทยาลัยนานาชาติปรีดีพนมยงค์ หาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวว่า ไม่เห็นด้วยกับการขยายคนละครึ่งเฟส 5 เพราะได้ช่วยเหลือเติมกำลังซื้อผ่านโครงการคนละครึ่ง มาหลายครั้งแล้ว เนื่องจากเห็นว่าการแจกเงิน ควรช่วยเหลือเท่าที่จำเป็น หากขยายต่อไปเรื่อยๆ จะมีผลต่อฐานะทางการคลังของประเทศ และการฟื้นเศรษฐกิจหลังจากนี้ ควรเป็นเน้นไปในด้านการช่วยให้เกิดการจ้างงาน ช่วยให้คนมีงานทำ สร้างรายได้ สร้างอาชีพ เพื่อให้มีรายได้ เศรษฐกิจขยายตัวยั่งยืน ต่หากจำเป็นต้องขยายโครงการฯเฟส 5 ควรนำเงินส่วนที่เหลือจากผู้ไม่ได้ใช้สิทธิ์ 1.2 แสนคน มาขยายช่วยเหลือในกลุ่มเป้าหมายที่จำเป็น หรือหาแนวทางเพิ่มสวัสดิการฯ เพื่อลดค่าใช้จ่ายในกลุ่มเปราะบาง กลุ่มเป้าหมายที่ควรได้รับการช่วยเหลือ.-สำนักข่าวไทย
