สุวรรณภูมิแก้ไขความคับคั่งผู้โดยสารขาเข้าระหว่างประเทศสะดวกขึ้น

กรุงเทพฯ 20 เม.ย.-ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เผยผลการดำเนินการแก้ไขความคับคั่งของผู้โดยสารขาเข้าระหว่างประเทศ โดยผู้โดยสารได้รับความสะดวกมากขึ้น แต่ยังพบปัญหาเจ้าหน้าที่โรงแรมและจำนวนรถยังไม่เพียงพอ ส่วนช่วงเทศกาลสงกรานต์ มีผู้ใช้บริการกว่า 5.8 แสนคน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 119.10% 


นายกิตติพงศ์ กิตติขจร ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.) เปิดเผยว่า จากการที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.) ได้ร่วมกับศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคงประจำท่าอากาศยาน (EOC) การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และผู้ประกอบการโรงแรมและท่องเที่ยว ดำเนินการแก้ไขปัญหาความแออัด ณ จุดนัดหมายระหว่างผู้โดยสารกับโรงแรม บริเวณพื้นที่โถงผู้โดยสารขาเข้าระหว่างประเทศ โดยมีการเปิดช่องทางออกและติดตั้งเคาน์เตอร์ให้บริการของโรงแรมเพิ่มขึ้น และ ททท. ยังได้จัดทำ QR Code ให้ผู้โดยสารสแกน ณ จุดรับกระเป๋าเพื่อตรวจสอบหมายเลขเคาน์เตอร์ให้บริการของโรงแรมที่ได้สำรองห้องพักไว้ เพื่อลดเวลาการค้นหาระหว่างผู้โดยสารกับตัวแทนโรงแรมซึ่งมีเป็นจำนวนมากกว่า 700 โรงแรมนั้น พบว่าสามารถอำนวยความสะดวกให้ผู้โดยสารพบกับตัวแทนโรงแรมได้สะดวกรวดเร็วมากยิ่งขึ้น

อย่างไรก็ตาม ยังคงพบปัญหาผู้โดยสารไม่พบกับตัวแทนโรงแรมที่เคาน์เตอร์ให้บริการโรงแรมตามหมายเลขที่ระบุใน QR Code รวมถึงบางโรงแรมไม่สามารถจัดรถมารับผู้โดยสารได้ตามระยะเวลาที่กำหนด ส่งผลให้ผู้โดยสารใช้ระยะเวลาในการรอรถโรงแรมเป็นเวลานาน ซึ่ง ทสภ. ศูนย์ EOC และ ททท. ไม่ได้นิ่งนอนใจในสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจึงได้ร่วมกันกำหนดมาตรการในการกำกับดูแลโรงแรมให้ปฏิบัติตามแนวทางที่กำหนด โดยต้องจัดตัวแทนและรถมารับผู้โดยสารให้พอเพียง และดำเนินการให้เรียบร้อยภายใน 15 นาที นับตั้งแต่นักท่องเที่ยวมาถึงหน้าเคาน์เตอร์โรงแรมจนถึงขึ้นรถออกจากอาคารผู้โดยสาร ในกรณีรถให้บริการของโรงแรมไม่สามารถเข้ารับผู้โดยสารได้ภายในเวลาที่กำหนด โรงแรมต้องใช้รถ AOT Limousine ที่ ทสภ. ได้จัดเตรียมไว้ หรือรถแท็กซี่ที่ได้รับอนุญาตซึ่งพร้อมให้บริการ นอกจากนี้ ททท. ได้ประสานขอความร่วมมือจากศูนย์ช่วยเหลือนักท่องเที่ยว (TAC : Tourist Assistance Center) และตำรวจท่องเที่ยว เพื่อเข้าช่วยเหลือและอำนวยความสะดวกให้นักท่องเที่ยวบริเวณโถงผู้โดยสารขาเข้าระหว่างประเทศ ( Exit B และ C ) ร่วมกับ ทสภ. และศูนย์ EOC ด้วย


ทั้งนี้ หากพบว่ามีโรงแรมใดไม่ปฏิบัติตามแนวทางดังกล่าว และยังพบปัญหาผู้โดยสารรอรถโรงแรมมารับนานเกินกว่า 15 นาที ททท. จะแจ้งเตือนผู้ประกอบการโรงแรมด้วยวาจาและทางจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ (E-mail) ก่อน จากนั้น หากยังพบการปฏิบัติที่ไม่สอดคล้องกับแนวทางที่กำหนด โรงแรมดังกล่าวจะถูกตัดข้อมูลออกจากระบบ SHA extra plus ทันที ซึ่งจะส่งผลให้ผู้โดยสารไม่เห็นรายชื่อของโรงแรมดังกล่าวในขณะที่กดเลือกจองที่พัก  โดย ทสภ. คาดว่า หาก ททท.มีการกำกับดูแลผู้ประกอบการอย่างเข้มงวดตามมาตรการดังกล่าวจะส่งผลให้ปัญหานี้หมดไปทำให้ผู้โดยสารได้รับความสะดวกรวดเร็วในการใช้บริการมากยิ่งขึ้น ลดความแออัดคับคั่งในพื้นที่ดังกล่าวได้อย่างแน่นอน

นายกิตติพงศ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับในช่วงเทศกาลสงกรานต์ระหว่างวันที่ 9 – 18 เมษายน 2565 ที่ผ่านมา ทสภ. มีผู้โดยสารมาใช้บริการในช่วงดังกล่าวรวมทั้งสิ้น 585,075 คน หรือเฉลี่ยวันละ 45,006 คนซึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับจำนวนผู้โดยสารในช่วงเดียวกันของปี 2564 พบว่ามีจำนวนเพิ่มขึ้นร้อยละ 119.10 แบ่งเป็นผู้โดยสารระหว่างประเทศ244,337 คน (ขาออก 115,436 คน ขาเข้า 123,215 คน ผ่าน 5,686 คน) และผู้โดยสารภายในประเทศ 340,738 คน(ขาออก 169,206 คน ขาเข้า 170,703 คน ผ่าน 829 คน)โดยในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ทสภ. มีผู้โดยสารใช้บริการสูงสุดในวันที่ 17 เมษายน 2565 เป็นจำนวน 65,327 คน  ในส่วนของเที่ยวบินนั้น มีจำนวนทั้งสิ้น 5,490 เที่ยวบินเฉลี่ยวันละ 422 เที่ยวบิน ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับจำนวนเที่ยวบินในช่วงเดียวกันของปีที่แล้วพบว่าเพิ่มขึ้นร้อยละ 17.23 แบ่งเป็น เที่ยวบินระหว่างประเทศ 2,634 เที่ยวบิน และเที่ยวบินภายในประเทศ 2,856 เที่ยวบิน

ทั้งนี้ การให้บริการเดินทางผ่านเข้า – ออกของผู้โดยสารในช่วงเวลาดังกล่าวของ ทสภ. เป็นไปด้วยความเรียบร้อยทสภ. ขอขอบคุณหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ในการจัดเตรียมเจ้าหน้าที่ในการเตรียมความพร้อมเพื่อให้บริการผู้โดยสารในทุกๆ ด้าน โดยคำนึงถึงความสะดวกสบายและความปลอดภัยสูงสุด.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย