กรุงเทพฯ 19 เม.ย.-ราคาน้ำมันดิบพุ่งต่อ ด้าน กฟผ.กู้เงินเสริมสภาพคล่อง 2.5 หมื่นล้านบาท หลังร่วมมือลดภาระค่าไฟฟ้า FT แทนประชาชนชั่วคราว 6 หมื่นล้านบาท ประกาศรับซื้อพลังงานทดแทน ราคาตาม กบง.ประกาศ และเร่งนำเข้า LNG2 ลำเรือ
บมจ.ไทยออยล์ รายงาน ราคาน้ำมันดิบตลาดโลกปรับตัวเพิ่มขึ้น หลังเกิดการประท้วงจากสถานการณ์ความขัดแย้งทางการเมืองในลิเบีย สร้างความกังวลต่ออุปทานที่จะตึงตัวมากขึ้น บริษัทน้ำมันแห่งชาติของลิเบียประกาศเหตุสุดวิสัยที่บ่อน้ำมัน Al-Sharara เมื่อวันจันทร์ที่ผานมาเนื่องจากเหตุการประท้วงส่งผลให้ต้องหยุดการผลิตและทำให้ไม่สามารถผลิตน้ำมันตามสัญญาการผลิตได้ ในขณะที่ การผลิตน้ำมันดิบของรัสเซียในช่วงครึ่งเแรกของเดือนเม.ย. 65 ปรับตัวลดลง 7.5% จากช่วงเวลาเดียวกันของเดือน มี.ค. 65 หลังได้รับแรงกดดันจากการคว่ำบาตร ในขณะเดียวกัน รัฐบาลของสหภาพยุโรปได้กล่าวเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่ากำลังร่างข้อเสนอเพื่อห้ามการนำเข้าน้ำมันดิบของรัสเซีย
นายกิตติ เพ็ชรสันทัด รองผู้ว่าการระบบส่ง การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ในฐานะประธานศูนย์ติดตามสถานการณ์ฉุกเฉินด้านพลังงานของ กฟผ. เปิดเผยว่า เนื่องจากสถานการณ์วิกฤตพลังงานโลกยังทวีความรุนแรง และส่งผลกระทบต่อความมั่นคงด้านพลังงานของประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง กฟผ. จึงดำเนินการตามนโยบายรัฐบาลตามระเบียบคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ว่าด้วยการจัดหาไฟฟ้าระยะสั้นเพื่อรองรับสถานการณ์ฉุกเฉินด้านพลังงาน พ.ศ. 2565 โดยเมื่อวันที่ 11 เมษายน 2565 กฟผ. ได้ออกประกาศรับซื้อไฟฟ้าระยะสั้นจากผู้ผลิตไฟฟ้ารายเล็ก (SPP) เฉพาะรายที่ไม่มีสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับการไฟฟ้า ซึ่งเป็นผู้ผลิตไฟฟ้าจากพลังงานทดแทน จึงถือเป็นความร่วมมืออันดีระหว่างภาครัฐและผู้ผลิตไฟฟ้าเอกชนที่ได้เข้ามามีส่วนร่วมในการแก้ไขวิกฤตพลังงานของประเทศครั้งนี้
โดยกำหนดเปิดให้ยื่นคำเสนอขายไฟฟ้าได้ตั้งแต่วันที่ 18 เม.ย. 2565 ระบุอัตรารับซื้อไฟฟ้าเป็นไปตามมติคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน ( กบง.)คือ สำหรับเชื้อเพลิงชีวมวล ก๊าซชีวภาพ และขยะ ไว้ที่ 2.20บาทต่อหน่วยและโรงไฟฟ้าที่ไม่ใช้เชื้อเพลิงในการผลิตไฟฟ้า ได้แก่ ประเภทพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนหลังคา แบบติดตั้งบนพื้นดิน แบบทุ่นลอยน้ำ และพลังงานลม กำหนดอัตรารับซื้อไว้ที่ 0.50 บาทต่อหน่วย ซึ่งอัตรารับซื้อไฟฟ้าส่วนเพิ่มนี้จะไม่เกินกว่าอัตรารับซื้อไฟฟ้าในสัญญาเดิม
ส่วนปริมาณไฟฟ้าที่คาดการณ์ว่าจะสามารถรับซื้อไฟฟ้าจาก SPP นั้น กฟผ. ไม่สามารถคาดการณ์ปริมาณที่จะรับซื้อได้อย่างแน่นอน เนื่องจากเป็นการรับซื้อไฟฟ้าระยะสั้นจากผู้ผลิตไฟฟ้ารายเล็ก (SPP) เฉพาะรายที่ไม่มีสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับการไฟฟ้า ซึ่ง กฟผ. ไม่มีฐานข้อมูลกลุ่มผู้ผลิตดังกล่าว ที่จะสามารถนำมาคำนวณหรือคาดการณ์ได้
นอกจากนี้ กฟผ. จะเร่งนำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) รูปแบบตลาดจร (Spot) จำนวน 2 ลำเรือ ในช่วงเดือนเมษายน – พฤษภาคม 2565 ปริมาณนำเข้าประมาณ 65,000 ตันต่อลำเรือ เพื่อใช้ทดแทนเชื้อเพลิงน้ำมันดีเซลและน้ำมันเตาสำหรับผลิตไฟฟ้าในโรงไฟฟ้าบางปะกง เนื่องจากปัจจุบันราคาน้ำมันในตลาดโลกปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องและสูงสุดในรอบ 7 ปี บวกกับการคาดการณ์ความสามารถในการจัดส่งน้ำมันของผู้ค้าน้ำมันมาตรา 7 ของกรมธุรกิจพลังงาน ซึ่งคาดการณ์ว่า ในเดือนพฤษภาคมนี้ จะมีปริมาณน้ำมันไม่เพียงพอต่อความต้องการใช้ในการผลิตไฟฟ้าประมาณ 5 ล้านลิตรต่อวัน ซึ่งการจัดหา LNG ครั้งนี้ จะช่วยเสริมความมั่นคงระบบพลังงานของประเทศ และทำให้ต้นทุนค่าเชื้อเพลิงในการผลิตไฟฟ้าลดลงประมาณ 500 ล้านบาท
เมื่อเทียบกับราคาน้ำมันในตลาดโลกที่พุ่งสูงขึ้น
ทั้งนี้ ที่ผ่านมารัฐบาล กระทรวงพลังงาน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เร่งแก้ไขสถานการณ์อย่างเต็มที่ โดยให้ กฟผ. ปรับแผนบริหารจัดการเชื้อเพลิง ใช้น้ำมันดีเซลและน้ำมันเตา ทดแทนก๊าซฯ ในช่วงราคาก๊าซฯ ในตลาดโลกพุ่งสูงระหว่างเดือนพฤศจิกายน 2564 – มีนาคม 2565 สามารถช่วยลดต้นทุนการผลิตไฟฟ้าลงได้ 437.50 ล้านบาท และเลื่อนแผนการปลดโรงไฟฟ้าแม่เมาะ เครื่องที่ 8 ที่ใช้ถ่านหินเป็นเชื้อเพลิง ออกจากระบบไปก่อน 1 ปี โดยระหว่างเดือนมกราคม – มีนาคม 2565 สามารถช่วยลดต้นทุนการผลิตไฟฟ้าลงได้ 3,162.41 ล้านบาท รวมทั้งยังได้รับภาระค่าไฟฟ้าเรื่องต้นทุนเชื้อเพลิง ตั้งแต่งวดเดือนกันยายน 2564 จนถึงงวดเดือนเมษายน 2565 แทนประชาชนเป็นการชั่วคราว ประมาณ 60,000 ล้านบาท เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนให้มากที่สุด ทำให้ กฟผ. ขาดสภาพคล่องทางการเงิน จำเป็นต้องกู้เงินมาลงทุนแล้ว 25,000 ล้านบาท .-สำนักข่าวไทย