กรุงเทพฯ 8 เม.ย.- Fruit Board แนะผู้ส่งออกเพิ่มการขนส่งทางเรือเป็น 55% เนื่องจากโควิดในจีนระบาดเป็นวงกว้าง อาจมีการปิดด่านตามมาตรการ Zero- COVID ของจีน พร้อมขยายตลาดบริโภคในประเทศจาก 30% เป็น40% เพื่อลดผลกระทบต่อทั้งเกษตรกรและผู้ส่งออก
นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์กล่าวว่า นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ประธานคณะกรรมการพัฒนาและบริหารจัดการผลไม้ (Fruit Board) มอบหมายให้เป็นประธานการประชุม Fruit Board
นายอลงกรณ์กล่าวต่อที่ประชุมว่า เป็นห่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิดในจีนระลอกใหม่ซึ่งอาจกระทบต่อการส่งออกผลไม้ของไทย หากจีนปิดด่านนำเข้าสินค้าตามมาตรการ Zero- COVID จึงขอให้ผู้ส่งออกเพิ่มการขนส่งทางเรือให้มากที่สุดเป็น 55% และการขนส่งทางรถไฟสายจีน-ลาวในระบบผสม “ราง-รถ”เป็นทางเลือกเพิ่มเติมเพื่อลดความเสี่ยงของการขนส่งทางรถที่มีความไม่แน่นอนของด่านทางรถที่อาจปิดได้ทุกเมื่อ หากเกิดการระบาดของโควิดในพื้นที่ใกล้เคียง โดยขณะนี้ด่านทุกด่านยกเว้นด่านตงชิงยังเปิดเป็นปกติ
นอกจากนี้ยังต้องเร่งรณรงค์การบริโภคผลไม้ภายในประเทศให้มากขึ้นจาก 30% เป็น 40% เพื่อช่วยสนับสนุนเกษตรกรผู้ปลูกผลไม้ อีกทั้งให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องปฏิบัติตามมาตรการเชิงรุกล่วงหน้าตามแผนการแก้ไขปัญหาผลไม้เศรษฐกิจล่วงหน้าทั้งระบบปี 2565 กรณีเหตุการณ์ไม่ปกติเช่น การกระจายสินค้า ควบคุมคุณภาพ และกระตุ้นการบริโภคผลไม้ สนับสนุนการส่งออกผลไม้การแปรรูปสร้างมูลค่าเพิ่มผลไม้ และช่วยเหลือเยียวยา และฟื้นฟูเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ไม่ปกติ โดยมาตรการดังกล่าวจะรองรับผลไม้ 450,000 ตัน
นายอลงกรณ์กล่าวต่อว่า ในปี 2564 ไทยส่งออกผลไม้ไปจีน 1.6 แสนล้านบาท แต่จีนส่งผลไม้มาไทย 4 หมื่นล้าน นับว่า ไทยได้เปรียบการค้าจีนด้านผลไม้ 3-4 เท่าตัว โดยผลไม้ไทยครองตลาดจีนมีมาร์เก็ตแชร์กว่า 40 % อันดับ 2 คือชีลี 14% เวียดนาม 6% อยู่อันดับ 3 ซึ่งปริมาณการส่งออกผลไม้ไปจีนในปีที่ผ่านมาสูงสุดเป็นประวัติการณ์ เฉพาะทุเรียนส่งออกทะลุ 1 แสนล้านบาทเป็นครั้งแรก แม้จะเผชิญปัญหามาตรการป้องกันการแพร่ระบาดในจีนซึ่งกระทบการขนส่งและการส่งออกเป็นระยะๆ ดังนั้นปีนี้จึงประมาทไม่ได้เนื่องจากคาดคะเนได้ยากว่า การระบาดระลอกใหม่ของโควิดในจีนจะยุติลงเมื่อใด.-สำนักข่าวไทย