กรุงเทพฯ 7 เม.ย.-EXIM BANK ผนึกกำลัง บสย. เติมทุน-ค้ำประกัน เดินเกมเปลี่ยนประเทศไทย หวังฉีดคีโมต้านมะเร็งด้วยสินเชื่อโลจิสติกส์ คิดดอกเบี้ย 5.75 % ยื่นเงื่อนไขห้ามขึ้นค่าขนส่งสินค้า หวังปั้นผู้ส่งออกตัวจริง 1 แสนราย
นายรักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) เปิดเผยว่า การส่งออกเป็นเครื่องจักรสำคัญ ขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยในปี 2565 จากความขัดแย้งระหว่างรัสเซีย-ยูเครน บั่นทอนเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจไทย กดดันให้เงินบาทอ่อนค่าลงร้อยละ 5 นับตั้งแต่เกิดสงคราม ขาดดุลบัญชีเดินสะพัดมากขึ้นจากการนำเข้าน้ำมัน หลายหน่วยงานเศรษฐกิจคาดการณ์ว่า GDP ประเทศไทยในปี 2565 จะขยายตัวไม่ถึง ร้อยละ 3 จากการท่องเที่ยวฟื้นตัวช้า และความเสี่ยงเงินเฟ้อสูง ในเดือนมีนาคมร้อยละ 5.7 สูงสุดในรอบ 13 ปี กดดันกำลังซื้อและต้นทุนการผลิต
กรรมการผู้จัดการ EXIM BANK กล่าวว่า ความยืดเยื้อของสงครามรัสเซีย-ยูเครนเปรียบเสมือน “มะเร็ง” อาจลุกลามและสร้างแรงกดดันทั้งทางตรงและทางอ้อมต่อความเชื่อมั่นและการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจไทย ขณะที่ไทยได้รับผลกระทบในวงจำกัด เพราะมีการค้ากับรัสเซียและยูเครนเพียงร้อยละ 0.6 (รัสเซีย 0.5% ยูเครน 0.1%) ของมูลค่าการค้ารวม สำหรับ ราคาน้ำมันได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 40 และกระทบต่อเนื่องไปยัง การขนส่ง โรงไฟฟ้าพลังงานฟอสซิล เหล็ก ซีเมนต์ รวมถึงกลุ่มธัญพืช กระทบไปยังค่าครองชีพสูงขึ้น การลงทุนอาจได้รับผลกระทบจากเงินบาทที่อ่อนค่า ทำให้การนำเข้าเครื่องจักรและสินค้าทุนราคาแพงขึ้น

ดร.รักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการผู้จัดการ EXIM BANK จึงแถลงจับมือกับ นายสิทธิกร ดิเรกสุนทร กรรมการและผู้จัดการทั่วไป บสย. ออกผลิตภัณฑ์นวัตกรรมใหม่ การให้สินเชื่อแก่ Supply Chain การส่งออก โดยนำ บสย. เข้ามาแทนหลักทรัพย์ค้ำประกัน และปลดล็อกให้ “บุคคล” สามารถกู้เงินทำธุรกิจเพื่อส่งมอบวัตถุดิบให้ผู้ส่งออก เติมเต็มสภาพคล่องให้แก่ผู้ให้บริการโลจิสติกส์ ผ่านสินเชื่อเอ็กซิมเพื่อซัพพลายเออร์ส่งออก สำหรับนิติบุคคลและบุคคล วงเงินกู้สูงสุด 5 ล้านบาทต่อราย คิดดอกเบี้ย Prime Rate (เท่ากับ 5.75% ต่อปี ณ ปัจจุบัน) อายุโครงการ 5 ปี ใช้เพียงหนังสือค้ำประกัน บสย. ร่วมกับผู้บริหารหลัก และ/หรือนิติบุคคลค้ำประกัน พิเศษ! ลดดอกเบี้ยอีก 0.75 % ในปีแรก สำหรับกลุ่มอุตสาหกรรม S-curve ธุรกิจที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม หรือมีเอกสารรับรองคาร์บอนฟุตพริ้นท์ตามที่ธนาคารกำหนด
ตามด้วย สินเชื่อ EXIM Logistics สำหรับผู้ขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ ทั้งทางเรือ ทางบก และทางอากาศ วงเงินกู้สูงสุด 20 ล้านบาทต่อราย อัตราดอกเบี้ยต่ำสุด 5.0% ต่อปีในปีแรก วงเงินไม่เกิน 5 ล้านบาท เพียงใช้หนังสือค้ำประกัน บสย. ร่วมกับบุคคลหรือนิติบุคคลค้ำประกันเท่านั้น พิเศษ! ลดดอกเบี้ยอีก 0.50% ใน 2 ปีแรก สำหรับผู้เข้าร่วมงานและลงทะเบียนในกิจกรรมต่าง ๆ ของ EXIM BANK หรืออยู่ในสมาคมหรือเป็นสมาชิกตามที่ธนาคารกำหนด โดยยื่นเงื่อนไขผู้ขนส่งสินค้า ห้ามขึ้นค่าบริการขนส่งร้อยละ 30 เพื่อไม่ให้กระทบต่อต้นทุนผู้ส่งออก
ผู้สนใจสามารถขอรับบริการได้ตั้งแต่บัดนี้ถึง 31 มีนาคม 2566 สอบถาม EXIM Contact Center โทร. 0 2169 9999 พิเศษ! หากขอสินเชื่อภายในวันที่ 30 มิถุนายน 2565 รับส่วนลดดอกเบี้ยอีก 0.25% ต่อปีในปีแรก ภายใต้ความร่วมมือครั้งนี้ ค่าธรรมเนียม Front-end Fee รวมลดเหลือเพียง 1% จากเดิม 2% กรณีใช้ บสย. ค้ำประกันร่วม เพื่อลดภาระผู้ประกอบการเพิ่มเติม

นายสิทธิกร ดิเรกสุนทร กรรมการและผู้จัดการทั่วไป บสย. กล่าวว่า บสย. พร้อมจับมือพันธมิตรเพื่อให้การสนับสนุนผู้ประกอบการธุรกิจส่งออก และภาคธุรกิจที่เกี่ยวข้อง โดยมีวงเงินค้ำประกันรวม 94,000 ล้านบาท ผ่านโครงการค้ำประกันสินเชื่อ Portfolio Guarantee Scheme ระยะที่ 9 (PGS 9) ประกอบด้วย 3 โครงการสำคัญ ดังนี้
• โครงการ บสย. SMEs นำเข้า-ส่งออก วงเงิน 1,000 ล้านบาท ฟรีค่าธรรมเนียม 3 ปี
• โครงการ บสย. SMEs เติมเต็มรายย่อย วงเงิน 8,000 ล้านบาท ฟรีค่าธรรมเนียม 3 ปี
• โครงการ บสย. SMEs ดีแน่นอน วงเงิน 85,000 ล้านบาท ฟรีค่าธรรมเนียม 2 ปี
วงเงินค้ำประกันจำนวน 94,000 ล้านบาทจะก่อให้เกิดสินเชื่อในระบบอย่างน้อย 116,000 ล้านบาท สามารถช่วยเหลือ SMEs ได้จำนวน 20,600 ราย และยังช่วยรักษาการจ้างงานในระบบกว่า 600,000 ตำแหน่ง ทั้งนี้ถือเป็นภาระกิจสำคัญที่ บสย. ต้องเร่งดำเนินการอย่างต่อเนื่อง
ผู้สนใจสามารถติดต่อได้ตั้งแต่บัดนี้ถึง 30 พฤศจิกายน 2565 สอบถามศูนย์ที่ปรึกษาทางการเงิน SMEs บสย. F.A.Center โทร. 0 2890 9999 หรือ Line @doctor.tcg .-สำนักข่าวไทย