น้ำมันแพง-คนติดโควิดสูง ฉุดสงกรานต์ปีนี้ไม่คึกคัก

กรุงเทพฯ 7 เม.ย.-ประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจหอการค้าไทยระบุปัญหาน้ำมันแพงจากพิษสงครามรัสเซียและยูเครนและคนติดเชื้อโควิดรายวันเกิน 50,000 คน ส่งผลให้เทศกาลสงกรานต์ปี 65 ไม่คึกคัก มีเงินสะพัดเพียง 106,772.59 ล้านบาทลดลงเมื่อเทียบปีที่ผ่านมาร้อยละ 5.4 แต่หากเทียบปี 62 ไม่มีโควิดติดลบถึงร้อยละ 21 ร้องรัฐให้ดูแลค่าครองชีพทุกด้าน


นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาลัยหอการค้าไทยและประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจหอการค้าไทยกล่าวถึงผลสำรวจพฤติกรรมการใช้จ่ายในช่วงเทศกาลสงกรานต์ปี 65 โดยภาพรวมคนตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่ยังคงกังวลจากปัญหาการแพร่ระบาดเชื้อโควิดเพราะจากจำนวนตัวเลขมีติดเชื้อรายวันมีมากกว่า 50,000 คน แม้ว่าตัวเลขผู้ติดเชื้อจะดูมาก แต่คนส่วนใหญ่ก็ยังไม่กังวลเท่ากับปัญหาราคาน้ำมันแพงจากเหตุสงครามรัสเซียและยูเครน โดยเหตุการณ์นี้ทำให้ราคาน้ำมันสูงขึ้นต่อเนื่องทำให้ต้องเสียค่าน้ำมันในการเดินทางมากขึ้น

อย่างไรก็ตาม ทำให้เทศกาลสงกรานต์ในปีนี้ คนส่วนใหญ่จะท่องเที่ยวใกล้บ้านเป็นหลัก เพื่อลดค่าใช้จ่ายในการเดินทางจากปัญหาราคาน้ำมันแพง ขณะเดียวกันในปีนี้ความชัดเจนเกี่ยวกับการเล่นน้ำสงการนต์ถูกจำกัดจากภาครัฐ ซึ่งเกรงว่าจะส่งผลให้คนติดเชื้อโควิดในจำนวนทีมากขึ้นกว่าขณะนี้ จึงทำให้บรรยากาศการเล่นสงการนต์ในปีนี้จึงไม่คึกคักเท่าที่ควร ดังนั้น คนส่วนใหญ่จะหันไปท่องเที่ยวในสถานที่ใกล้บ้าน หรือหากจะไปจะเน้นท่องเที่ยวทะเลหรือไปทำบุญฉลองเทศกาลสงกรานต์กัน โดยจะเน้นใช้จ่ายไม่มาก เนื่องจากผลกระทบจากราคาน้ำมันแพงทำให้สินค้าค่าครองชีพต่างๆ มีราคาแพงกว่าถูกปี


ทั้งนี้ โดยภาพรวมเทศกาลสงกรานต์ปีนี้จะมีเงินสะพัดจำนวร 106,772.59 ล้านบาท ลดลงเมื่อเที่ยบกับปี 64 ร้อยละ 5.4 แต่หากเทียบกับช่วงปี 62 ที่ยังไม่มีโควิดระบาดจะติดลบกว่า 21 ถือว่ามากพอสมควร ดังนั้น สิ่งที่ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจหอการค้าไทยประเมินมองว่า แม้เทศกาลปีนี้จะไม่คึกคักจากเหตุข้าวของแพงจนทำให้คนส่วนใหญ่ไม่กล้าจับจ่ายใช้สอยเพราะของที่แพงขึ้นเท่ากับ ซึ่งกังวลมากกว่าการติดเชื้อโควิดรายวัน รวมทั้งยังมองว่า หากเหตุสงครามรัสเซียและยูเครน แม้จะยืดเยื้อแต่ไม่รุนแรงโอกาสที่ราคาน้ำมันจะเริ่มลดลงได้หลังจากนี้ ทำให้เศรษฐกิจไทยมีโอกาสปรับตัวดีขึ้นในช่วงครึ่งปีหลังนี้ได้ และภาคเอกชนจะต้องไม่ปรับราคาสินค้าที่เร็วเกินไปหรือควรตรึงราคาไว้ก่อนเพื่อช่วยเหลือในด้านค่าครองชีพของประชาชน จึงยังคงมองว่าเศรษฐกิจไทยปีนี้ยังมีโอกาสเติบโตได้ร้อยละ 3-4 ซึ่งขณะนี้หลายสำนักได้ปรับการเติบโตเศรษฐกิจไทยปีนี้โตเพียงแค่ร้อยละ 2.5-3 และหากทุกอย่างดีขึ้นในช่วงครึ่งปีหลังทางศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจหอการค้าไทยจะประเมินกันอีกครั้ง.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

มุกใหม่มิจฉาชีพ

มุกใหม่มิจฉาชีพ! ป่วนโทรแจ้ง ตร. เกิดเหตุร้ายที่บ้านเหยื่อ

อินฟลูฯ สาว สายทำอาหาร ถูกมิจฉาชีพอ้างเป็นตำรวจโทรหา แต่เธอไม่เชื่อ โดนท้าอีก 10 นาทีเจอกัน ปรากฏว่า มีตำรวจจาก 2 โรงพักบุกมาที่บ้านจริง

“วราวุธ” ระบุการแข่งขัน อบจ.-สุพรรณบุรี ไม่มีปัญหา

“วราวุธ” ระบุการแข่งขัน อบจ.-สุพรรณบุรี ไม่มีปัญหา บอกสนามใหญ่ ไม่เข้าไปก้าวก่ายสนามท้องถิ่น ซ้ายก็เพื่อน ขวาก็พวก

ครม.เคาะแจกเงินหมื่นเฟส 2 ผู้สูงอายุ 60 ปี

“จุลพันธ์” เผย ครม.เห็นชอบโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านกลุ่มผู้สูงอายุ วงเงิน 4 หมื่นล้านบาท คาดว่าจะดำเนินการทันก่อน 29 ม.ค.68 รวม 3 มาตรการ สร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบ 1.4-1.5 แสนล้านบาท

ข่าวแนะนำ

เกาะติดทุกโหมดการเดินทางเทศกาลปีใหม่ 2568

เกาะติดทุกโหมดการเดินทางขาออกเทศกาลปีใหม่ 2568 ถนนทุกสาย และระบบขนส่งสาธารณะทุกโหมด มีประชาชนทะลักเดินทางตั้งแต่เย็นวานนี้ (27 ธ.ค.) ภาพรวมเป็นอย่างไร พูดคุยกับนายวิทยา ยาม่วง รองปลัดกระทรวงคมนาคม ในฐานะ ผอ.ศูนย์ปลอดภัยคมนาคม.

หยุดยาววันแรก การจราจรขาออก กทม. มุ่งสู่อีสานเริ่มแน่น

เริ่มหยุดยาววันแรก การจราจรบนท้องถนนขาออกกรุงเทพฯ มุ่งสู่อีสานเริ่มแน่นตั้งแต่เมื่อคืน เช้านี้ ถนนมิตรภาพ ช่วง ต.กลางดง อ.ปากช่อง ชะลอเคลื่อนตัวไปได้เรื่อยๆ ส่วนถนนพหลโยธิน ขาเข้าหนองแค รถเริ่มแน่น