กรุงเทพฯ 4 เม.ย.-กระทรวงอุตสาหกรรม หนุนอุตสาหกรรมจังหวัดทั่วประเทศ นำ BCG Model เข้าไปพัฒนาเศรษฐกิจในท้องถิ่น นำร่อง 16 จังหวัดภาคกลาง ปั้นผู้ประกอบการ 37 ราย เพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจโดยรวมกว่า 52 ล้านบาท พร้อมทั้งยังรักษาสิ่งแวดล้อม ลดของเสียได้เป็นจำนวนมาก
นายกอบชัย สังสิทธิสวัสดิ์ ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า จากนโยบายของรัฐบาลที่มุ่งสร้างเศรษฐกิจ BCG Model หรือเศรษฐกิจชีวภาพ (Bio Economy), เศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) และเศรษฐกิจสีเขียว (Green Economy) ให้เป็นรากฐานในการพัฒนาเศรษฐกิจไทยเพื่อให้เติบโตอย่างเข้มแข็งและยั่งยืน กระทรวงอุตสาหกรรม ได้นำนโยบายการพัฒนา BCG Model ของรัฐบาลมาใช้ในภาคอุตสาหกรรม โดยสำนักงานปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ร่วมมือกับมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ดำเนินโครงการนำร่องในเขตพื้นที่ภาคกลาง ภายใต้โครงการกิจกรรมให้คำปรึกษาเชิงลึกด้านการส่งเสริมและพัฒนาตามแนวทางเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียนและเศรษฐกิจสีเขียว (BCG Model) ตั้งแต่เดือนตุลาคม พ.ศ.2564 – เดือนมีนาคม พ.ศ.2565 พบว่า ได้รับความสนใจจากสถานประกอบการสมัครเข้าร่วมโครงการฯ มากถึง 82 กิจการ
ทั้งนี้ได้ดำเนินการคัดเลือกสถานประกอบการฯ ที่มีศักยภาพซึ่งผ่านเกณฑ์การคัดเลือก จำนวน 37 แห่ง อาทิ ประเภทพลาสติก ปุ๋ยอินทรีย์/อินทรีย์เคมี ผลิตภัณฑ์สมุนไพร เครื่องสำอาง ผลิตภัณฑ์ผ้าทอพื้นเมือง/เสื้อผ้าสำเร็จรูป ผลิตภัณฑ์แปรรูปอาหาร และผู้ประกอบการโรงแรม/รีสอร์ท เป็นต้น ใน 16 จังหวัดพื้นที่ภาคกลาง เพื่อเข้าให้คำปรึกษาเชิงลึก โดยการนำองค์ความรู้ทางเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาช่วย ในการพัฒนาปรับปรุงกระบวนการผลิต และต่อยอดการผลิตสินค้าและบริการ ภายใต้กรอบแนวคิด BCG Model ให้แก่ SMEs พบว่า สามารถเพิ่มประสิทธิภาพ ลดต้นทุนการผลิต สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลิตภัณฑ์ เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ได้แก่ด้าน Bio economy การคิดค้นผลิตภัณฑ์ใหม่เพิ่มมูลค่าจากวัสดุชีวภาพ ด้าน Circular economy การนำของเสียกลับมาใช้ในกระบวนการผลิตใหม่ ด้าน Green economy การเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน การลดมลพิษ โดยผลการดำเนินโครงการสามารถเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจโดยรวมกว่า 12.32 เท่า ของมูลค่าโครงการ หรือประมาณ 52 ล้านบาท
“สำหรับพื้นที่ 16 จังหวัดนำร่องในภาคกลาง อาทิ สมุทรปราการ ปทุมธานี พระนครศรีอยุธยา นครปฐม นนทบุรี สุพรรณบุรี เป็นต้น ขณะนี้ได้มอบหมายให้อุตสาหกรรมจังหวัด เข้าไปร่วมกับผู้ประกอบการในพื้นที่นำแนวทางเศรษฐกิจ BCG ไปใช้ให้เกิดผลสูงสุด ขณะเดียวกันยังเล็งเห็นโอกาสในการผลักดันและสนับสนุนสถานประกอบการที่เข้าร่วมโครงการฯ ในการขอรับรองอุตสาหกรรมสีเขียว (GI) เพื่อการบริหารจัดการสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรที่ดี และสอดคล้องตามกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (ความตกลงปารีส) ในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกอีกด้วย” ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าว.-สำนักข่าวไทย