ระยอง 31 มี.ค. – นายกรัฐมนตรี เปิด “โครงการก่อสร้างนิคมฯ สมาร์ท ปาร์ค” จ.ระยอง กำชับทุกภาคส่วนร่วมผลักดัน-ส่งเสริมการพัฒนาโครงการที่เป็นประโยชน์ ล็อกเป้าพื้นที่ EEC ดึงนักลงทุน-นักท่องเที่ยวจากทั่วโลก ด้าน “สุริยะ” คาดนิคมฯ สมาร์ท ปาร์ค เปิดดำเนินการปี 2567 ชี้ช่วยสร้างมูลค่าเศรษฐกิจในพื้นที่เพิ่มขึ้น
พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานเปิด “โครงการก่อสร้างนิคมอุตสาหกรรมสมาร์ท ปาร์ค (Smart Park)” ตำบลห้วยโป่ง อำเภอเมือง จังหวัดระยอง ผ่านระบบออนไลน์ จากตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล พร้อมเผยว่า การดำเนินโครงการนิคมอุตสาหกรรมสมาร์ท ปาร์ค เป็นอีกหนึ่งโครงการภายใต้นโยบาย Thailand 4.0 การพัฒนานิคมอุตสาหกรรมในพื้นที่เขตเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) ซึ่งรัฐบาลให้ความสำคัญมาโดยตลอด เพื่อเป็นกลไกขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ รองรับการพัฒนากลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมาย (New S-Curve) ที่มีนวัตกรรมและใช้เทคโนโลยีขั้นสูงในการผลิต เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ก่อให้เกิดการลงทุนในด้านต่างๆ ที่ครอบคลุมทุกมิติ รวมถึงอุตสาหกรรมต่อเนื่องด้านอื่นๆ นอกจากนี้ ยังเกิดการจ้างงาน สร้างเศรษฐกิจชุมชน เพิ่มรายได้แก่พี่น้องประชาชนในพื้นที่
“ขอความร่วมมือจากทุกภาคส่วนผลักดันและส่งเสริมการพัฒนาโครงการต่างๆ เพื่อทำให้ EEC และประเทศไทยเป็นจุดหมายสำหรับนักลงทุน รวมถึงนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก ซึ่งจะเป็นฟันเฟืองสำคัญต่อการสร้างความเข้มแข็งเศรษฐกิจไทยอย่างยั่งยืน อย่างไรก็ตาม ต้องคำนึงถึงความเชื่อมโยงทุกมิติ สร้างสมดุลทุกด้านอย่างครอบคลุม ทั้งการส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลและนวัตกรรม การดำเนินธุรกิจที่มีความรับผิดชอบ คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม ตามแนวคิดเศรษฐกิจชีวภาพ-เศรษฐกิจหมุนเวียน-เศรษฐกิจสีเขียว หรือ BCG Economy คำนึงถึงเรื่องพลังงานสะอาดและการอยู่ร่วมกับชุมชน โดยการพัฒนาเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมต้องพัฒนาควบคู่กันกับความเป็นอยู่ของประชาชน และเป็นไปอย่างยั่งยืน” นายกรัฐมนตรี กล่าว
ด้านนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า หลังจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 29 กันยายน 2563 มีมติเห็นชอบการลงทุนในโครงการพัฒนานิคมอุตสาหกรรมสมาร์ท ปาร์ค (Smart Park) ที่ตำบลห้วยโป่ง อำเภอเมือง จังหวัดระยอง พื้นที่ประมาณ 1,400 ไร่ มูลค่าการลงทุน 2,370 ล้านบาท โดยเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ และก่อให้เกิดประโยชน์ต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจและสังคม อีกทั้งยังเป็นการตอบสนองนโยบายรัฐบาล ที่สนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจในพื้นที่ EEC ทั้งนี้ นิคมอุตสาหกรรมสมาร์ท ปาร์ค (Smart Park) อยู่ระหว่างดำเนินการพัฒนา ซึ่งจะก่อให้เกิดประโยชน์ต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจและสังคม ตั้งแต่ระยะก่อสร้าง โดยมีการจ้างงานประมาณ 200 คน ทำให้มีเงินหมุนเวียนเพิ่มขึ้นในพื้นที่ ประมาณ 24 ล้านบาท/ปี ส่วนระยะดำเนินการ มีการจ้างงานประมาณ 7,400 คน ส่งผลให้มีเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจในพื้นที่ประมาณ 1,300 ล้านบาท/ปี โดยคาดว่าจะใช้เวลาในการก่อสร้างนิคมอุตสาหกรรมสมาร์ท ปาร์ค (Smart Park) ประมาณ 3 ปี และสามารถเปิดดำเนินการได้ภายในปี 2567
นายวีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) กล่าวว่า โครงการ “นิคมอุตสาหกรรมสมาร์ท ปาร์ค (Smart Park)” รองรับการพัฒนากลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมาย (New S-Curve) ที่มีนวัตกรรมและใช้เทคโนโลยีขั้นสูงในการผลิตและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ได้แก่ กลุ่มอุตสาหกรรมดิจิทัล กลุ่มอุตสาหกรรมหุ่นยนต์ กลุ่มอุตสาหกรรมการแพทย์ครบวงจร กลุ่มอุตสาหกรรมการบินและโลจิสติกส์ เป็นต้น โดยมีแนวคิดพัฒนาให้เป็นนิคมอุตสาหกรรมต้นแบบที่ทันสมัย ทั้งทางด้านเทคโนโลยีอุตสาหกรรม ระบบการสื่อสาร ระบบการขนส่ง ระบบพลังงาน และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ตามแนวคิดเมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ.-สำนักข่าวไทย