นิติตั้งใหม่เดือน ก.พ.65 ยอดพุ่งทั้งภัตตาคาร-ร้านอาหารโตต่อเนื่อง

นนทบุรี 25 มี.ค.-กรมพัฒนาธุรกิจการค้าเผยนิติบุคคลตั้งใหม่ทั่วประเทศเดือนก.พ.65 ยอดมาแรง 7,211 รายแม้จะลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีที่แล้ว โดย 2 ธุรกิจเริ่มกลับมาได้รับความสนใจเพิ่มขึ้นได้แก่ภัตตาคาร ร้านอาหาร คาดช่วงครึ่งปียอดรวมน่าจะถึงเกิน 42,000 ราย จับตาเชื้อโอมิครอนและสงครามรัสเซียยังเป็นอุปสรรคการฟื้นตัวเศรษฐกิจไทย


นายจิตรกร ว่องเขตกร รองอธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้ากล่าวถึงยอดการจดทะเบียนธุรกิจประจำเดือนก.พ.2565 ผ่านไลฟ์สด ว่า มีผู้ประกอบธุรกิจยื่นขอจดทะเบียนจัดตั้งห้างหุ้นส่วนบริษัทใหม่ทั่วประเทศ จำนวน 7,211 ราย เทียบกับม.ค.2565 ลดลง 10% และเทียบกับก.พ.2564 ลดลง 1% แต่ก็ถือว่าฟื้นตัวดีขึ้นต่อเนื่อง เมื่อเทียบกับการจดตั้งใหม่ที่ชะลอตัวลงตั้งแต่เม.ย.2564 โดยมีมูลค่าทุนจดทะเบียนจำนวน 19,376.01 ล้านบาท และประเภทธุรกิจที่จัดตั้งใหม่สูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และธุรกิจภัตตาคาร ร้านอาหาร ที่กลับมาติดอันดับ 3 อีกครั้ง หลังจากหลุดไปประมาณ 8 เดือน เป็นการตั้งใหม่ตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว และการเปิดประเทศส่วนธุรกิจเลิกประกอบกิจการ มีจำนวน 669 ราย เมื่อเทียบกับม.ค.2565 ลดลง 33% เทียบกับก.พ.2565 เพิ่มขึ้น 15% มีมูลค่าทุนจดทะเบียนเลิกจำนวน 25,643.99 ล้านบาท โดยประเภทธุรกิจเลิกประกอบกิจการสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และธุรกิจภัตตาคารและร้านอาหาร 

ทั้งนี้ ปัจจัยที่ทำให้การจดทะเบียนตั้งใหม่เพิ่มขึ้น เป็นผลจากมาตรการการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานในประเทศ มาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายของรัฐบาล การเปิดประเทศแบบ Test & Go รวมทั้งสถานการณ์การส่งออกที่ดีขึ้นตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก และการอ่อนค่าของค่าเงินบาท ซึ่งมีผลช่วยสร้างความมั่นใจให้ผู้ประกอบการในการจัดตั้งธุรกิจ โดยแนวโน้มการจดทะเบียนตั้งใหม่ในช่วงต่อไป คาดว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด–19 สายพันธุ์โอไมครอน จะยังคงสร้างความกังวลให้ผู้ประกอบการในประเทศ ที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่รายวันเพิ่มสูงขึ้น และยังมีความเสี่ยงเรื่องสงครามระหว่างรัสเซียกับยูเครนที่ส่งผลกระทบต่อราคาน้ำมัน ทำให้ต้นทุนสินค้าสูงขึ้น จึงเป็นอีกปัจจัยที่ผู้ประกอบการต้องคำนึงถึง


ทั้งนี้ กรมฯ ยังคาดการณ์การจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจใหม่ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2565 อยู่ประมาณที่ 40,000–42,000 ราย และตลอดทั้งปี 2565 อยู่ที่ประมาณ 70,000–75,000 ราย และปัจจุบันมีธุรกิจดำเนินกิจการอยู่ทั้งสิ้น (ณ วันที่ 28 ก.พ.2565) จำนวน 822,541 ราย มูลค่าทุน 19.65 ล้านล้านบาท จำแนกเป็นห้างหุ้นส่วนจำกัด ห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคล จำนวน 199,585 ราย คิดเป็น 24.26% บริษัทจำกัด จำนวน 621,635 ราย คิดเป็น 75.58% และบริษัทมหาชนจำกัด จำนวน 1,321 ราย คิดเป็น 0.16% เป็นต้น.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ทุจริตยา

คนไข้เผยรับยาส่งต่อให้นายหน้า ได้ค่าจ้างครั้งละ 1,000 บาท

มีคนไข้ รพ.ทหารผ่านศึก เพียง 50 คน จากกว่า 100 คน ตอบรับเข้าให้ข้อมูลตำรวจ คดีขบวนการทุจริตยาและเวชภัณฑ์ ขณะที่หนึ่งในคนไข้ เผยเข้ารักษาเพื่อยาส่งต่อให้นายหน้ารับซื้อยา ได้ค่าจ้างครั้งละ 1,000 บาท

จับครบ 10 คนแล้ว แก๊งยิงนักศึกษาอุเทนถวายบาดเจ็บ

จับครบตามหมายจับ 10 คน แก๊งยิงนักศึกษาอุเทนถวายบาดเจ็บก่อนวันบลูเดย์ ทั้งหมดยังปากแข็งให้การภาคเสธ ตำรวจพบพฤติการณ์วางแผนครึ่งเดือน ถอดเสื้อมือยิง มีรอยแผลเป็นฟันเฟือง 4 อัน

จับแล้ว! มือยิง นศ.อุเทนก่อนวันบลูเดย์ พบทำเป็นขบวนการ

จับแล้ว! กลุ่มมือยิง นศ.อุเทนฯ ก่อนวันบลูเดย์ พบพฤติการณ์ทำงานเป็นทีม มีคนชี้เป้าให้ยิง มีคนพาแยกย้ายหลบหนี เร่งล่าอีก 1 คาดได้ตัวเร็วๆนี้

ข่าวแนะนำ

คนไทยเจ็บ 4 เหตุเครื่องบินรบเกาหลีใต้ทิ้งระเบิดพลาดขณะซ้อมรบ

โฆษก กต. เผยเหตุเครื่องบินรบเกาหลีใต้ทิ้งระเบิดพลาดในการซ้อมรบร่วมระหว่างเกาหลีใต้-สหรัฐ มีคนไทยได้รับบาดเจ็บ 4 ราย เตรียมเข้าผ่าตัด 1 คน พรุ่งนี้ (7 มี.ค.68) ส่วนอีก 3 คน บาดเจ็บเล็กน้อย

ล่าคนร้ายขว้างไปป์บอมบ์ถล่มป้อมรถไฟยะลา เจ็บ 6

คนร้ายป่วน จ.ยะลา 2 รอบ ขว้างไปป์บอมบ์ ชาวบ้านเจ็บระนาว ก่อนวางระเบิดซ้ำหน้าวัดขณะจัดงานบวช ผู้การยะลา สั่งยกระดับมาตรการดูแลรักษาความปลอดภัยพื้นที่ขั้นสูงสุด ไล่ล่าคนร้าย

คุมตัว 2 แม่ลูก ทำแผนฆ่าสามีใหม่ ลูกชายรับแค้นพ่อเลี้ยงทำร้ายแม่

ตำรวจคุมตัวสองแม่ลูกทำแผนฆ่าสามีใหม่ สารภาพรัดคอปลิดชีพ ก่อนนำศพไปทิ้งอำพราง ส่วนแรงจูงใจก่อเหตุ ลูกชายยอมรับแค้นพ่อเลี้ยงทำร้ายแม่

ยกหูคุยนายกฯ มาเลเซีย ร่วมแก้น้ำท่วมลุ่มแม่น้ำโก-ลก

นายกฯ ยกหูจากเยอรมนีคุย “นายกฯ มาเลเซีย” เตรียมความพร้อมร่วมมือแก้ปัญหาน้ำท่วมลุ่มแม่น้ำโก-ลก ผลักดันโครงการก่อสร้างถนนเชื่อมด่านสะเดาแห่งใหม่-ด่านบูกิตกายูฮิตัม คาดเสร็จภายใน ต.ค.นี้