กรุงเทพฯ 17 มี.ค.-ผู้บริหาร ตลท.ร่วมยินดีและเปิดการซื้อขายหลักทรัพย์บมจ. บีบีจีไอ อย่างเป็นทางการแล้ววันนี้ ด้วยมูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 15,183 ล้านบาทใช้ชื่อย่อในการซื้อขายหลักทรัพย์ ว่า “BBGI”
![](https://tna.mcot.net/wp-content/uploads/2022/03/A5C649B6-2C4C-4976-A1EA-7FB1E1359ECD-1024x566.jpeg)
ดร.ภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) พร้อมด้วยผู้บริหาร ตลท.และผู้บริหาร บมจ. บีบีจีไอ ร่วมกันเปิดตัวและยินดีต้อนรับ บมจ. บีบีจีไอ เข้าจดทะเบียนและเริ่มซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ ในกลุ่มอุตสาหกรรมทรัพยากร หมวดพลังงานและสาธารณูปโภค โดยใช้ชื่อย่อในการซื้อขายหลักทรัพย์ว่า “BBGI” ในวันที่ 17 มีนาคม 2565 อย่างเป็นทางการ
ทั้งนี้ BBGI ดำเนินธุรกิจโดยการถือหุ้นในบริษัทอื่น (Holding Company) ที่ประกอบธุรกิจหลักคือธุรกิจผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เชื้อเพลิงชีวภาพ (Biofuel) ได้แก่ เอทานอล และไบโอดีเซล กำลังการผลิต 1.6 ล้านลิตรต่อวัน แบ่งเป็นเอทานอล 0.6 ล้านลิตรต่อวัน และไบโอดีเซล 1 ล้านลิตรต่อวัน BBGI ซึ่งเกิดจากการตกลงเป็นพันธมิตรทางธุรกิจผลิตภัณฑ์ชีวภาพ ระหว่าง บมจ. บางจาก คอร์ปอเรชั่น (BCP) กับ บมจ. น้ำตาลขอนแก่น (KSL) ซึ่งเป็นผู้ประกอบการชั้นนำในธุรกิจผลิตภัณฑ์เชื้อเพลิงชีวภาพ ทำให้มีความแข็งแกร่งทั้งด้านการจัดหาวัตถุดิบและจัดจำหน่ายผลผลิต บริษัทมีแผนต่อยอดการเติบโตในอนาคตไปสู่ธุรกิจผลิตภัณฑ์ชีวภาพที่มีมูลค่าสูง (High Value Bio-Based Products) ที่เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ดูแลและส่งเสริมสุขภาพที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง เช่น ชีววิทยาสังเคราะห์ (Synthetic Biology) ซึ่งเป็นธุรกิจที่สอดคล้องกับโมเดล Bio-Circular-Green Economy (BCG) ของภาครัฐในการนำพาประเทศไทยไปสู่เป้าหมายของการเป็นประเทศที่มีรายได้สูงและการพัฒนาที่ยั่งยืน ปัจจุบัน บริษัทจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เสริมอาหารภายใต้ แบรนด์ B-Nature Plus และลงทุนกับพันธมิตร Manus Bio Inc. ซึ่งเป็นบริษัทที่ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับเทคโนโลยีชีวภาพขั้นสูงจากประเทศสหรัฐอเมริกา เพื่อจัดจำหน่ายสารให้ความหวาน
อย่างไรก็ตาม BBGI มีทุนจดทะเบียนชำระแล้ว 3,615 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 2.50 บาท ประกอบด้วยหุ้นสามัญเดิม 1,012.80 ล้านหุ้น และหุ้นสามัญเพิ่มทุนที่เสนอขายต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) 433.20 ล้านหุ้น โดยเสนอขายต่อผู้ถือหุ้นเดิมของ BCP และ KSL ในวันที่ 3-8 มีนาคม และบุคคลตามดุลยพินิจของผู้จัดจำหน่ายหลักทรัพย์และผู้ลงทุนสถาบัน วันที่ 9-11 มีนาคม 2565 ในราคาหุ้นละ 10.50 บาท มูลค่าระดมทุน 4,548.60 ล้านบาท (ไม่รวมการจัดสรรหุ้นส่วนเกิน) และมีมูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 15,183 ล้านบาท โดยมีบริษัทหลักทรัพย์ กรุงไทย ซีมิโก้ จํากัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่ายหุ้นสามัญ
นายกิตติพงศ์ ลิ่มสุวรรณโรจน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.บีบีจีไอ กล่าวว่า BBGI เล็งเห็นโอกาสการเติบโตจากธุรกิจผลิตภัณฑ์ชีวภาพที่มีมูลค่าสูงเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ดูแลและส่งเสริมสุขภาพ โดยใช้จุดเด่นด้านความชำนาญในเทคโนโลยีชีวภาพของบริษัทต่อยอดการเติบโต การเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ จะสนับสนุนการดำเนินการตามแผนยุทธศาสตร์ที่จะเข้าลงทุนแบบบูรณาการ ตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มและสร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน เช่น การเข้าลงทุนในสตาร์ทอัพที่มีความรู้และความสามารถในเทคโนโลยีชีวภาพขั้นสูงทั้งในและต่างประเทศ BBGI ตั้งเป้าว่าในปี 2569 จะมีสัดส่วน EBITDA จากกลุ่มธุรกิจผลิตภัณฑ์ชีวภาพมูลค่าสูงที่ส่งเสริมสุขภาพอยู่ที่ 50% ของ EBITDA รวม โดย BBGI มีผู้ถือหุ้นใหญ่หลัง IPO ได้แก่ BCP ถือหุ้นไม่ต่ำกว่า 40.20% และ KSL ถือหุ้นไม่ต่ำกว่า 26.80% ขึ้นกับการใช้สิทธิซื้อหุ้นส่วนเกินและการซื้อหุ้นเพื่อส่งมอบคืน
นอกจากนี้ BBGI มีนโยบายการจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้น ในอัตราไม่น้อยกว่าร้อยละ 40 ของกำไรสุทธิตามงบการเงินเฉพาะกิจการ หลังจากการหักทุนสำรองต่างๆ ตามข้อบังคับของบริษัทและตามกฎหมาย ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับผลการดำเนินงาน ฐานะทางการเงิน แผนการลงทุนและการขยายธุรกิจของกลุ่มบริษัทฯ ภาวะเศรษฐกิจ ความจำเป็นและข้อพิจารณาอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องอีกด้วย.-สำนักข่าวไทย