กรุงเทพฯ 16 มี.ค. – กรมควบคุมมลพิษจะปรับมาตรฐานตรวจควันดำรถยนต์ให้สูงขึ้นกว่าเดิม 15 % เพื่อลดฝุ่นPM2.5 เริ่ม 13 เมษายนนี้
นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมควบคุมมลพิษเปิดเผยว่า วันที่ 13 เมษายน 2565 จะเพิ่มความเข้มงวดการตรวจวัดควันดำรถยนต์โดยใช้มาตรฐานใหม่ ตามประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่อง กำหนดมาตรฐานค่าควันดำของรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์แบบจุดระเบิดด้วยการอัด พ.ศ. 2564 ซึ่งกำหนดค่าความทึบแสงไม่เกิน 30 % จากเดิมไม่เกิน 45 % และค่ากระดาษกรองไม่เกิน 40 % จากเดิมไม่เกิน 50 % ) วิธีการตรวจวัดค่าควันดำขณะเครื่องยนต์ไม่มีภาระ
สาเหตุที่ปรับมาตรฐานตรวจวัดควันดำให้สูงขึ้นเนื่องจากปัญหาฝุ่นละออง PM 2.5 ส่งผลกระทบโดยตรงต่อสิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจ และสุขภาพของประชาชน โดยกรุงเทพมหานครและปริมณฑลมีแหล่งกำเนิดมาจากการขนส่งทางถนน 72.5% ประกอบด้วย รถบรรทุก 28 % รถกระบะ 21% รถบัส 7% รถยนต์นั่ง 10% รถมอเตอร์ไซค์ 5% รถตู้ 1.5 % และอื่นๆ 27.5 % ที่ผ่านมารัฐบาลให้ความสำคัญต่อปัญหานี้ โดยเห็นชอบแผนปฏิบัติการขับเคลื่อนวาระแห่งชาติ“การแก้ไขปญหามลพิษด้านฝุ่นละออง” พร้อมกำหนดให้เพิ่มความเข้มงวดมาตรฐานและวิธีการตรวจวัดการระบายมลพิษจากรถยนต์
สำหรับประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเรื่อง กำหนดมาตรฐานค่าควันดำของรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์แบบจุดระเบิดด้วยการอัด พ.ศ. 2564 นี้เป็นไปตามมาตรฐานสากลซึ่งมุ่งเพิ่มประสิทธิภาพในการควบคุมมลพิษและแก้ไขปัญหา PM2.5 จากแหล่งกำเนิดมลพิษประเภทรถยนต์ โดยอาศัยอำนาจตามความในมาตรา 55 แห่งพระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ. 2535 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยคำแนะนำของคณะกรรมการควบคุมมลพิษ และโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ จึงออกประกาศโดยให้ยกเลิกประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเรื่อง กำหนดมาตรฐานค่าควันดำของรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์แบบจุดระเบิดด้วยการอัด ลงวันที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2562 ซึ่งเป็นประกาศที่ใช้อยู่ปัจจุบัน
ดังนั้น กรมควบคุมมลพิษขอให้ผู้ใช้รถยนต์บำรุงรักษาเครื่องยนต์อย่างสม่ำเสมอเพื่อเป็นการป้องกันการเกิดฝุ่นPM2.5 นอกจากนี้ภาครัฐยังเพิ่มความเข้มงวดในการตรวจวัดควันดำ โดยหากพบว่า เกินค่ามาตรฐานจะลงโทษปรับและงดใช้รถจนกว่าจะแก้ไขให้เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด.-สำนักข่าวไทย