กรุงเทพฯ 15 มี.ค.- การยาสูบฯ จับมือตำรวจ ออกตรวจร้านค้าปลีกบุหรี่ในประเทศ ขายซองละ 68-72 บาท ราคาขายปลีกอนุมัติซองละ 66 บาท ย้ำมีโทษทั้งจำทั้งปรับ
นายนพดล หาญธนสาร รองผู้ว่าการด้านบริหาร รักษาการแทนผู้ว่าการการยาสูบแห่งประเทศไทย (ยสท.) เปิดเผยว่า หลังจากได้ประกาศปรับภาษีสรรพสามิตยาสูบ เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2564 และบุหรี่ทุกยี่ห้อได้ปรับขึ้นราคา แพงเกินราคากำหนดในหลายพื้นที่ เจ้าหน้าที่การยาสูบฯ และตำรวจ ได้ออกตรวจสอบ พบร้านค้าปลีกในพื้นที่กรุงเทพมหานคร และอีกหลายจังหวัด เข้าข่ายกระทำความผิด จำหน่ายบุหรี่ในประเทศ ราคาซองละ 68-72 บาท สูงกว่าราคาขายปลีกที่กรมสรรพสามิตอนุมัติ ซองละ 66 บาท และจำหน่ายบุหรี่จากต่างประเทศ ราคาซองละ 72-75 บาท สูงกว่าราคาขายปลีกที่กรมสรรพสามิตอนุมัติ ซองละ 70 บาท
จากการร้องเรียนของผู้บริโภค เจ้าหน้าที่ตำรวจจากกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) ได้ติดตามพฤติกรรมร้านค้าปลีก และเข้าทำการล่อซื้อบุหรี่จากร้านค้าปลีกที่เข้าข่ายกระทำความผิด จึงเชิญร้านค้าปลีกจำนวนหนึ่งมาให้ข้อมูลเพิ่มเติม เพื่อหาสาเหตุจูงใจขายบุหรี่เกินราคา บางรายอ้างว่าไม่ทราบราคาขายปลีกที่ถูกต้อง บางรายอ้างมีต้นทุนซื้อบุหรี่จากยี่ปั๊ว ซาปั๊วสูง จึงขายปลีกเกินราคาที่กำหนด ส่วนใหญ่มีเจตนากระทำผิดจริง จึงต้องถูกดำเนินคดีตามกฏหมาย ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี หรือปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
นอกจากนี้ หากผู้ประกอบการรายใดหรือบุคคลใด แนะนำ ยุยง ปลุกปั่น ให้ร้านค้าปลีกขายบุหรี่เกินราคา อาจได้รับโทษตามกฏหมายที่เกี่ยวข้องด้วยเช่นกัน
นายนพดล กล่าวเพิ่มเติมว่า หน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังคงเดินหน้าติดตามและลงพื้นที่ตรวจสอบการจำหน่ายบุหรี่ของร้านค้าปลีกทั่วประเทศอย่างต่อเนื่องและเข้มข้นด้วยการล่อซื้อ เพื่อหยุดพฤติกรรมการขายบุหรี่เกินราคา เพราะเป็นการเอาเปรียบผู้บริโภค และซ้ำเติมภาระค่าครองชีพแพง พร้อมขยายผลไปยังยี่ปั๊ว ซาปั๊ว ที่ร้านค้าปลีกไปรับบุหรี่มาจำหน่ายเพิ่มเติม หากพบเห็นร้านค้าปลีกขายบุหรี่เกินราคา หรือหากร้านค้าปลีกหรือผู้บริโภคไม่ทราบหรือไม่มั่นใจราคาบุหรี่ขายปลีกที่ถูกต้อง สามารถสอบถามได้ที่หน่วยเฉพาะกิจ ปปข. โทร. 061-3980164, 080-6847316.-สำนักข่าวไทย