ปราจีนบุรี 9 มี.ค.-นายก อบต. เขาไม้แก้ว จ. ปราจีนบุรี ยื่นหนังสือถึงกรมอุทยานฯ ให้เร่งย้าย “สีดอโหนก” ช้างป่าจากเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน ออกจากชุมชนเขาไม้แก้ว เนื่องจากชาวบ้านหวาดผวาจนไม่กล้าออกไปเก็บเกี่ยวผลผลิต เหตุ “สีดอโหนก” เพิ่งทำร้ายชาวบ้านจนเสียชีวิต
นายประยูร สมโภชน์ นายกอบต. เขาไม้แก้วกล่าวว่า ได้นำหนังสือยื่นต่อผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 2 (ศรีราชา) ซึ่งดูแลเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน จ. ฉะเชิงเทราให้เร่งเคลื่อนย้ายช้างป่า “สีดอโหนก” กลับเข้าในป่าลึกเนื่องจากสีดอโหนกออกมาหากินในต. เขาไม้แก้ว อ. กบินทร์บุรี จ. ปราจีนบุรี โดยเมื่อวันที่ 24 ก.พ. ที่ผ่านมาช้างป่าตัวนี้เพิ่งทำร้ายชาวบ้านเสียชีวิต 1 รายและล่าสุดเมื่อ 4 คืนก่อนบุกเข้าไปใช้งวงเคาะหน้าต่างบ้านของหญิงคนหนึ่ง จากนั้นมายืนกินต้นกล้วยและมันสำปะหลัง ต่อมาเจ้าหน้าที่ชุดเฝ้าระวังและผลักดันช้างป่าของกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืชได้ขับไล่ออกจากบ้านหลังดังกล่าว แต่เจ้าของบ้านซึ่งเป็นหญิงวัย 60 กว่าปีหวาดผวามากจนจะประกาศขายบ้าน
ทั้งนี้ช่วงกลางวัน “สีดอโหนก” จะอยู่ในไร่อ้อยและป่ายูคาลิปตัสซึ่งใกล้กับจุดที่ทำร้ายคนเสียชีวิต บริเวณดังกล่าวมีบ่อน้ำและหย่อมป่าให้ซ่อนตัว ชาวบ้านต่างกลัวจนไม่กล้าออกไปเก็บเกี่ยวผลผลิตทางการเกษตร เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ในพื้นที่แจ้งว่า จะติดปลอกคอติดตามตัว (GPS collar) ซึ่งจะทราบพิกัดของช้างป่า หากออกจากหย่อมป่ามาในชุมชนเจ้าหน้าที่จะเร่งเข้ามาดูแล แต่ทางอบต. เห็นว่า แนวทางดังกล่าวรับรองความปลอดภัยให้ชาวบ้านไม่ได้ จึงขอให้กรมอุทยานฯ จับและเคลื่อนย้ายออกไป โดยอาจจำเป็นต้องวางยาซึมแล้วยกใส่รถบรรทุกขนกลับไปในป่าเขาอ่างฤาไน
นายอำนาจ ม่วงปรางค์ ผู้อำนวยการส่วนอนุรักษ์สัตว์ป่า สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 1 (ปราจีนบุรี) ระบุว่า สาเหตุที่สีดอโหนกไม่ยอมกลับเข้าป่าเนื่องจากพื้นที่ต. เขาไม้แก้วมีความอุดมสมบูรณ์ โดยมีทั้งพืชผลการเกษตรและแหล่งน้ำรวมทั้งมีหย่อมป่าที่เหมาะจะซ่อนตัวและพักผ่อนในเวลากลางวัน ปกติแล้ว ช้างออกหากินกลางคืน ส่วนกลางวันจะอยู่ตามร่มไม้เพื่อหลบร้อนและนอน ดังนั้นสีดอโหนกจึงไม่กลับเข้าป่า โดยเจ้าหน้าที่พยายามส่งเสียงดังเพื่อขับไล่และผลักดันแล้ว ขณะนี้ประสานสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 2 (ศรีราชา) ให้ส่งเจ้าหน้าที่ชุดเฝ้าระวังและผลักดันช้างป่ามาเสริมกำลังเฝ้าระวังในชุมชนแล้ว.-สำนักข่าวไทย