ปราจีนบุรี 8 มี.ค. -ฟาร์มสุกรแห่งหนึ่งในจ. ปราจีนบุรีระบุ ราคาวัตถุดิบอาหารสัตว์ที่สั่งซื้อมาผสมเองปรับสูงขึ้นต่อเนื่อง รวมทั้งอาหารสัตว์สำเร็จรูปที่ซื้อใช้บางส่วนจะปรับอีก 8% เนื่องจากสถานการณ์รัสเซีย-ยูเครน โดยหากสู้รบกันยืดเยื้อ อาจขาดแคลนวัตถุดิบบางอย่างเพราะประเทศผู้ผลิตงดส่งออก ถ้าผู้เลี้ยงต้องปรับราคาสุกรมีชีวิต ย่อมส่งผลถึงผู้บริโภคซึ่งเป็นปลายทางแน่นอน
นายภวพรรธน์ ปฐมโพธิวัฒน์ ผู้จัดการฝ่ายผลิต ลิ้มไพบูลย์ฟาร์ม อ. เมือง จ. ปราจีนบุรีกล่าวว่า “ลิ้มไพบูลย์ฟาร์ม” เป็นฟาร์มขนาดกลาง มีสุกรประมาณ 2,500 แม่ ประสบปัญหาต้นทุนอาหารสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยสั่งซื้อวัตถุดิบมาผสมอาหารเอง แต่ด้วยความเป็นบริษัทเล็กจึงเกรงว่า อาจไม่สามารถจัดหาวัตถุดิบได้ตลอด ทำให้จำเป็นต้องซื้ออาหารสัตว์สำเร็จรูปของบริษัทผู้ผลิตรายใหญ่มาใช้ด้วย
จากความขัดแย้งระหว่างรัสเซีย-ยูเครนส่งผลให้ราคาวัตถุดิบอาหารสัตว์เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ยังทำให้เกิดความไม่แน่นอนในการจัดหาวัตถุดิบที่สำคัญเช่น ข้าวสาลีซึ่งไม่สามารถส่งออกจากรัสเซียและยูเครนได้ ถั่วเหลืองซึ่งอาร์เจนตินาประกาศจะงดส่งออกเพื่อสงวนไว้ใช้ในประเทศ ส่วนข้าวโพดนั้น ประเทศไทยจำกัดการนำเข้า ขณะที่ผลผลิตในประเทศมีไม่เพียงพอต่อความต้องการใช้ผลิตอาหารสัตว์
ปัจจุบันต้นทุนอาหารสัตว์คิดเป็น 70% ของต้นทุนการเลี้ยงสุกร แต่ล่าสุดบริษัทผู้ผลิตอาหารสัตว์แจ้งว่า จะขอปรับราคาอาหารสัตว์สำเร็จรูปขึ้นอีก 1.20 บาทต่อกิโลกรัมหรือคิดเป็น 8% ของราคาอาหารสัตว์ โดยเป็นผลจากสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครน ซึ่งจะทำให้ต้นทุนการผลิตสุกรสูงขึ้นด้วย หากผู้เลี้ยงต้องปรับราคา หรือถ้าสู้ต้นทุนไม่ไหวแล้วหยุดเลี้ยง ดังเช่นช่วงก่อนหน้านี้ที่เกษตรกรกังวลเรื่องโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร (ASF) จะทำให้ปริมาณเนื้อสุกรในตลาดลดลงและส่งผลต่อผู้บริโภคแน่นอน เพียงแต่ราคาอาจจะไม่ปรับสูงขึ้นมากเท่าช่วงปลายปี 2564 ต่อเนื่องถึงต้นปี 2565 เนื่องจากกำลังซื้อของผู้บริโภคยังไม่กลับมาเป็นปกติเพราะการระบาดของโควิด-19 และนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้ามายังมีน้อย.-สำนักข่าวไทย