กรุงเทพฯ 24 ก.พ.- สปสช. จับมือธนาคารกรุงไทย ใช้แอป “เป๋าตัง” คัดกรองประชาชนลงทะเบียนรับชุดตรวจ ATK สำหรับชาวบ้านทุกสิทธิกลุ่มเสี่ยง ใช้ตรวจหาเชื้อโควิด-19 ด้วยตนเอง กระจายกว่า 2,000 แห่งทั่วประเทศ เริ่ม 1 มี.ค.
นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เปิดเผยว่า การกระจายชุดตรวจ ATK เพื่อเพิ่มโอกาสของประชาชนกลุ่มเสี่ยง เพื่อลดภาระในการจัดหาของประชาชน โดย สปสช.จะทำหน้าที่เป็นกลไกกลาง ประสานกับผู้จำหน่าย ATK ในบัญชีนวัตกรรม องค์การเภสัชกรรม เพื่อให้ได้ในราคาเหมาะสมและจำนวนตามความต้องการของหน่วยบริการ เมื่อประชาชนคัดกรองความเสี่ยงจากเชื้อโควิด-19 ผ่านแอปพลิเคชัน เป๋าตังแล้ว หากผลประเมินว่าเป็นกลุ่มเสี่ยง ยื่นขอรับชุดตรวจ ATK ได้ที่หน่วยบริการ ได้แก่ ร้านยา คลินิกพยาบาล คลินิกกายภาพบำบัด หน่วยเทคนิคการแพทย์ฯ หรือหน่วยบริการอื่นกว่า 2,000 แห่ง ยืนยันการให้บริการผ่านแอปเป๋าตัง กรณีไม่มีมือถือสมาร์ทโฟนไปขอรับโดยตรงได้ที่หน่วยบริการที่เข้าร่วมโครงการตามขั้นตอน
สำหรับการกระจายชุดตรวจ ATK ในรอบนี้ สปสช. ได้ปรับรูปแบบใหม่ โดยให้หน่วยบริการร่วมกระจาย ATK เบิกจ่ายชดเชยจาก สปสช. ในราคา 55 บาทต่อชุด รวมค่าชุดตรวจ ค่าบริการในการให้คำแนะนำการใช้ชุดตรวจ การอ่านผล และการปฏิบัติตัวของประชาชน ประชาชนจะได้รับครั้งละ 1-2 ชุด ห่างกัน 5-10 วัน หมายความว่าถ้าได้รับแจก 1 ชุด อีก 5 วันหลังรับไปแล้ว สามารถมาขอรับได้อีก แต่ถ้าได้รับ 2 ชุด อีก 10 วันหลังรับไปแล้วสามารถมาขอรับได้อีก ทำให้ประชาชนกลุ่มเสี่ยงได้รับ ATK อย่างทั่วถึง
นายธวัชชัย ชีวานนท์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสายงาน สายงานบริหารจัดการทางการเงินเพื่อธุรกิจธนาคารกรุงไทย กล่าวว่า “โครงการกระจายอุปกรณ์ตรวจแอนติเจนด้วยตนเอง (ATK) เพื่อคัดกรองการติดเชื้อ COVID-19” ของประชาชนกลุ่มเสี่ยง ผ่านแอปฯ เป๋าตัง เป็นการขยายบริการให้ครอบคลุมการเข้าถึงสิทธิสร้างเสริมสุขภาพและระบบสาธารณสุขอย่างต่อเนื่อง สำหรับประชาชนคนไทยทุกสิทธิ ที่เป็นกลุ่มเสี่ยงติดเชื้อโควิด-19 สามารถทำตามขั้นตอน ดังนี้
กรณีรับบริการผ่านสมาร์ทโฟน
· เข้าแอปฯ เป๋าตัง/กระเป๋าสุขภาพ เลือก “ฟรี ชุดตรวจโควิด”
· ทำแบบประเมินความเสี่ยงก่อนรับชุดตรวจโควิด-19
· ค้นหาหน่วยบริการใกล้ฉันและโทรติดต่อสอบถาม
· เดินทางไปรับพร้อมมือถือที่มีแอปฯเป๋าตัง เพื่อใช้สแกน QR Code แอปถุงเงินของหน่วยบริการ
· หากมีความเสี่ยงและได้รับชุดตรวจ 1-2 ชุด นำกลับมาตรวจและบันทึกผลผ่านแอปเป๋าตัง/กระเป๋าสุขภาพ
กรณีไม่มีสมาร์ทโฟน
· โทร 1330 สอบถามข้อมูลหน่วยบริการที่เข้าร่วมโครงการ
· เดินทางไปที่หน่วย พร้อมบัตรประชาชน/สูติบัตร เพื่อให้ ตัวแทน ทำประเมินความเสี่ยงให้
· หากมีความเสี่ยงจะได้รับชุดตรวจ 1-2 ชุด และนำกลับมาตรวจและกลับมาแจ้ง ตัวแทน ที่ให้บันทึกผลตรวจให้
· สิ้นวัน ตัวแทน สแกน QR Code แอปถุงเงินของหน่วยตนเองเพื่อบันทึกการแจก (แจกได้ 100 คน/วัน)
โดยที่ผ่านมา ธนาคารกรุงไทยได้ร่วมกับ สปสช. เปิดให้ประชาชนจองสิทธิการเสริมสร้างสุขภาพและป้องกันโรครวม 16 บริการ ผ่านกระเป๋าสุขภาพ หรือ Health Wallet บนแอปพลิเคชันเป๋าตัง เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกให้กับ สำหรับผู้ที่ยังไม่เคยดาวน์โหลดแอปฯ เป๋าตัง สามารถดาวน์โหลดและลงทะเบียนได้ที่ https://krungthai.com/link/paotang-ktbwallet โดยธนาคารกรุงไทย ได้พัฒนาระบบแอปฯ เป๋าตัง รองรับนโยบายของภาครัฐ ทำให้คนไทยเข้าถึงบริการและมาตรการต่างๆ ของภาครัฐได้อย่างทั่วถึง
รศ.(พิเศษ) ภก.กิตติ พิทักษ์นิตินันท์ นายกสภาเภสัชกรรม กล่าวว่า ขณะนี้มีร้านยาเข้าร่วมโครงการประมาณ 1,500 ร้านทั่วประเทศและยังรับสมัครเพิ่มเรื่อยๆ โดยปรับระบบใหม่ จากเดิม ต้องไปรับ ATK จากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด เปลี่ยนเป็นให้ร้านยาสามารถจัดหาได้เอง โดย สปสช. จ่ายเงินให้ชุดละ 55 บาท ทำให้ร้านยามีความยืดหยุ่นจัดหา ATK ได้เหมาะสมตามความต้องการของประชาชนมากขึ้น ขณะที่สภาเภสัชกรรมได้เจรจากับองค์การเภสัชกรรม (อภ.) ให้เป็นผู้สนับสนุนหลักในการจัดหา ATK แก่ร้านยาที่เข้าร่วมโครงการ เพราะการที่ อภ. ซื้อในลอตใหญ่จะช่วยให้จัดหาได้ในราคาต้นทุนที่ต่ำ
ขณะเดียวกันยังได้ประสานกับบริษัทผู้จัดจำหน่ายที่มีสินค้าอยู่ในสต๊อกและยินดีขายในราคาพิเศษแก่ร้านยาที่เข้าร่วมโครงการ ทางสภาเภสัชกรรม พร้อมจัดทำรายชื่อบริษัทขาย ATK ในราคาพิเศษให้ร้านยา เข้าร่วมโครงการได้รับทราบและเตรียมสั่งซื้อต่อไป โดยสปสช. จ่ายเงินผ่านระบบของแอปพลิเคชันเป๋าตัง ทำให้เกิดความรวดเร็วมากขึ้น จะทำให้ร้านยาสนใจเข้าร่วมกระจาย ATK มากขึ้น .-สำนักข่าวไทย