กรุงเทพฯ 23 ก.พ. – กรมอุทยานฯ ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือกับบริษัท สยามแม็คโครฯ นำ “อาหารส่วนเกิน” จากห้างแม็คโครส่งช่วยเหลือสัตว์ป่าในความดูแลของกรมอุทยานฯ ซึ่งนับวันยิ่งเพิ่มจำนวนขึ้น ขณะที่งบประมาณถูกตัดลด ด้านมูลนิธิสืบนาคะเสถียรยังห่วงงบจัดหาเวชภัณฑ์และนมดูแลลูกสัตว์ป่า วอนรัฐบาลไม่ตัดงบอีก
นายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืชลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือด้านอาหารเพื่อสัตว์ป่าร่วมกับนางศิริพร เดชสิงห์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานสื่อสารองค์กร บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน)
นายธัญญากล่าวว่า จำนวนสัตว์ป่าที่กรมอุทยานฯ ได้แก่ สัตว์ป่าพ่อแม่พันธุ์ สัตว์ป่าของกลาง และสัตว์ป่าจากกรณีแก้ไขปัญหาสวัสดิภาพเพิ่มขึ้นทุกปี ขณะที่งบประมาณดูแลมีจำกัด ใน 2565 งบส่วนนี้ได้รับการจัดสรรลดลงอีก โดยเพียงพอแค่ 2-3 เดือน ประกอบกับสถานการณ์โควิด-19 ทำให้รายได้ของกรมอุทยานฯ จากค่าเข้าชมอุทยานแห่งชาติและเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าลดลงจากปีละ 2,000 ล้านบาทเหลือเพียง 300 ล้านบาท ซึ่งกรมอุทยานฯ เปลี่ยนแปลงงบประมาณจากส่วนอื่นมาแก้ไข
ดังนั้นการที่บริษัทสยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน)
สนับสนุนอาหารเพื่อสัตว์ป่าด้วยการนำอาหารที่ยังรับประทานได้หรือ “อาหารส่วนเกิน” (Food Waste) จากการจำหน่ายเช่น ผัก ผลไม้ เนื้อสัตว์ เป็นต้น ส่งต่อให้สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่า 23 แห่ง ศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ป่า 3 แห่ง และศูนย์พัฒนาการจัดการสัตว์ป่าบึงฉวาก 1 แห่ง รวม 27 แห่ง จึงเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในการเสริมสร้างสวัสดิภาพสัตว์ป่า โดยบันทึกข้อตกลงความร่วมมือฉบับนี้มีระยะเวลา 2 ปี
ด้านผู้บริหารแม็คโครระบุ บริษัท สยามแม็คโครจำกัด (มหาชน) ประสบปัญหา “อาหารส่วนเกิน” เพิ่มปริมาณขึ้น ต้องในไปกำจัดด้วยการฝังกลบ นอกจากนี้แม็คโครมีเป้าหมายลด “อาหารส่วนเกิน” จนเหลือศูนย์ในปี 2030 ดังนั้นการร่วมมือกันของทั้ง 2 หน่วยงานจะช่วยเหลือสัตว์ป่าจำนวนมากได้ ขณะเดียวกันสามารถสนับสนุนงานของของกรมอุทยานฯ ที่ขณะนี้ประสบปัญหาด้านงบประมาณ ทั้งยังดีต่อสิ่งแวดล้อมด้วยเนื่องจากปกติแล้วต้องนำไปกำจัดด้วยการฝังกลบทุกวัน
สำหรับอาหารดังกล่าว แม้ไม่เหมาะสมต่อการจำหน่ายเช่น สินค้าหมดอายุ หรือสินค้าสดที่ต้องเปลี่ยนของใหม่มาแทน แต่ยังรับประทานได้ ส่วนการขนส่งไปช่วยสัตว์ป่าสามารถดำเนินการได้เลยจากแม็คโครสาขาที่อยู่ใกล้หน่วยงานดูแลสัตว์ป่าของกรมอุทยานฯ คาดว่า ปีนี้จะสนับสนุนได้ประมาณ 240 ตัน
นายศศิน เฉลิมลาภ ประธานมูลนิธิสืบนาคะเสถียรซึ่งเป็นผู้ประสานงานให้เกิดความร่วมมือด้านอาหารสัตว์ป่าครั้งนี้กล่าวว่า เป็นห่วงสัตว์ป่าและเห็นใจเจ้าหน้าที่ที่ดูแลสัตว์ป่าเช่นในศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ป่า หากงบซื้ออาหารหมด สัตว์ถึงกับตายยกศูนย์ได้ ในปีนี้ที่แม็คโครมาช่วยเหลือ จะทำให้สามารถนำงบประมาณที่เหลือไปจัดซื้อเวชภัณฑ์และนมแพะสำหรับเลี้ยงลูกสัตว์ รวมถึงค่าขนส่งอาหาร แต่ยังเป็นห่วงว่า งบที่เหลือจะเพียงพอสำหรับจัดซื้อเวชภัณฑ์เวชภัณฑ์ได้เพียงพอตลอดปีหรือไม่ จึงขอให้ในปีต่อไป รัฐบาลไม่ตัดงบประมาณจัดซื้ออาหารและดูแลสวัสดิภาพสัตว์ป่าซึ่งเป็นสิ่งที่นานาอารยประเทศให้ความสำคัญ.-สำนักข่าวไทย
